ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
รมว.กต.ไต้หวันในฐานะทูตพิเศษปธน.ไล่ชิงเต๋อ นำคณะตัวแทนเดินทางเยือนเซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์ เข้าพบคารวะผู้สำเร็จราชการและนรม. เซนต์วินเซนต์ ตลอดจนเข้าร่วมกิจกรรมฉลองครบรอบ 45 ปีแห่งการประกาศอิสรภาพของเซนต์วินเซนต์
2024-10-29
New Southbound Policy。รมว.กต.ไต้หวันในฐานะทูตพิเศษปธน.ไล่ชิงเต๋อ นำคณะตัวแทนเดินทางเยือนเซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์ เข้าพบคารวะผู้สำเร็จราชการและนรม. เซนต์วินเซนต์ ตลอดจนเข้าร่วมกิจกรรมฉลองครบรอบ 45 ปีแห่งการประกาศอิสรภาพของเซนต์วินเซนต์ (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ)
รมว.กต.ไต้หวันในฐานะทูตพิเศษปธน.ไล่ชิงเต๋อ นำคณะตัวแทนเดินทางเยือนเซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์ เข้าพบคารวะผู้สำเร็จราชการและนรม. เซนต์วินเซนต์ ตลอดจนเข้าร่วมกิจกรรมฉลองครบรอบ 45 ปีแห่งการประกาศอิสรภาพของเซนต์วินเซนต์ (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ)

กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 28 ต.ค. 67
 
เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2567 นายหลินเจียหรง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน ในฐานะทูตพิเศษของประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้นำคณะตัวแทนเดินทางเยือนเซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์ ประเทศพันธมิตรทางการทูตของไต้หวันในพื้นที่แถบทะเลแคริบเบียน เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมฉลองวันประกาศอิสรภาพของเซนต์วินเซนต์ฯ พร้อมทั้งเข้าพบคารวะ H.E. Dame
Susan Dougan ผู้สำเร็จราชการเซนต์วินเซนต์ฯ และเข้าพบปะพูดคุยกับ Mr. Ralph Gonsalves นายกรัฐมนตรีเซนต์วินเซนต์ฯ โดยมีนางฟ่านฮุ่ยจวิน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ประจำเซนต์วินเซนต์ เข้าร่วมด้วย
 
ในระหว่างการเข้าพบคารวะผู้สำเร็จราชการ Dougan รมว.หลินฯ ได้ยื่นหนังสือแต่งตั้งทูตพิเศษและหนังสือร่วมแสดงความยินดีเนื่องในโอกาสครบรอบ 45 ปีแห่งการประกาศอิสรภาพของเซนต์วินเซนต์ จากนั้น H.E. Dougan และภริยา จึงได้นำคณะตัวแทนเข้าเยี่ยมชมทำเนียบผู้สำเร็จราชการ โดยรมว.หลินฯ ได้ร่วมลงนามสมุดเยี่ยมพร้อมเขียนคำว่า “ความสัมพันธ์ระหว่างสาธารณรัฐจีน(ไต้หวัน) – เซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์ ยั่งยืนยาวนาน” (R.O.C. (Taiwan) & St. Vincent and Grenadines, Everlasting Friendship!) เพื่อเป็นการแสดงถึงความคาดหวังที่จะให้ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – เซนต์วินเซนต์ดำเนินต่อไปอย่างยั่งยืนยาวนาน นอกจากนี้ รมว.หลินฯ ยังได้ยกย่องชื่นชม H.E. Dougan ที่ดำรงตำแหน่งเป็นประธาน “มูลนิธิ Dougan” ซึ่งเป็นมูลนิธิที่ให้ความช่วยเหลือแก่เยาวชนหญิงที่เลิกเรียนกลางคัน ด้วยการเสริมสร้างทักษะวิชาชีพให้แก่กลุ่มเป้าหมาย เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่
 
