ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
รมช.กต.ไต้หวันเข้าร่วมพิธีเปิด “โครงการบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์เพื่อพัฒนาสู่การเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติขององค์การนอกภาครัฐ”
2024-10-01
New Southbound Policy。รมช.กต.ไต้หวันเข้าร่วมพิธีเปิด “โครงการบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์เพื่อพัฒนาสู่การเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติขององค์การนอกภาครัฐ” (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ)
รมช.กต.ไต้หวันเข้าร่วมพิธีเปิด “โครงการบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์เพื่อพัฒนาสู่การเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติขององค์การนอกภาครัฐ” (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ)

กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 30 ก.ย. 67
 
เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2567 นายเถียนจงกวง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้เข้าร่วมพิธีเปิด “โครงการบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์เพื่อพัฒนาสู่การเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติขององค์การนอกภาครัฐ” ที่จัดโดยสมาพันธ์พัฒนาความช่วยเหลือต่างประเทศแห่งไต้หวัน (Taiwan AID) โดย Mr. Jeremy Cornforth รองผู้อำนวยการสถาบันอเมริกาในไต้หวัน (AIT/T) ก็ได้รับเชิญให้เข้าร่วมกล่าวปราศรัย โดยมีเจ้าหน้าที่องค์การนอกภาครัฐ (NGO) ของไต้หวันหลายรายที่เข้าร่วมในโครงการข้างต้นอย่างกระตือรือร้น
 
รมช.เถียนฯ ในฐานะตัวแทนกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้กล่าวต้อนรับต่อกลุ่มผู้นำเยาวชนจำนวน 15 คน ที่เดินทางมาเข้ารับการฝึกอบรมในไต้หวัน พร้อมชี้ว่า ขณะนี้พายุไต้ฝุ่นกำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้ไต้หวัน เมื่อปีที่แล้ว กลุ่มผู้เข้าร่วมการฝึกอบรบกลุ่มแรกที่เดินทางมาไต้หวัน ต้องเผชิญกับเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรง เพราะฉะนั้นจึงจะเห็นได้ว่า ทุกคนที่นี่ล้วนแต่เป็นมิตรสหายที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขในการเผชิญหน้ากับภัยธรรมชาติที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศในไต้หวัน
 
รมช.เถียนฯ กล่าวอีกว่า ในปี พ.ศ. 2557 ซึ่งตนดำรงตำแหน่งเป็นผู้แทนรัฐบาลไต้หวันในอินเดีย มีโอกาสได้ทำหน้าที่เป็นประธานงานเลี้ยงฉลองวันชาติ และได้รับทราบว่าผู้สื่อข่าวสำนักข่าว CNA กำลังทำการสัมภาษณ์นายไกลาส สัตยาธี (Kailash Satyarthi) นักต่อสู้เพื่อสิทธิเด็กชาวอินเดีย จึงได้ติดต่อเชิญให้ Mr. Satyarthi เดินทางมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ในไต้หวัน เนื่องจากตลอดช่วงชีวิตที่ผ่านมาของ Mr. Satyarthi เขาได้มุ่งมั่นต่อต้านการลิดรอนสิทธิแรงงานเด็กและเคยให้ความช่วยเหลือเด็กและเยาวชนในพื้นที่ จำนวนกว่า 80,000 คน อีกทั้งยังได้ประสานความร่วมมือกับมูลนิธิสวัสดิการสังคมเอเดน (Eden Social Welfare Foundation) และมูลนิธิ Waker ซึ่งเป็นองค์การนอกภาครัฐของไต้หวัน ในประเด็นสิทธิเด็กและการให้ความช่วยเหลือด้านการใช้แรงงานเด็ก ซึ่งเป็นกรณีตัวอย่างของการเข้าร่วมภารกิจให้ความช่วยเหลือในระดับนานาชาติขององค์กร NGO ในไต้หวัน
 
รมช.เถียนฯ กล่าวต่อว่า ในช่วงสถานการณ์โรคโควิด – 19 ไต้หวันได้บริจาคหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ จำนวนนับล้านชิ้นให้แก่นานาประเทศทั่วโลก อีกทั้งในช่วงที่ผ่านมา ตูวาลูและญี่ปุ่นประสบกับภัยแผ่นดินไหวครั้งรุนแรง หลังทราบข่าว รัฐบาลและองค์กร NGO ของไต้หวันต่างก็เร่งส่งมอบความช่วยเหลือและระดมเงินทุนเพื่อช่วยบรรเทาสาธารณภัย ในทำนองเดียวกัน หากไต้หวันประสบกับภัยแผ่นดินไหว กลุ่มประเทศเหล่านี้ก็จะยื่นมือเข้าให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มใจ จึงจะเห็นว่า พวกเราเป็นพลังแห่งความดีของโลก ในโอกาสนี้ที่ผู้นำเยาวชน NGO จาก 14  ประเทศได้เดินทางมาเยือนไต้หวัน จะสามารถได้รับข้อมูลจากประสบการณ์ตรงของตัวเอง และมีความเข้าใจมากขึ้นต่อสังคมไต้หวัน ที่เปี่ยมด้วยพลังแห่งความดีอันนำมาซึ่งความเจริญรุ่งโรจน์ในสังคม รมช.เถียนฯ จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ในอนาคต กลุ่มผู้นำเยาวชน NGO ที่มาเข้ารับการฝึกอบรมในครั้งนี้ จะสามารถเชื่อมโยงความสัมพันธ์กับไต้หวันผ่านโครงการข้างต้น โดยไม่เพียงแต่ได้เห็นถึงประชาธิปไตย เสรีภาพ และความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจของไต้หวันเท่านั้น แต่ยังได้เห็นความพยายามของไต้หวันในงานด้านมนุษยธรรม เมื่อกลับไปยังประเทศของตนแล้ว จะได้ทำหน้าที่เป็นทูตแห่งความปรารถนาดี (Ambassador of goodwill) ของไต้หวัน นำสิ่งที่ได้พบเห็นและประสบการณ์จากการมาเยือนไต้หวันกลับไปแบ่งปันกับเพื่อนๆ ในประเทศของตน