กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 26 พ.ค. 67
ก่อนการประชุมสมัชชาอนามัยโลก (WHA) ครั้งที่ 77 ไต้หวันได้มุ่งกระตุ้นแผนผลักดันการเข้าร่วม “องค์การอนามัยโลก (WHO)” และการประชุม WHA ซึ่งได้รับการยอมรับจากทุกแวดวงในประชาคมโลก ปัจจุบันหน่วยงานสภาบริหารและสภานิติบัญญัติทั่วโลกกว่า 85 ประเทศ รวมถึงองค์การทางการแพทย์ คลังสมอง ผู้นำทางความคิดเห็นและภาคประชาสังคม จำนวนกว่า 7,000 คน ต่างให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วม WHO และ WHA ด้วยวิธีการที่เป็นรูปธรรม ผ่านช่องทางต่างๆ ที่หลากหลาย กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) รู้สึกยินดีและขอขอบคุณด้วยใจจริง
11 ประเทศพันธมิตรของไต้หวันที่เป็นประเทศสมาชิก WHO ต่างยื่นเสนอ “ญัตติว่าด้วยการเชิญไต้หวันเข้าร่วมการประชุมสมัชชาอนามัยโลก” ในฐานะผู้สังเกตการณ์ โดยได้เรียกร้องให้กำหนดญัตติที่เกี่ยวกับไต้หวันเป็น “รายการเสริม” (supplementary item) ของวาระการประชุม โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกลุ่มประเทศพันธมิตร ต่างทยอยเป็นกระบอกเสียงให้ไต้หวันอย่างเปิดเผย พร้อมทั้งแสดงจุดยืนว่าด้วยการสนับสนุนไต้หวันอย่างเปิดเผย ในระหว่างที่เดินทางมาเข้าร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งปธน.และรองปธน.ไต้หวัน เมื่อช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ “คณะตัวแทนมิตรสหายของไต้หวัน” ที่รวมตัวโดยคณะผู้แทนประเทศพันธมิตรของไต้หวัน ที่ประจำการอยู่ในสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา ยังได้ยื่นส่งหนังสือเรียกร้องให้แก่เลขาธิการ WHO เพื่อให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วม WHO และ WHA ด้วย
นอกจากนี้ พลังสนับสนุนจากกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันยังได้ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากแถลงการณ์ร่วมหลังการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก 7 ประเทศ” (G7) และ “การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศและกลาโหม 2+2 ระหว่างอังกฤษ - ออสเตรเลีย” แล้ว เจ้าหน้าที่ภาครัฐระดับสูงอย่าง Mr. Antony Blinken รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ Mr. Hayashi Yoshimasa เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น Ms.Hadja Lahbib รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเบลเยี่ยม Ms. Hanke Bruins Slot รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเนเธอร์แลนด์ Mr. Tobias Billström รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสวีเดน Mr. Franck Riester รัฐมนตรีว่ากระทรวงการต่างประเทศของฝรั่งเศส ต่างก็ทยอยแสดงจุดยืนในการสนับสนุนให้ไต้หวันเข้าร่วม WHO และ WHA อย่างเปิดเผย นอกจากนี้ “สมุดปกน้ำเงิน ปี 2567” ที่ประกาศโดยกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น และรายงานผลการดำเนินงานตามภารกิจ “การเข้าร่วมองค์การอนามัยโลกของไต้หวัน” ที่รัฐบาลกลางเยอรมนียื่นเสนอให้แก่รัฐสภา ต่างก็เผยให้เห็นถึงการสนับสนุนให้ไต้หวันเข้าร่วม WHO และ WHA ประกอบกับหน่วยงานของกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันที่ประจำการในไต้หวัน ต่างก็ให้การสนับสนุนญัตติที่เสนอโดยไต้หวันติดต่อกันมาเป็นเวลา 4 ปี โดยในปีนี้ สำนักงานตัวแทนรัฐบาลของสหรัฐฯ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย อังกฤษ แคนาดา เยอรมนี เช็กและลิทัวเนีย ต่างก็ประกาศจดหมายข่าวร่วมกัน
