ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
รมว.กต. และรมว.สธ. ของไต้หวัน ร่วมแถลงข่าว เสนอความมุ่งมั่นของไต้หวันที่จะเข้าร่วม WHO และการประชุมสมัชชาอนามัยโลก (WHA)
2024-05-27
New Southbound Policy。รมว.กต. และรมว.สธ. ของไต้หวัน ร่วมแถลงข่าว เสนอความมุ่งมั่นของไต้หวันที่จะเข้าร่วม WHO และการประชุมสมัชชาอนามัยโลก (WHA) (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ)
รมว.กต. และรมว.สธ. ของไต้หวัน ร่วมแถลงข่าว เสนอความมุ่งมั่นของไต้หวันที่จะเข้าร่วม WHO และการประชุมสมัชชาอนามัยโลก (WHA) (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ)

กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 25 พ.ค. 67
 
การประชุมสมัชชาอนามัยโลก (WHA) ครั้งที่ 77 มีกำหนดการเปิดฉากขึ้นในวันที่ 27 พ.ค. นี้ เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 24 พ.ค. ที่ผ่านมา นายหลินเจียหรง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนายชิวไท้หยวน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ ของสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ร่วมจัดงานแถลงข่าว ณ ที่ทำการกระทรวงการต่างประเทศไต้หวัน เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นของไต้หวันในการเข้ามีส่วนร่วมใน “องค์การอนามัยโลก” (WHO) และการประชุม WHA พร้อมทั้งเรียกร้องให้ WHO และกลุ่มประเทศสมาชิกอื่นๆ ตระหนักเห็นถึงเสียงเรียกร้องของประชาชนชาวไต้หวัน 23.5 ล้านคน ด้วยการเชิญให้ไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมในเร็ววัน
 
รมว.หลินฯ กล่าวว่า ในปีนี้ (พ.ศ.2567) ไต้หวันยังคงมิได้รับหนังสือเรียนเชิญจากสำนักเลขาธิการ WHO สาเหตุเดียวที่ทำให้ไต้หวันไม่ได้รับโอกาสในการเข้าร่วม เป็นผลอันเนื่องมาจากการที่จีนเข้าขัดขวาง อย่างไรก็ตาม กต.ไต้หวันและสธ.ไต้หวันจะมุ่งมั่นตราบจนวินาทีสุดท้าย พลังเสียงสนับสนุนให้ไต้หวันเข้าร่วม WHO และ WHA ของประชาคมโลก ยังคงมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง กลุ่มประเทศพันธมิตรของไต้หวันที่เป็นสมาชิกภายใต้องค์การ WHO รวม 11 ประเทศ ต่างได้ทยอยยื่นหนังสือเรียกร้องต่อเลขาธิการ WHO เพื่อเรียกร้องให้ที่ประชุมจัดให้ประเด็นการเข้าร่วมการประชุม WHA ของไต้หวันในฐานะผู้สังเกตการณ์ ถูกกำหนดเข้าเป็นหนึ่งในวาระการประชุมประจำปีนี้  
 
รมว.หลินฯ ระบุว่า แถลงการณ์ร่วมหลัง “การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก 7 ประเทศ” (G7) และ “การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศและกลาโหม 2+2 ระหว่างอังกฤษ - ออสเตรเลีย” ต่างมีเนื้อความที่ระบุถึงการแสดงจุดยืนว่าด้วยการสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วม WHO และ WHA โดย Mr. Antony Blinken รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ประกาศแถลงการณ์ให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมการประชุม WHA ในฐานะผู้สังเกตการณ์ ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 4 ปีแล้ว นอกจากนี้ หน่วยงานสภาบริหารและสภานิติบัญญัติของญี่ปุ่น อังกฤษ ฝรั่งเศส รวม 70 ประเทศและสหภาพยุโรป (EU) ต่างก็ให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วม WHO และ WHA อย่างเปิดเผยผ่านวิธีการที่หลากหลาย อาทิ การยื่นเสนอหนังสือเรียกร้อง การโพสต์ข้อความและแชร์ข้อมูลผ่านโซเซียลมีเดีย เป็นต้น กต.ไต้หวันขอแสดงความขอบคุณด้วยใจจริง
 
