กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 12 มี.ค. 67
 
เมื่อวันที่ 11 มีนาคม ตามเวลาในเขตตะวันออกของสหรัฐฯ ทำเนียบขาวสหรัฐฯ ได้ประกาศ “งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568” (The President’s FY 2025 Budget Request) โดยกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้มีการตั้งงบประมาณเพื่อช่วยเหลือไต้หวันเป็นจำนวนเงิน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยรัฐบาลสหรัฐฯ จะช่วยเสริมสร้างแสนยานุภาพด้านการป้องกันตนเองของไต้หวัน ผ่านโครงการเงินช่วยเหลือด้านการทหาร (Foreign Military Financing, FMF) ของสหรัฐฯ ควบคู่ไปกับการธำรงรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน นอกจากนี้ Mr. Richard Verma รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยังได้ระบุอย่างชัดเจนในงานแถลงข่าวของกระทรวงการต่างประเทศว่า นับเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ตั้งงบประมาณรายการพิเศษสำหรับไต้หวันเป็นการเฉพาะ ซึ่งสำแดงให้เห็นถึงการรักษาคำมั่นสัญญาของสหรัฐฯ ที่มีต่อไต้หวัน ในการส่งมอบความช่วยเหลือทางความมั่นคงและการธำรงรักษาภูมิภาคอินโด – แปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง นอกจากนี้ กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยังได้จัดสรรงบประมาณ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่ออัดฉีดอาวุธยุทโธปกรณ์เข้าสู่คลังสรรพาวุธของสหรัฐฯ หลังจากที่ได้ส่งมอบความช่วยเหลือทางกลาโหมแก่ไต้หวัน ผ่านอำนาจโดยชอบธรรมของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ภายใต้ชื่อ "Presidential Drawing Authority" (PDA) กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) รู้สึกยินดีและขอบคุณด้วยใจจริง สำหรับการให้ความช่วยเหลือเสริมสร้างศักยภาพด้านการป้องกันประเทศของไต้หวัน และการธำรงรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวันของหน่วยงานด้านบริหารสหรัฐฯ ด้วยมาตรการและแนวทางที่หลากหลายและเป็นรูปธรรม
 
หลังมีการบรรจุประเด็นความมั่นคงของไต้หวันเข้าสู่รายการงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ของกระทรวงการต่างประเทศเป็นครั้งแรกแล้ว ในครั้งนี้รัฐบาลภายใต้การนำของปธน.โจ ไบเดน ได้ยกระดับความช่วยเหลือ โดยการตั้งงบประมาณเพื่อช่วยเหลือไต้หวันด้านการทหารเป็นการเฉพาะ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ประกอบกับเมื่อวันที่ 7 มี.ค. ปธน.โจ ไบเดน ได้เน้นย้ำระหว่างการแถลงนโยบายประจำปีต่อรัฐสภาสหรัฐฯ ว่า สหรัฐฯ จะยืนหยัดให้การสนับสนุนสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวันอย่างหนักแน่น และจะอนุมัติจำหน่ายอาวุธยุทโธปกรณ์ให้ไต้หวันอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำ สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นบทพิสูจน์ที่แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลสหรัฐฯให้ความสำคัญต่อการเสริมสร้างศักยภาพการป้องกันประเทศของไต้หวัน รวมไปถึงสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวันและภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก
 
ไต้หวันนอกจากจะมุ่งบรรลุภารกิจการปฏิรูปทางกลาโหม ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างแสนยานุภาพทางกลาโหมแล้ว ยังจะกระชับความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน ตลอดจนมุ่งธำรงรักษาสันติภาพ เสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองในช่องแคบไต้หวันและภูมิภาค ให้คงอยู่อย่างยั่งยืนต่อไป