หน่วยงานสภานิติบัญญัติของนานาประเทศ ต่างร่วมแสดงพลังสนับสนุนต่อไต้หวัน ด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การผ่านญัตติและแผนปฏิบัติการที่เกี่ยวข้อง การยื่นส่งหนังสือเรียกร้องต่อเลขาธิการ WHO การประกาศแถลงการณ์ร่วมของเจ้าหน้าที่ภาครัฐระดับสูง การตอบข้อซักถาม และการประกาศแถลงการณ์อย่างเปิดเผย รวมไปถึงการโพสต์ข้อความลงบนโซเชียลมีเดีย และการเขียนบทความพิเศษ เป็นต้น
นอกจากนี้ เมื่อช่วงที่ผ่านมานี้ รัฐสภายุโรปยังมีมติเห็นชอบต่อ “รายงานผลการดำเนินงานตามนโยบายการต่างประเทศและความมั่นคงร่วมกัน (Common Foreign and Security Policy, CFSP)” และ“นโยบายความมั่นคงและการป้องกันประเทศ” (CSDP) โดยเรียกร้องให้คณะกรรมาธิการยุโรปและกลุ่มประเทศสมาชิก ให้การสนับสนุนไต้หวันในการเข้ามีส่วนร่วมอย่างมีความหมายในองค์การระหว่างประเทศ ซึ่งรวมถึง WHO อีกทั้งในระยะที่ผ่านมา สมาชิกวุฒิสภาแบบข้ามพรรคของสหรัฐฯ ยังได้ยื่นเสนอญัตติให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมองค์การระหว่างประเทศในที่ประชุมคณะกรรมาธิการด้านการต่างประเทศ พร้อมทั้งประณามจีน ที่จงใจบิดเบือนข้อเท็จจริงของญัตติที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ฉบับที่ 2758 เพื่อเป้าหมายในการลิดรอนสิทธิบนเวทีนานาชาติของไต้หวัน นอกจากนี้ “สโมสรฟอร์โมซา” ที่จัดตั้งขึ้นโดยสมาชิกรัฐสภาที่เป็นมิตรต่อไต้หวัน ซึ่งในจำนวนนี้ มีประธานร่วม 25 คนจากรัฐสภายุโรป รวมถึงกลุ่มประเทศในทวีปยุโรปและแคนาดา ต่างก็ประกาศแถลงการณ์ให้การสนับสนุนไต้หวัน เพื่อเรียกร้องให้เลขาธิการ WHO เปิดรับให้ไต้หวันเข้าร่วมการประชุม WHA หากนับรวมยอดสมาชิกรัฐสภา จะเห็นได้ว่ามีสมาชิกจำนวนกว่า 870 คนจาก 29 รัฐสภา ที่ร่วมผนึกกำลังเป็นกระบอกเสียงให้ไต้หวัน ด้วยการยื่นเสนอหนังสือเรียกร้องต่อเลขาธิการ WHO
นอกจากนี้ ภาคประชาสังคมและพลังสนับสนุนระดับรากหญ้า ก็ล้วนแต่เป็นพลังสำคัญที่ให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมในองค์การระหว่างประเทศ กลุ่มชาวจีนโพ้นทะเล องค์กรแพทย์ และสมาคมศิษย์เก่าที่ตั้งรกรากในไต้หวัน ต่างก็ผนึกกำลังให้การสนับสนุนแผนผลักดันของไต้หวัน ผ่านรูปแบบวิธีการต่างๆ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการสนับสนุนไต้หวันของประชาคมโลก โดยในจำนวนนี้ “แพทยสมาคมโลก” (The World Medical Association, WMA) ยังได้ยื่นหนังสือเรียกร้องต่อเลขาธิการ WHO เพื่อเรียกร้องให้ WHO เปิดประตูต้อนรับไต้หวัน ในปีนี้ ไต้หวันได้จัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ผ่านสโลแกน “#TaiwanCanHelp” , “#LetTaiwanHelp” , “#TaiwanDelivers” และ “#CountTaiwanIn” ซึ่งได้รับเสียงสนับสนุนจากประชาคมโลกอย่างล้นหลาม ตราบจนปัจจุบัน มีผู้ร่วมเป็นกระบอกเสียงให้การสนับสนุนไต้หวัน ผ่านโซเชียลมีเดียในรูปแบบต่างๆ เป็นจำนวนมากกว่า 5,300 คนแล้ว
ผลสัมฤทธิ์ด้านสาธารณสุขและศักยภาพในการสกัดกั้นโรคระบาดของไต้หวัน เป็นที่ยอมรับในประชาคมโลก เมื่อต้องเผชิญกับจีนที่สร้างแรงกดดันต่างๆ เพื่อมิให้ไต้หวันได้เข้าร่วม WHO และ WHA ประชาคมโลกจะให้การสนับสนุนไต้หวันอย่างเต็มที่มากขึ้น และจะยิ่งทำให้ทั่วโลกตระหนักถึงความสำคัญและความเร่งด่วนในการยอมรับให้ไต้หวันเข้าสู่ระบบสาธารณสุขโลก นอกจากนี้ กต.ไต้หวันยังได้เรียกร้องให้ WHO ยึดมั่นในหลักการความเป็นธรรม รับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่ายที่ให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วม WHO และต่อต้านอิทธิพลที่ไม่เหมาะสมจากจีน ด้วยการเชิญให้ไต้หวันเข้าร่วมการประชุม กิจกรรมและกลไกต่างๆ ภายใต้องค์การ WHO อย่างมีศักดิ์ศรี อันจะนำไปสู่การบรรลุวัตถุประสงค์ “สุขภาพเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน” ที่ระบุไว้ในกฎบัตรของ WHO ตลอดจนเพื่อบรรลุวิสัยทัศน์ “สุขภาพดีถ้วนหน้า” (Health for All) ได้ในเร็ววัน