นอกจากนี้ รมว.หลินฯ ยังได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานเลี้ยงรับรองที่จัดโดย นรม. Gonsalves พร้อมกล่าวปราศรัยว่า ไต้หวัน – เซนต์วินเซนต์ได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันมาเป็นระยะเวลากว่า 43 ปี โครงการความร่วมมือแบบทวิภาคี ล้วนแต่บังเกิดผลสัมฤทธิ์ที่โดดเด่น โดยเฉพาะด้านการเกษตร เทคโนโลยีสารสนเทศและการติดต่อสื่อสารและสาธารณสุข เป็นต้น เมื่อเดือนเมษายนปีนี้ เมืองฮัวเหลียน พื้นที่ที่ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกของไต้หวัน ประสบกับภัยแผ่นดินไหวรุนแรง และในเดือนกรกฎาคม เซนต์วินเซนต์ก็ประสบกับภัยพิบัติที่เกิดจากพายุเฮอริเคนเบริล ซึ่งทั้งสองประเทศต่างก็ยื่นมือเข้าให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในทันทีที่ได้รับทราบข่าว แสดงให้เห็นถึงมิตรภาพระหว่างสองประเทศ ที่ร่วมทุกข์ - ร่วมสุข และเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกันเสมอมา
 
รมว.หลินฯ เน้นย้ำว่า ปธน.ไล่ฯ ได้ประกาศจุดยืนในระหว่างพิธีฉลองวันชาติ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ว่า ประชาธิปไตย สันติภาพและความเจริญรุ่งเรือง ถือเป็นทิศทางการพัฒนาของประเทศชาติ และเป็นความเชื่อมโยงระหว่างไต้หวัน - ประชาคมโลก โดยกต.ไต้หวันก็มุ่งประสานความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในการผลักดัน “การทูตเชิงบูรณาการ” ด้วยการอาศัยข้อได้เปรียบทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีในการเดินหน้าสู่เวทีโลก ควบคู่ไปกับการส่งเสริมให้ประชาคมโลกก้าวเข้าสู่ไต้หวัน ควบคู่ไปกับการธำรงรักษาไว้ซึ่งระบอบรัฐธรรมนูญที่ประกอบด้วยหลักการเสรีภาพและประชาธิปไตย ทั้งนี้ เพื่อปกป้องสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวันและภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก 
 
ในช่วงท้าย รมว.หลินฯ ได้แสดงความขอบคุณต่อเซนต์วินเซนต์ ที่ให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมในองค์การระหว่างประเทศมาเป็นเวลานาน โดยเฉพาะนรม. Gonsalves ที่ร่วมเป็นกระบอกเสียงให้ไต้หวันถึงสองครั้งในระหว่างการแสดงปาฐกถาในการประชุมอภิปรายทั่วไปของสหประชาชาติ ครั้งที่ 79 เพื่อให้การสนับสนุนสันติภาพในช่องแคบไต้หวันและการเข้าร่วมในองค์การระหว่างประเทศของไต้หวัน 
 
นอกจากนี้ รมว.หลินฯ ยังได้ทำหน้าที่เป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์ในการก่อตั้งโรงพยาบาลฉุกเฉิน Arnos Vale ร่วมกับนรม. Gonsalves พร้อมทั้งเข้าเยี่ยมชมห้องปฏิบัติการฝึกอบรมทางการเกษตรกรใน “ฟาร์มจวี๋ซาน” ที่จัดตั้งโดยไต้หวัน และพิธีเปิดตัวห้องเย็นสำหรับการเกษตร รวมถึงพิธีเปิดป้าย “ฟาร์มคัดเลือกแม่พันธุ์และผสมพันธุ์แกะแห่งชาติ  Rabacca” รวมถึงยังได้เข้าร่วม “เทศกาลคาร์นิวัลเพื่อการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ไต้หวัน – เซนต์วินเซนต์” ซึ่งนอกจากจะเป็นการเน้นย้ำถึงคำมั่นสัญญาเรื่องการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – เซนต์วินเซนต์แล้ว ยังร่วมเป็นสักขีพยานกับประชาชนเซนต์วินเซนต์ในการย้อนรำลึกถึงผลสัมฤทธิ์ที่ไต้หวันได้ส่งมอบความช่วยเหลือให้แก่เซนต์วินเซนต์ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา