ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
ปธน.สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ต้อนรับ "คณะตัวแทนกลุ่มพันธมิตรไต้หวันในรัฐสภาลิทัวเนีย" อย่างอบอุ่น
2024-01-26
New Southbound Policy。ปธน.สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ต้อนรับ
ปธน.สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ต้อนรับ "คณะตัวแทนกลุ่มพันธมิตรไต้หวันในรัฐสภาลิทัวเนีย" อย่างอบอุ่น (ภาพจากทำเนียบประธานาธิบดี)

ทำเนียบประธานาธิบดี และกระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 25 ม.ค. 67
 
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 25 ม.ค. ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้การต้อนรับ "คณะตัวแทนกลุ่มพันธมิตรไต้หวันในรัฐสภาลิทัวเนีย" โดยชี้ว่า การเดินทางมาเยือนของคณะตัวแทนในครั้งนี้ นอกจากจะแสดงให้เห็นถึงพลังสนับสนุนที่รัฐสภาลิทัวเนียมีต่อไต้หวันอย่างไม่แบ่งแยกฝักฝ่ายแล้ว ยังเป็นการประกาศให้ทั่วโลกรู้ว่า ไต้หวัน – ลิทัวเนีย ต่างยึดมั่นในค่านิยมด้านประชาธิปไตยร่วมกัน ปธน.ไช่ฯ ยังใช้โอกาสนี้แสดงความขอบคุณต่อรัฐสภาและรัฐบาลลิทัวเนีย ที่ให้การสนับสนุนไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมในเวทีนานาชาติ ผ่านช่องทางต่างๆ ที่หลากหลาย ตลอดจนเรียกร้องให้ทุกแวดวงร่วมให้ความสำคัญต่อประเด็นช่องแคบไต้หวัน แสดงให้เห็นถึงมิตรภาพอันหนักแน่นของกลุ่มประเทศประชาธิปไตยที่มุ่งให้การสนับสนุนร่วมกัน เชื่อว่า ภายใต้ความพยายามของทั้งสองฝ่าย พวกเราจะสามารถร่วมกันเสริมสร้างความทรหดทางประชาธิปไตยและความยึดหยุ่นทางเศรษฐกิจได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมอุทิศคุณประโยชน์ในการพัฒนาความเจริญรุ่งเรืองให้แก่ทั่วโลกต่อไป
 
หลายปีมานี้ ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – ลิทัวเนีย นับวันยิ่งดำเนินไปในทิศทางเชิงลึกยิ่งขึ้น อันจะเห็นได้จากก่อนหน้านี้ ทั้งสองฝ่ายได้ทยอยลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการเกษตร การแพทย์และสาธารณสุข และเทคโนโลยี เป็นต้น สำหรับอุตสาหกรรมที่เป็นจุดเด่นของลิทัวเนีย เช่น เทคโนโลยีชีวภาพและอุตสาหกรรมเลเซอร์ ไต้หวันก็ได้มุ่งเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าแบบทวิภาคี ผ่าน “กองทุนด้านการลงทุนในภูมิภาคยุโรปกลางและยุโรปตะวันออก”
 
ปธน.ไช่ฯ ชี้อีกว่า ในระยะนี้ เราจะสามารถพบเห็นสินค้านำเข้าจากลิทัวเนียวางจำหน่ายอยู่ทั่วไป ทั้งในซูเปอร์มาร์เก็ตและช่องทางการค้าปลีกซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่ประชาชนชาวไต้หวัน ปธน.ไช่ฯ ยังหวังที่จะเห็นทั้งสองฝ่าย มุ่งสร้างความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนในด้านวัฒนธรรม เศรษฐกิจและการค้าร่วมกันต่อไป
 
ปธน.ไช่ฯ เน้นย้ำว่า ภายใต้ความมุ่งมั่นพยายามของทั้งสองฝ่าย ซึ่งต่างยึดมั่นในค่านิยมด้านประชาธิปไตย เสรีภาพและสิทธิมนุษยชน จะทำให้สามารถมุ่งสู่แนวทางการเสริมสร้างความทรหดทางประชาธิปไตย ควบคู่ไปกับการสร้างความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการอุทิศคุณประโยชน์ด้านการพัฒนาความเจริญรุ่งเรืองให้แก่ทั่วโลกต่อไป
 
Mr. Matas Maldeikis ชี้ว่า ความเป็นผู้นำของปธน.ไช่ฯ มีอิทธิพลต่อความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก ส่งผลให้ไต้หวัน – ลิทัวเนียได้มีความเชื่อมโยงระหว่างกันผ่านแผนกลยุทธ์ต่างๆ โดยเฉพาะในด้านเซมิคอนดักเตอร์ โดย ปธน.ไช่ฯ ประจักษ์ถึงศักยภาพของความร่วมมือระหว่างสองประเทศ จึงมีการดำเนินมาตรการที่ช่วยกระตุ้นความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนระหว่างกัน เช่นในด้านเซมิคอนดักเตอร์ที่เป็นองค์ประกอบทางเทคโนโลยีที่สำคัญในยุคสมัยใหม่ ถือเป็นการปูรากฐานความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ระหว่างไต้หวัน - ลิทัวเนีย โดยการผลักดันอย่างเต็มกำลังของปธน.ไช่ฯ
 
Mr. Maldeikis กล่าวอีกว่า ในขณะที่จีนประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรทางการค้าต่อลิทัวเนีย ปธน.ไช่ฯ และรัฐบาลไต้หวันได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือลิทัวเนียอย่างกล้าหาญและกระตือรือร้น ซึ่งนอกจากจะแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการเป็นพลังแห่งความดีของไต้หวันแล้ว ยังทำให้ไต้หวัน - ลิทัวเนีย เกิดความเชื่อมโยงอันแนบแน่นมากยิ่งขึ้น ถือเป็นบทพิสูจน์ให้เห็นถึงค่านิยมด้านประชาธิปไตย เสรีภาพและความเป็นเอกภาพ ที่ทั้งสองฝ่ายให้ความสำคัญร่วมกัน
 
Mr. Maldeikis ยังชี้อีกว่า ลิทัวเนีย – ไต้หวันต่างยึดมั่นในสันติภาพและหลักประชาธิปไตย แต่กลับต้องเผชิญหน้ากับแรงกดดันที่ไม่เป็นมิตรจากภายนอก ค่านิยมร่วมและประสบการณ์ที่คล้ายคลึงกันเช่นนี้ ยิ่งเป็นการกระตุ้นให้ทั้งสองฝ่ายผูกสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น พวกเราต่างมีความเข้าใจซึ่งกันและกัน และยังมีความสำเร็จด้านความร่วมมือที่เด่นชัด ความสัมพันธ์อันแนบแน่นระหว่างเรา เป็นบทพิสูจน์ให้ประชาคมโลกเห็นว่า ความร่วมมือเชิงหุ้นส่วนตั้งอยู่บนแนวคิดที่มีร่วมกัน มิใช่เกิดขึ้นเพราะที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ ความมุ่งมั่นในการปกป้องประชาธิปไตยของลิทัวเนีย มีความหนักแน่นเช่นเดียวกับไต้หวัน ภายใต้สถานการณ์ที่โลกเกิดการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่หนทางข้างหน้าล้อมรอบไปด้วยปัจจัยที่ไม่แน่นอน และเสรีภาพถูกคุกคาม พวกเรายิ่งจำเป็นต้องแสวงหาแนวทางการปกป้องตนเองอย่างสุดความสามารถ
 
เฉกเช่นเดียวกับที่นายไล่ชิงเต๋อ ว่าที่ปธน.สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) คนใหม่ กล่าวสุนทรพจน์หลังการเลือกตั้งที่ผ่านมา โดยชี้ว่า ท่ามกลางความแบ่งแยกระหว่างประชาธิปไตยและเผด็จการ ไต้หวันเลือกที่จะยืนอยู่ฝั่งประชาธิปไตย คำมั่นที่ให้ไว้กับกลุ่มประเทศประชาธิปไตยอย่างหนักแน่นเช่นนี้ ทำให้พวกเราสามารถร่วมฉลองค่านิยมที่มีร่วมกันได้อย่างเสรี
 
