กรมการท่องเที่ยว วันที่ 10 มิ.ย. 67
การประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวเอเปค (Tourism Ministerial Meeting, TMM) ครั้งที่ 12 ภายใต้กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองอูรูบัมบา แคว้นกุสโก แห่งสาธารณรัฐเปรู ในช่วงระหว่างวันที่ 8 – 9 มิถุนายน 2567 โดยการประชุมในครั้งนี้ขานรับ 3 ประเด็นหลังยุคโควิด - 19 ได้แก่ “การส่งเสริมศักยภาพ การยอมรับซึ่งกันและกัน และการเติบโต” (Empower,Include,Grow) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อบรรลุ “การพัฒนาเชิงนวัตกรรมอย่างยั่งยืน : สรรสร้างอนาคตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก” โดยการประชุมในครั้งนี้ บรรดาเขตเศรษฐกิจได้มุ่งเน้นการอภิปรายไปที่ 2 ประเด็นหลัก ได้แก่ “การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเกิดใหม่ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว” และ “ระบบห่วงโซ่อุปทานที่มีความยั่งยืน” หลังเสร็จสิ้นการประชุมและการแลกเปลี่ยนระหว่างรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ และตัวแทนรัฐมนตรี การประชุมได้ปิดฉากลงอย่างราบรื่นในวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่นของเปรู
การประชุม TMM ในครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 3 ที่เปรูจัดขึ้นต่อเนื่องจากในปี พ.ศ.2551 และ 2559 โดยคณะตัวแทนไต้หวัน มีนายหลินกั๋วเซี่ยน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) และนายโจวหย่งฮุย อธิบดีกรมการท่องเที่ยว นำคณะตัวแทนเดินทางเข้าร่วม โดยมีเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานตัวแทนรัฐบาลไต้หวันในเปรูเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งด้วย โดยคณะตัวแทนไต้หวันมุ่งใช้โอกาสการประชุมนานาชาติครั้งนี้ เป็นสื่อกลางในการประชาสัมพันธ์ทรัพยากรการท่องเที่ยวของไต้หวัน ตลอดจนร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์การพัฒนาการท่องเที่ยวระหว่างตัวแทนเขตเศรษฐกิจที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ นอกจากนี้ “ปฏิญญารัฐมนตรีเอเปค” ในครั้งนี้ ยังได้บรรลุฉันทามติ หลังการหารือในประเด็นหลักและหัวข้อต่างๆ ระหว่างกลุ่มรัฐมนตรีของเขตเศรษฐกิจเอเปค โดยในช่วงระหว่างปีพ.ศ. 2568 – 2572 ประเทศสมาชิกจะมุ่งดำเนินภารกิจในมิติต่างๆ ดังนี้ : การเติบโตด้วยการยอมรับซึ่งกันและกัน ความเสมอภาคทางเพศ การท่องเที่ยวรูปแบบอัจฉริยะ ระบบการบริหารเสบียงอาหารอย่างยั่งยืน และการท่องเที่ยวในสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อทุกกลุ่มชน เป็นต้น โดยบรรดารัฐมนตรีเขตเศรษฐกิจต่างคาดหวังที่จะส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ และการพัฒนาอย่างยั่งยืนในภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก ผ่านเวทีการประชุมภายใต้กรอบเอเปคอย่างยั่งยืนต่อไป
รมช.หลิน ฯ หัวหน้าคณะตัวแทนในครั้งนี้ได้กล่าวชี้แจงต่อประเทศสมาชิกเขตเศรษฐกิจเอเปคว่า ในระหว่างที่รัฐบาลไต้หวันพิจารณาร่างนโยบายการท่องเที่ยว ได้คำนึงถึงมาตรฐานของนานาชาติ พร้อมทั้งรับฟังความคิดเห็นของผู้ประกอบการการท่องเที่ยวในพื้นที่หรือคนในแวดวงอุตสาหกรรม ควบคู่ไปกับการจัดตั้งศักยภาพการแข่งขันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการฝึกอบรม ซึ่งรวมไปถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและเทคโนโลยีสารสนเทศ ในการช่วยยกระดับคุณภาพการบริหารของภาคอุตสาหกรรม เพื่อคว้าโอกาสการพัฒนาและการขยายตัวเติบโตในตลาดการท่องเที่ยว นอกจากนี้ ไต้หวันยังได้ประยุกต์ใช้โอกาสการประชุมในครั้งนี้ ร่วมแบ่งปันประสบการณ์การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและเทคโนโลยีสารสนเทศ เข้าช่วยในแวดวงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริหารอุทยานการท่องเที่ยว เพื่อเป็นประโยชน์แก่บรรดาเขตเศรษฐกิจ นอกจากนี้ รมช.หลินฯ และอธิบดีโจวฯ ยังจะร่วมหารือกับตัวแทนเขตเศรษฐกิจในระหว่างการประชุม ซึ่งรวมถึงการร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการผลักดันการท่องเที่ยวร่วมกับตัวแทนเปรู ออสเตรเลีย ชิลี ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทยและเวียดนาม โดยในระหว่างนี้ Ms. Elizabeth Galdo รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าระหว่างประเทศและการท่องเที่ยว สาธารณรัฐเปรู ได้แสดงความชื่นชมไต้หวันที่เข้าร่วมแลกเปลี่ยนอย่างกระตือรือร้น
ไต้หวันมุ่งแสวงหาแนวโน้มใหม่ด้านการพัฒนาการท่องเที่ยว โดยยึดตามแกนหลักของแผนแม่บทด้านการท่องเที่ยวปี พ.ศ.2573 โดยมุ่งเน้นไปที่ประเด็นสำคัญ ได้แก่ “การพัฒนาแบบสหวิทยาการอย่างยั่งยืน” “การบริหารจัดการแบรนด์ท้องถิ่น” “การบ่มเพาะเชิงนวัตกรรม” และ “เทคโนโลยีในอนาคต” นอกจากนี้ ในอนาคต กรมการท่องเที่ยวไต้หวันยังจะผลักดันภารกิจเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการเปลี่ยนผ่านสองขั้ว “ความยั่งยืน x ดิจิทัล” ควบคู่ไปกับการประชาสัมพันธ์ทรัพยากรการท่องเที่ยวของไต้หวันอย่างต่อเนื่อง ผ่านการเข้าร่วมองค์การระหว่างประเทศในเชิงลึก เพื่อดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนไต้หวันมากขึ้น