ทำเนียบประธานาธิบดีและกระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 23 ส.ค. 67
เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 23 สิงหาคม ที่ผ่านมา รองประธานาธิบดีเซียวเหม่ยฉินแห่งสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้เข้าร่วมพิธีเปิด “งานนิทรรศการแสดงผลสัมฤทธิ์ว่าด้วยการส่งมอบความช่วยเหลือเชิงมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ตามหลักการ Taiwan Can Help” โดยรองปธน.เซียวฯ กล่าวว่า ความรู้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ขององค์การนอกภาครัฐ (NGO) ไต้หวัน ล้วนได้รับการยอมรับจากประชาคมโลก และได้แสดงพลังแห่งความดีงามให้เป็นที่ประจักษ์แก่ทั่วโลก ซึ่งทำให้พวกเรามีโอกาสทำความรู้จักกับมิตรสหายทั่วโลกมากมาย ควบคู่ไปกับการยกระดับความยืดหยุ่นและภาพลักษณ์การเข้าร่วมในโลกนานาชาติของไต้หวัน โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ความกระตือรือร้น มิตรไมตรีและค่านิยมที่หลากหลายของไต้หวัน จะถูกกล่าวขานอย่างต่อเนื่องบนเวทีนานาชาติ เพื่อช่วยให้โลกใบนี้น่าอยู่ขึ้นเพราะไต้หวัน
รองปธน.เซียวฯ กล่าวว่า หลายปีมานี้ ไต้หวันต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคและความท้าทายนานาประการ และประสบกับความยากลำบากในด้านสถานภาพระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากพลังแห่งความดีของไต้หวัน ประกอบกับความรักของและไมตรีจิตของประชาชนชาวไต้หวัน ส่งผลให้ประชาคมโลกยินดีที่จะส่งมอบความอบอุ่นและกำลังใจให้แก่พวกเรา อันจะเห็นได้จากกรณีท่ามกลางสถานการณ์โรคโควิด – 19 ไต้หวันได้อุทิศคุณประโยชน์ให้ประชาคมโลก ด้วยการบริจาคเวชภัณฑ์การแพทย์และเวชภัณฑ์การป้องกันโรคระบาดอย่างโอบอ้อมอารี ซึ่งส่งผลให้มิตรประเทศต่างรู้สึกยินดีที่จะบริจาควัคซีนตอบแทนคืนสู่ไต้หวัน เมื่อยามที่พวกเราต้องการ
รองปธน.เซียวฯ ชี้ว่า เหตุแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในตุรกี ซีเรียหรือญี่ปุ่น หลังรับทราบข่าว ไต้หวันก็พร้อมจัดส่งคณะปฏิบัติภารกิจให้ความช่วยเหลือเข้าร่วมภารกิจการกู้ภัยในทันที เพื่อช่วยบรรเทาทุกข์โศกให้แก่ผู้ประสบภัยที่ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน โดยคณะเจ้าหน้าที่ NGO เหล่านี้ ต่างผ่านการเข้าร่วมในกลไกการฝึกอบรมที่เข้มงวดมาแล้วทั้งสิ้น ในระหว่างที่ประเทศชาติประสบกับภัยพิบัติทางธรรมชาติหรือภัยพิบัติที่มนุษย์สร้างขึ้น เจ้าหน้าที่ NGO ต่างแสวงหาแนวทางในการส่งมอบความช่วยเหลือด้วยรูปแบบวิธีการที่หลากหลาย ส่วนในช่วงเวลาปกติสุข เจ้าหน้าที่ NGO ก็มุ่งมั่นเชื่อมโยงข้อได้เปรียบของไต้หวันสู่เวทีนานาชาติในแขนงสาขาต่างๆ อาทิ การแพทย์ การศึกษา การเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ การเกษตร การส่งเสริมศักยภาพสตรี และการเปลี่ยนผ่านสู่ความเป็นธรรมในสังคม เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้มิตรสหายนานาชาติสัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณของ Taiwan Can Help
รองปธน.เซียวฯ ย้ำว่า เราต้องแสดงให้ประชาคมโลกประจักษ์ถึงความรับผิดชอบและคำมั่นสัญญาของไต้หวัน ด้วยการยืนหยัดในจิตวิญญาณการที่จะให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม การสวมบทบาทเป็นพลังแห่งความดีงาม พลังที่เปิดกว้าง และด้วยวิธีการที่เป็นรูปธรรม โดยหวังที่จะเห็นกระทรวงการต่างประเทศ มุ่งเสริมสร้างความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนในเชิงลึกกับ NGO อย่างกระตือรือร้น ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เปี่ยมด้วยอุปสรรค รองปธน.เซียวฯ เชื่อว่า เราจะสามารถก้าวข้ามผ่านไปได้ ด้วยความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนที่เหนียวแน่น ระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน
นอกจากนี้ นายเถียนจงกวง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ก็ได้เข้าร่วมพิธีเปิดนิทรรศการแสดงผลสัมฤทธิ์ในครั้งนี้เช่นเดียวกัน โดยปีนี้เป็นครั้งแรกที่มีองค์การ NGO ไต้หวัน จำนวน 27 รายเข้าร่วม แสดงให้เห็นถึงผลสัมฤทธิ์ภายใต้โครงการความร่วมมือด้านการส่งมอบความช่วยเหลือเชิงมนุษยธรรมให้แก่นานาประเทศทั่วโลก ผ่านการประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา โดยหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะยกระดับความตระหนักรู้และความสนใจของภาคประชาชน ที่มีต่อการเป็นพลเมืองโลกและเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน ภายใต้ระบบสหประชาชาติ (UN)
รมช.เถียนฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจาก กต.ไต้หวันจะผลักดันให้ NGO เข้ามีส่วนร่วมในโครงการช่วยเหลือระดับนานาชาติแล้ว ยังมุ่งผลักดันการจัดตั้งสำนักงานย่อยในไต้หวันขององค์การนอกภาครัฐระหว่างประเทศ (INGO) ซึ่งตราบจนปัจจุบัน “สถาบันส่งเสริมประชาธิปไตย” (NDI) สถาบันระหว่างประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยม” (International Republican Institute, IRI) ของสหรัฐฯ “สถาบันนโยบายด้านความมั่นคงในภูมิภาคยุโรป” (European Values Center for Security Policy, EVC) ของสาธารณรัฐเช็ก “องค์กรสิทธิมนุษยชนในกรุงมาดริด” (Safeguard Defenders) ของสเปน ต่างก็ทยอยเข้ามาจัดตั้งสำนักงานย่อยในไต้หวัน ภายใต้การให้ความช่วยเหลือของกต.ไต้หวัน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
งานนิทรรศการในปีนี้ จัดขึ้นภายใต้ธีม “สิ่งที่ไต้หวันรัก สิ่งที่โลกรัก” ซึ่งภายในงาน แบ่งการจัดแสดงออกเป็น 5 โซนหลัก ได้แก่ การศึกษา เพศและความเสมอภาค การบรรเทาความยากจนและการพัฒนาในพื้นที่ชุมชน การแพทย์และความช่วยเหลือเชิงมนุษยธรรม รวมไปถึงสภาพแวดล้อมและการพัฒนาที่ยั่งยืน แสดงให้เห็นถึงผลสัมฤทธิ์ของโครงการพัฒนาความร่วมมือระหว่างประเทศ ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง NGO และหน่วยงานภาครัฐของไต้หวัน