กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 27 ต.ค. 67
ในช่วงระหว่างวันที่ 24 – 25 ตุลาคม 2567 นายหลินเจียหรง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้นำคณะตัวแทนเดินทางเยือนสาธารณรัฐกัวเตมาลา ซึ่งเป็นประเทศพันธมิตรของไต้หวันที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคอเมริกากลาง นับเป็นครั้งที่ 3 ที่รมว.หลินฯ เดินทางเยือนกัวเตมาลา แต่เป็นครั้งแรกที่เดินทางไปเยือนในฐานะ รมว. ต่างประเทศ โดยในระหว่างการเยือนกัวเตมาลา คณะตัวแทนได้เข้าเยี่ยมคารวะ H.E. Bernardo Arévalo ประธานาธิบดีสาธารณรัฐกัวเตมาลา และร่วมเจรจาหารือกับ Mr. Carlos Martínez รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของกัวเตมาลา พร้อมทั้งเข้าร่วมงานเฉลิมฉลองเนื่องในวาระครบรอบ 90 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ระหว่างไต้หวัน – กัวเตมาลา
โดยในระหว่างการเยี่ยมคารวะ ปธน. Arévalo รมว.หลินฯ ได้แสดงความขอบคุณที่ ปธน. Arévalo ให้ความสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อความสัมพันธ์ ระหว่างไต้หวัน – กัวเตมาลา พร้อมย้ำว่า ไต้หวันเป็นหุ้นส่วนอันเข้มแข็งของกัวเตมาลา ซึ่งนอกจากจะให้ความช่วยเหลือกัวเตมาลาในการจัดตั้งสถานพยาบาล บริจาคผลิตภัณฑ์ยา เครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ และอุปกรณ์กู้ภัยแล้ว ไต้หวันยังได้ให้ความช่วยเหลือในโครงการความร่วมมือเพื่อสร้างความผาสุกให้แก่ประชาชนชาวกัวเตมาลา ที่บังเกิดผลสัมฤทธิ์ขึ้นตามเป้าหมาย นอกจากนี้ รมว.หลินฯ ยังกล่าวอีกว่า ไต้หวันได้ส่งมอบความช่วยเหลือด้านการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจการค้าและความร่วมมือทางภาคอุตสาหกรรม ควบคู่ไปกับการช่วยยกระดับภาคอุตสาหกรรมของกัวเตมาลา เพื่อตอบสนองต่อความคาดหวังของปธน. Arévalo ที่ต้องการยกระดับให้ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน - กัวเตมาลา เป็นความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ นอกจากนี้ รมว.หลินฯ ยังได้เข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารที่จัดต้อนรับโดย ปธน. Arévalo และ Ms. Lucrecia Peinado สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสาธารณรัฐกัวเตมาลา โดยรมว.หลินฯ ในฐานะตัวแทนของประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้เชิญชวนให้ ปธน. Arévalo และภริยา หาโอกาสเดินทางเยือนไต้หวัน เพื่อร่วมวางวิสัยทัศน์ความสัมพันธ์แบบทวิภาคี ในอีก 90 ปีข้างหน้าด้วย
หลังเสร็จสิ้นการเจรจาหารือ รมว.หลินฯ ยังได้เดินทางเข้าเยี่ยมชมอาคารเด็กแรกเกิดของโรงพยาบาล San Juan de Dios ซึ่งเป็นผลสัมฤทธิ์ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างไต้หวัน – กัวเตมาลา พร้อมทั้งร่วมสร้างปฏิสัมพันธ์กับสมาชิกของครอบครัวที่ได้รับอานิสงส์ โดยมี Dr. Erika Pérez ผู้อำนวยการ รพ. เป็นผู้ชี้แจงการใช้เครื่องมืออุปกรณ์และฟังก์ชันต่างๆ ของโรงพยาบาล ด้วยตนเอง
รมว.หลินฯ กล่าวว่า นอกจากการร่วมทุนจัดตั้งอาคารเด็กแรกเกิดให้แก่รพ. San Juan de Dios แล้ว คณะเจ้าหน้าที่ไต้หวันที่ประจำการในกัวเตมาลา ยังได้ประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญชาวกัวเตมาลา ในการดำเนิน “โครงการสวัสดิการเพื่อสตรีมีครรภ์และเด็กแรกเกิด” ในการช่วยบ่มเพาะบุคลากรทางการแพทย์ในสถานพยาบาลและศูนย์รับฝากครรภ์ของกัวเตมาลาด้วย เพื่อยกระดับศักยภาพทางวิชาชีพให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ในด้านการดูแลสตรี ทั้งในช่วงภาวะก่อนการผดุงครรภ์ การผดุงครรภ์ และหลังการคลอด รวมถึงลดความเสี่ยงของการคลอดก่อนกำหนดและการเสียชีวิตของทารกแรกเกิด ซึ่งในแต่ละปีมีจำนวนผู้ได้ประโยชน์กว่า 70,000 คน นอกจากนี้ ยังได้เชิญเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเดินทางมาเข้ารับการฝึกอบรมในไต้หวัน คาดว่าโครงการข้างต้นจะสามารถบ่มเพาะบุคลากรทางการแพทย์ได้ในจำนวนกว่า 450 คน อันจะมีส่วนช่วยในการยกระดับคุณภาพการดูแลกลุ่มสตรีและเด็กในกัวเตมาลา
โดย รมว.หลินฯ ยังได้เข้าเจรจาหารือกับ รมว. Martínez พร้อมทั้งเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารที่จัดต้อนรับโดย กต.กัวเตมาลา เพื่อร่วมฉลองวาระครบรอบ 90 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน ซึ่ง รมว.หลินฯ ได้กล่าวขอบคุณต่อรัฐบาลกัวเตมาลา ที่ให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมในองค์การระหว่างประเทศด้วยการยื่นส่งหนังสือเรียกร้องต่อทั้ง “การประชุมสมัชชาอนามัยโลก” (WHA) และสหประชาชาติ (UN) และยังกระตุ้นให้กัวเตมาลาให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมใน “การประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 29 (UNFCCC COP 29)” ที่เตรียมเปิดฉากขึ้นในเร็ววันนี้
นอกจากนี้ ภริยาของ รมว.หลินฯ ก็ได้ตอบรับคำเชิญของ Ms. Peinado สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสาธารณรัฐกัวเตมาลา ร่วมเดินทางเยือนกัวเตมาลามาพร้อมกับ รมว.หลินฯ ซึ่งได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจาก Ms. Peinado ด้วยการพาเข้าเยี่ยมชมโรงงานผลิตว่าวที่ตั้งอยู่ในเมือง Sumpango พร้อมทำความเข้าใจกับวัฒนธรรมเทศกาลว่าวที่เปี่ยมด้วยเอกลักษณ์ของท้องถิ่น และเข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์แอนติกา พิพิธภัณฑ์สถานเชิงวัฒนธรรมแห่งชาติ รวมทั้งยังเข้าเยี่ยมชมการแสดงดนตรีและนาฏศิลป์แบบดั้งเดิม เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างทั้งสองฝ่าย ให้เป็นไปในเชิงลึกมากขึ้นต่อไป