กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 5 มิ.ย. 67
ช่วงก่อนหน้านี้ไม่นาน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน (Joe Biden) ผู้นำสหรัฐอเมริกา ได้ให้สัมภาษณ์แก่นิตยสาร TIME โดยระบุว่า “หากจีนต้องการเปลี่ยนแปลงสถานภาพเดิมในปัจจุบันของช่องแคบไต้หวัน สหรัฐฯ จะไม่เพิกเฉยต่อการส่งมอบความช่วยเหลือให้แก่ไต้หวัน ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ จึงให้การสนับสนุนไต้หวันด้วยการเสริมสร้างแสนยานุภาพอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการเปิดการเจรจาร่วมกับกลุ่มพันธมิตรในภูมิภาค” ปธน.ไบเดน ยังระบุอีกว่า หากจีนเข้ารุกรานไต้หวัน รัฐบาลสหรัฐฯ จะไม่เพิกเฉยแต่อาจจะใช้กำลังอาวุธของสหรัฐฯ เข้ามาให้ความช่วยเหลือ (Not ruling out using US military force) กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) รู้สึกยินดีและขอบคุณด้วยใจจริงต่อรัฐบาลสหรัฐฯ ที่แสดงจุดยืนให้คำมั่นด้านความมั่นคงต่อไต้หวันและให้ความสำคัญ ตลอดจนสนับสนุนสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคอย่างหนักแน่น
หลายปีมานี้ รัฐบาลปักกิ่งได้หยิบยกการเปลี่ยนผ่านอำนาจทางการเมืองที่ไปตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย มาใช้เป็นข้ออ้างในการคุกคามทางการทหารและรุกรานไต้หวันด้วยกลยุทธ์พื้นที่สีเทา พร้อมทั้งข่มขู่ด้วยวาจา ซึ่งส่งผลกระทบรุนแรงต่อสันติภาพ เสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค ส่งผลให้ประชาคมโลกเฝ้าจับตาต่อสถานการณ์ข้างต้นเป็นอย่างมาก โดยไต้หวันจะยึดมั่นในค่านิยมทางเสรีภาพ ประชาธิปไตยและความมั่นคง ควบคู่ไปกับการยกระดับแสนยานุภาพทางกลาโหมด้วยการพึ่งพาตนเอง ตลอดจนเสริมสร้างความร่วมมือในเชิงลึกกับสหรัฐฯ และกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน ทั้งนี้ เพื่อสร้างหลักประกันให้แก่สถานภาพเดิมของช่องแคบไต้หวัน และความสงบเรียบร้อยระหว่างประเทศที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของกฎกติกาสากล ตลอดจนเป็นการส่งเสริมสันติภาพ เสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก ให้คงอยู่อย่างยั่งยืนต่อไป