กระทรวงสิ่งแวดล้อม วันที่ 13 ก.ย.67
ความร่วมมือระหว่างประเทศเป็นกุญแจสำคัญในการเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ไต้หวันและเยอรมนีได้ลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนงเพื่อสร้างความร่วมมือด้านการค้าคาร์บอนในปี 2561 และตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันอย่างต่อเนื่องในประเด็นการกำหนดราคาคาร์บอน โดยในวันที่ 11 และ 12 กันยายน ที่ผ่านมา มีการจัด "การประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการกำหนดราคาคาร์บอน ไต้หวัน-เยอรมนี" ที่ประเทศเยอรมนี โดยนายเผิงฉี่หมิง รัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อม สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้นำคณะตัวแทนเข้าร่วมการประชุม หลังจากระบบค่าคาร์บอนได้เริ่มต้นใช้งานอย่างเป็นทางการ หวังว่าความร่วมมือระหว่างสองฝ่ายจะเป็นไปในเชิงลึกมากยิ่งขึ้นและเพิ่มความพยายามในการลดการปลดปล่อยคาร์บอนได้มากขึ้น
หลังจากที่มีการลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนงระหว่างกันเป็นต้นมา กระทรวงสิ่งแวดล้อม (ก่อนการปรับโครงสร้างคือสำนักงานอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม) และสำนักงานการค้าการปล่อยคาร์บอนของเยอรมนี ได้มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ในทุกปี ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันจัดการประชุมสัมมนาหรือการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการโดยเน้นเรื่องการกำหนดราคาคาร์บอนหรือการค้าคาร์บอน ซึ่งทั้งไต้หวันและเยอรมนีได้สลับกันเป็นเจ้าภาพ
ในช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ไต้หวันได้ประกาศกฎหมายลูกเกี่ยวกับการจัดเก็บค่าปลดปล่อยคาร์บอน 3 ฉบับ และระบบค่าคาร์บอนได้เริ่มต้นใช้งานอย่างเป็นทางการ โดยจะเริ่มทำการเก็บค่าคาร์บอนในปี 2568 ในขณะที่ CBAM ของสหภาพยุโรปคาดว่าจะเริ่มใช้งานในปี 2569
รมว. เผิงฯ กล่าวว่า ระบบจัดเก็บค่าคาร์บอนของไต้หวันได้เริ่มต้นการใช้งานแล้ว และการแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับการกำหนดราคาคาร์บอนระหว่างไต้หวันกับเยอรมนี กำลังก้าวสู่ระยะที่ 2 โดยคาดว่าการเก็บค่าคาร์บอนจะเริ่มขึ้นในปีหน้า ทำให้ไต้หวันจะก้าวเข้าสู่ยุคแห่งการกำหนดราคาค่าคาร์บอน และในอนาคตจะมีการทดสอบกลไกการค้าคาร์บอน หวังว่าใน 4 ปีข้างหน้า จะสามารถบังคับใช้ระบบการควบคุมปริมาณการปล่อยคาร์บอนได้