สำนักข่าว CNA วันที่ 4 - 5 ส.ค. 67
 
เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2567 หลี่หยางและหวังฉีหลิน นักกีฬาแบดมินตันทีมชาติไต้หวัน ประเภทชายคู่ เอาชนะคู่ต่อสู้ในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศด้วยคะแนน 21 : 19 ครองแชมป์เหรียญทองเวทีการแข่งขันโอลิมปิกติดต่อกัน 2 สมัย หลังจบการแข่งขัน เพลงชาติสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ดังกระหึ่มขึ้นในสนามแข่งขัน โดยกองเชียร์ชาวไต้หวันต่างประสานเสียงขับขานร่วมกันด้วยความปลื้มปิติเหลือล้น โดยหลี่ฯ และหยางฯ กล่าวว่า : มันเป็นความรู้สึกตื้นตันที่ไม่สามารถอธิบายได้
 
หลังเสร็จสิ้นการแข่งขัน ประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ก็ได้โพสต์ข้อความร่วมแสดงความยินดีกับหลี่หยาง – หวังฉีหลิน ที่สามารถคว้าชัยชนะมาประดับเกียรติยศแก่ประเทศชาติ ซึ่งทำให้ชาวไต้หวันนึกย้อนไปสู่ภาพความประทับใจในการแข่งขันโอลิมปิกโตเกียว เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ซึ่งหลังการแข่งขันครั้งนี้จบลง หลี่หยางตัดสินใจแขวนแร็กเก็ต อำลาสนามแข่งแบดมินตัน ภาพบรรยากาศการประลองฝีมือกับคู่ต่อสู้ที่น่าเกรงขามบนเวทีโอลิมปิกของหลี่หยางและหวังฉีหลิน  และสปิริตที่ฮึดสู้สุดความสามารถ เป็นการผนึกความสามัคคีของประชาชนในประเทศ พร้อมปลุกพลังความฮึกเหิมให้ไต้หวัน
 
นอกจากนี้เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2567 หลี่ม่งหย่วน นักกีฬายิงปืนทีมชาติไต้หวัน คว้าเหรียญทองแดงมาครองในการแข่งขันกีฬายิงปืนประเภทเป้าบิน  คว้า 45 คะแนน นับเป็นเหรียญรางวัลแรกของไต้หวันในรายการยิงปืนของการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ โดยหลี่ฯ กล่าวว่า ผมรู้สึกปลื้มปิติเป็นอย่างมากในการเป็นผู้สร้างสถิติครั้งนี้
 
โดยในวันเดียวกันนี้ อู๋ซืออี๋ นักชกหญิงชาวไต้หวัน แม้จะพ่ายให้แก่คู่ต่อสู้จากจีน ด้วยคะแนน 0 : 5 แต่ก็ยังสามารถคว้าเหรียญทองแดงมาครองในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ รุ่นน้ำหนัก 60 กิโลกรัม