ทำเนียบประธานาธิบดีและเทศบาลนครไถหนาน วันที่ 29 ก.ค. 67
เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้เข้าร่วมกล่าวสุนทรพจน์ผ่านการบันทึกวิดีทัศน์ล่วงหน้าใน “สุดยอดการประชุมแลกเปลี่ยนระหว่างไต้หวัน - ญี่ปุ่น ครั้งที่ 10 ในนครไถหนาน” โดยปธน.ไล่ฯ หวังที่จะผนึกกำลังสามัคคี ระหว่างไต้หวัน - ญี่ปุ่น ภายใต้การสนับสนุนของทุกท่านที่เข้าร่วม เพื่อสร้างผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างทั้งสองฝ่าย โดยไต้หวันจะยังคงส่งเสียงบนเวทีนานาชาติอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการอุทิศคุณประโยชน์ให้แก่ประชาคมโลกมากยิ่งขึ้น ในอนาคต พวกเราจะประสานความร่วมมือกับกลุ่มประเทศประชาธิปไตย ในการส่งเสริมค่านิยมด้านประชาธิปไตย สันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองระดับสากล ให้คงอยู่อย่างยั่งยืนต่อไป
สุนทรพจน์ของรองปธน.ไล่ฯ มีสาระสำคัญดังนี้ :
“การประชุมสุดยอดเพื่อการแลกเปลี่ยนระหว่างไต้หวัน - ญี่ปุ่น” จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในนครคานาซาวะ เมื่อปี พ.ศ. 2558 โดยปีนี้ก้าวเข้าสู่ปีที่ 10 แล้ว ข้าพเจ้า รู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่การประชุมในครั้งนี้ถูกจัดขึ้นในนครไถหนาน อันประจวบกับเป็นวาระครบรอบ 400 ปีของนครไถหนาน โดยเฉพาะในปีนี้ มีชาวญี่ปุ่นเดินทางมาเข้าร่วมนับ 400 ราย ถือเป็นตัวเลขที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยชาวไต้หวันที่เข้าร่วมก็มีจำนวนมากสุดเป็นประวัติการณ์เช่นเดียวกัน แสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญแบบทวิภาคี ระหว่างไต้หวัน - ญี่ปุ่น โดยความเชื่อมโยงระหว่างสองฝ่าย นับวันยิ่งทวีความใกล้ชิดเพิ่มมากขึ้น
การประชุมเมื่อปีที่แล้วจัดขึ้นที่เมืองเซ็นได ซึ่งเป็นเมืองพี่เมืองน้องกับนครไถหนาน ได้มีฉันทามติผ่าน “ปฏิญญาเซ็นได” (Sendai Declaration) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การสนับสนุนไต้หวันในการเข้าร่วมองค์การระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ “การประชุมสุดยอดเพื่อการแลกเปลี่ยนระหว่างไต้หวัน - ญี่ปุ่น ครั้งที่ 10” เปิดฉากขึ้นอย่างอลังการ ณ โรงแรม Formosa Yacht Resort เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา . โดยมีจำนวนผู้เข้าร่วมมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ประกอบด้วย สมาชิกสภาทุกระดับชั้นและองค์กรเอกชนที่มาจากญี่ปุ่น จำนวน 433 คน และสมาชิกสภาในทุกพื้นที่ทั่วไต้หวัน จำนวน 138 คน และเจ้าหน้าที่ชมรมที่เป็นมิตรต่อไต้หวัน จำนวน 20 คนจาก 7 ชมรม
นายหวงเหว่ยเจ๋อ ผู้ว่าการนครไถหนาน หวังที่จะเห็นสมาชิกสภาญี่ปุ่นที่เดินทางเยือนไต้หวันในครั้งนี้ เข้าร่วมสัมผัสกับไมตรีจิตและข้อได้เปรียบทางเทคโนโลยีในเมืองโบราณแห่งนี้ เพื่อสัมผัสกับประวัติศาสตร์ที่มีมานานกว่า 400 ปีของไถหนาน ซึ่งได้ผสมผสานระหว่างองค์ประกอบแห่งความดั้งเดิมเข้ากับนวัตกรรมใหม่ โดยผู้ว่าหวงฯ หวังว่า ในอนาคต มิตรภาพระหว่างทั้งสองฝ่ายจะได้รับการยกระดับในเชิงลึกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนอกจากการแลกเปลี่ยนระหว่างเจ้าหน้าที่ภาครัฐแล้ว ครไถหนานจะมุ่งผลักดันเพื่อเพิ่มโอกาสในการเรียนรู้ของกลุ่มเยาวชนรุ่นใหม่ ระหว่างไต้หวัน – ญี่ปุ่น ด้วย เพื่อส่งเสริมให้สัมพันธภาพแบบทวิภาคีหยั่งรากลึกสู่เยาวชนรุ่นใหม่ต่อไป อันจะเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างทั้งสองฝ่าย ให้ดำเนินไปในเชิงลึกอย่างยั่งยืน
นางชิวลี่ลี่ สมาชิกสภานิติบัญญัติท้องถิ่น กล่าวว่า การประชุมแลกเปลี่ยนระหว่างไต้หวัน – ญี่ปุ่น นับเป็นแพลตฟอร์มสำคัญในการแลกเปลี่ยนระหว่างสมาชิกสภาท้องถิ่นของทั้งสองฝ่าย นอกจากนี้ การประชุมที่จัดขึ้นในทุกครั้งล้วนได้มีการประกาศปฏิญญาด้วยชื่อเมืองที่จัดการประชุมขึ้น โดยในครั้งนี้ ปฏิญญานครไถหนานได้ประกาศอย่างเป็นทางการ ด้วยคำขวัญที่ว่า “ไต้หวันต้องการญี่ปุ่น ญี่ปุ่นต้องการไต้หวัน” “ประชาธิปไตย สันติภาพ ความเจริญรุ่งเรือง การพัฒนาที่ยั่งยืนและการเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน ถือเป็นค่านิยมร่วมระหว่างไต้หวัน - ญี่ปุ่น” โดยได้รวบรวมแผนและข้อเสนอในมุมมองของรัฐสภาท้องถิ่นของทั้งสองฝ่าย เพื่อนำเสนอให้แก่รัฐบาลในส่วนกลาง เพื่อสร้างหลักประกันด้านความมั่นคงในเอเชียตะวันออก ตลอดจนส่งเสริมการให้ไต้หวันได้มีสิทธิ์มีเสียงบนเวทีโลกต่อไป
โดยอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของการประชุมในครั้งนี้ คือ กล้วยไม้ฟาแลนนอปซิสที่ถูกย้อมสีให้คล้ายกับสีธงชาติของสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) และญี่ปุ่น ด้วยเทคโนโลยีนาโน พร้อมทั้งแต่งแต้มสีสันด้วยกลีบซากุระ สร้างความประทับใจให้ผู้พบเห็น และดึงดูดให้ผู้เข้าร่วมถ่ายภาพกันอย่างคึกคัก เพื่อเก็บบันทึกไว้เป็นความทรงจำอันงดงามของการมาเยือนไถหนานครั้งนี้