ในวันเดียวกันนี้ นายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้จัดงานเลี้ยงอาหารกลางวันต้อนรับ "คณะตัวแทนกลุ่มพันธมิตรไต้หวันในรัฐสภาลิทัวเนีย" โดยรมว.อู๋ฯ ได้แสดงความขอบคุณต่อคณะตัวแทนที่เดินทางเยือนไต้หวันทันที หลังการเลือกตั้งทั่วไปในไต้หวันเพิ่งปิดฉากลงเมื่อวันที่ 13 ม.ค. ที่ผ่านมา เพื่อแสดงถึงมิตรภาพที่ให้การสนับสนุนประชาธิปไตยของไต้หวันอย่างหนักแน่น รวมไปถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของทั้งสองฝ่าย ในการประสานสามัคคีของกลุ่มประเทศประชาธิปไตย ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างความทรหดแห่งประชาธิปไตย
 
โดยคณะตัวแทนในครั้งนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 11 คน ประกอบด้วย Mr.Matas Maldeikis ประธานกลุ่มพันธมิตรไต้หวันในรัฐสภาลิทัวเนีย พร้อมด้วย 3 รองประธานรัฐสภา ได้แก่ Mr.Vytautas Mitalas , Ms.Radvilė Morkūnaitė-Mikulėnienė และ Mr.Julius Sabatauskas รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐสภาแบบข้ามพรรค ซึ่งประธาน Maldeikis เป็นผู้ที่ให้ความสำคัญต่อสถานการณ์ในไต้หวันและภูมิภาคอินโด - แปซิฟิกเสมอมา
 
รมว.อู๋ฯ เผยว่า ลิทัวเนียเป็นประเทศแรกในทวีปยุโรปที่บริจาควัคซีนป้องกันโรคระบาดให้ไต้หวัน ไต้หวันรู้สึกซาบซึ้งใจและขอบคุณสำหรับมิตรภาพที่ลิทัวเนียส่งมอบให้อย่างเป็นรูปธรรมด้วยความจริงใจ
 
 Mr. Maldeikis กล่าวว่า ตลอดที่ผ่านมา การสร้างความสัมพันธ์แบบทวิภาคีในเชิงลึก ระหว่างลิทัวเนีย – ไต้หวัน ต้องประสบปัญหาจากการแทรกแซงของจีนอยู่เป็นระยะ ยังดีที่ทั้งสองฝ่างต่างเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน และยืนอยู่เคียงข้างกันเสมอมา นอกจากนี้ พวกเรายังได้ประสานความร่วมมือบนพื้นฐานแนวคิดที่มีร่วมกัน ซึ่งได้รับการยอมรับจากชุมชนประชาธิปไตย และเป็นการแสดงจุดยืนว่าด้วยการธำรงรักษาประชาธิปไตยและเสรีภาพ ให้เป็นที่ประจักษ์ต่อประชาคมโลก
 
ในระหว่างนี้ รมว.อู๋ฯ และคณะตัวแทนยังได้ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ ความร่วมมือระหว่างไต้หวัน - ลิทัวเนีย เพื่อส่งมอบความช่วยเหลือให้ยูเครน ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้า ระหว่างไต้หวัน – EU ความร่วมมือและความมั่นคงในภูมิภาคอินโด - แปซิฟิก แนวทางการสกัดกั้นลัทธิอำนาจนิยมและการป้องกันการเผยแพร่ข่าวปลอม เป็นต้น โดยทั้งสองฝ่ายต่างคาดหวังที่จะเห็นความสัมพันธ์แบบทวิภาคีได้รับการยกระดับให้มีการพัฒนาต่อไปในเชิงลึก ภายใต้พื้นฐานอันดีที่มีอยู่เดิมต่อไป