ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
กต.ไต้หวันแสดงความเห็นต่อแถลงการณ์ร่วมเนื่องในวาระครบรอบปีของการประชุมสุดยอดผู้นำที่แคมป์เดวิดของสหรัฐฯ ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้
2024-08-19
New Southbound Policy。กต.ไต้หวันแสดงความเห็นต่อแถลงการณ์ร่วมเนื่องในวาระครบรอบปีของการประชุมสุดยอดผู้นำที่แคมป์เดวิดของสหรัฐฯ ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ)
กต.ไต้หวันแสดงความเห็นต่อแถลงการณ์ร่วมเนื่องในวาระครบรอบปีของการประชุมสุดยอดผู้นำที่แคมป์เดวิดของสหรัฐฯ ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ)

กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 18 ส.ค. 67
 
เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ที่ผ่านมา ตามเวลาในเขตตะวันออกของสหรัฐฯ ทำเนียบขาวแห่งสหรัฐฯ ได้ประกาศ “แถลงการณ์ร่วมเนื่องในวาระครบรอบปี” ของการประชุมสุดยอดผู้นำที่แคมป์เดวิด (Camp David summit) ระหว่างสหรัฐฯ ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ซึ่งนอกจากจะเน้นย้ำกลไกการเสริมสร้างความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนด้านความมั่นคง เทคโนโลยีและเศรษฐกิจ บนพื้นฐาน “หลักการแคมป์เดวิด” ที่ประกาศเมื่อปี พ.ศ. 2566 แล้ว ทั้ง 3 ประเทศข้างต้นยังได้แสดงจุดยืนว่าด้วยความมุ่งมั่นในการธำรงรักษาสันติภาพและเสถียรภาพแบบพหุภาคี การธำรงรักษาไว้ซึ่งวิสัยทัศน์ และความมุ่งมั่นในการร่วมเผชิญหน้ากับความท้าทายระดับโลก
 
ความมั่นคงในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก เป็นประเด็นสำคัญที่ประชาคมโลกต่างให้ความสนใจ หลายปีมานี้ แถลงการณ์ร่วมแบบพหุภาคีและทวิภาคี หลังเสร็จสิ้นการประชุมแบบพหุภาคีในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก ระหว่างสหรัฐฯ ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ และการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมแบบพหุภาคี การประชุมสุดยอดพหุภาคี ระหว่างสหรัฐฯ ญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์ การประชุมปรึกษาระดับสูงในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก ระหว่างสหรัฐฯ - สหภาพยุโรป (EU) การประชุมระดับรัฐมนตรี ระหว่างสหรัฐฯ - ออสเตรเลีย (AUSMIN) ต่างได้มีการระบุถึงความสำคัญของการธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค ควบคู่ไปกับการแสดงจุดยืนต่อต้านการเปลี่ยนแปลงสถานภาพเดิมในปัจจุบัน กต.ไต้หวันเน้นย้ำว่า ไต้หวันในฐานะที่เป็นสมาชิกรายสำคัญของประชาคมโลก จะมุ่งมั่นประสานความร่วมมือกับสหรัฐฯ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันต่อไป เพื่อร่วมธำรงปกป้องสันติภาพ เสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองในช่องแคบไต้หวันและภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก ให้คงอยู่อย่างยั่งยืนต่อไป
 
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ที่ผ่านมา Mr. Enrique A. Manalo รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ก็ได้ตอบข้อซักถามในระหว่างการประชุมของสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศ (FOCAP Forum) ว่า สถานการณ์ในช่องแคบไต้หวันมีความสำคัญต่อฟิลิปปินส์เป็นอย่างมาก โดยหวังที่จะเห็นทุกฝ่ายแก้ไขปัญหากันด้วยสันติวิธี ซึ่งเป็นอีกครั้งต่อเนื่องจากที่ได้มีการระบุข้อความที่เกี่ยวข้องกับความสำคัญของสันติภาพและเสถียรภาพของช่องแคบไต้หวัน ในแถลงการณ์ร่วม รูปแบบ 2+2 ระหว่างฟิลิปปินส์ - สหรัฐฯ เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา กต.ไต้หวันรู้สึกยินดีและขอแสดงความชื่นชม พร้อมทั้งยินดีที่จะเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางความร่วมมือในเชิงลึก ระหว่างไต้หวัน – ฟิลิปปินส์ ภายใต้พื้นฐานค่านิยม “การทูตแบบบูรณาการ” และความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจการค้าแบบทวิภาคีต่อไป