รมว.หลินฯ ชี้อีกว่า ไต้หวันมีศักยภาพและมีความยินดีที่จะอุทิศคุณประโยชน์ทางด้านการแพทย์และสาธารณสุขให้แก่ประชาคมโลก ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ไต้หวันได้ทำให้ประชาคมโลกประจักษ์ถึงความเอื้ออาทรในการยื่นมือให้ความช่วยเหลือเชิงมนุษยธรรม ในระหว่างที่ยูเครนและซีเรียต้องเผชิญหน้ากับภัยสงครามและภัยพิบัติทางธรรมชาติ ไต้หวันก็ได้ยื่นมือเข้าให้ความช่วยเหลือด้วยการบริจาคเวชภัณฑ์ทางการแพทย์อย่างทันท่วงที นอกจากนี้ พวกเรายังได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีการวิจัยวัคซีนป้องกันโรคโควิด – 19 ที่คิดค้นโดยผู้ประกอบการชาวไต้หวัน เพื่อเป็นประโยชน์แก่ WHO และสหประชาชาติ (UN) ซึ่งถือเป็นกรณีแรกของโลก นอกจากนี้ ผลสัมฤทธิ์ทางการแพทย์ในด้านต่างๆ ของไต้หวันยังถือเป็นอันดับต้นๆ ของโลกด้วย นอกจากนี้ ระบบประกันสุขภาพไต้หวัน ยังได้รับการยกย่องจากประชาคมโลกว่าเป็นระบบประกันทางการแพทย์ที่ดีที่สุด โดยประชาชนในไต้หวันเข้าสู่ระบบประกันสุขภาพอย่างครอบคลุมกว่าร้อยละ 99.9% ผลสัมฤทธิ์และคุณประโยชน์เหล่านี้ ต่างสะท้อนให้เห็นว่า ไต้หวันเป็นพลังแห่งความดีของโลกใบนี้ และเป็นสมาชิกของประชาคมโลกที่เชื่อถือได้และมีความรับผิดชอบ
 
รมว.หลินฯ ย้ำด้วยว่า ในระหว่างการขอเข้ามีส่วนร่วมในองค์การระหว่างประเทศ Mr. Antonio Guterres เลขาธิการสหประชาชาติ และเหล่าบุคคลสำคัญที่เกี่ยวข้อง ต่างแสดงความห่วงใยต่อสันติภาพ เสถียรภาพและความมั่นคงในช่องแคบไต้หวัน เนื่องจากเชื่อมั่นว่า การแพทย์ไร้ขีดจำกัดทางพรมแดนและสันติภาพถือเป็นค่านิยมสากล รมว.หลินฯ จึงหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นนานาประเทศทั่วโลกยึดมั่นในจิตวิญญาณของ WHO ด้วยการให้สนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมองค์การระหว่างประเทศภายใต้สหประชาชาติ ซึ่งรวมถึง WHO ด้วยวิธีการที่เป็นรูปธรรม
 
ช่วงเริ่มต้นของงานแถลงข่าว เจ้าหน้าที่กต.ไต้หวันได้เปิดฉายผลงานวิดีทัศน์สั้น ภายใต้ชื่อ “บ้านหลังที่ 2 ของฉัน” (My Second Home) โดยรมว.หลินฯ กล่าวว่า นับตั้งแต่วันที่ 6 พ.ค. 2567 ซึ่งได้มีการประกาศเผยแพร่ผลงานวิดีทัศน์ข้างต้นเป็นต้นมา ขณะนี้มียอดผู้เข้าชมสะสมรวมทั้งสิ้นมากกว่า 20 ล้านคนครั้งแล้ว หลักการ “ไต้หวันช่วยได้” (Taiwan Can Help) และ “สุขภาพดีถ้วนหน้า” (Health for All) มิได้เป็นเพียงสโลแกนเท่านั้น แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตของคนรอบข้างของเรา จึงขอเชิญชวนให้ประชาชนชาวไต้หวันจำนวน 23.5 ล้านคนร่วมรับชม และแชร์ผลงานผ่านสื่อโซเชียล เพื่อส่งเสริมให้มิตรสหายทั่วโลกตระหนักถึงข้อเรียกร้องในการเข้ามีส่วนร่วมของไต้หวัน
 
“คณะปฏิบัติการด้านสาธารณสุขของไต้หวัน” ประจำปีนี้ ได้ออกเดินทางไปเยือนกรุงเจนีวา เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อทำการประชาสัมพันธ์กิจกรรมและแผนผลักดันที่เกี่ยวข้องของไต้หวันอย่างเต็มที่ต่อไป
 

ข่าวยอดนิยม