กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 12 พ.ย. 67
การประชุมองค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ (International Criminal Police Organization, INTERPOL) ครั้งที่ 92 มีกำหนดการเปิดฉากขึ้น ณ เมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักร ในช่วงระหว่างวันที่ 4 – 7 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งแผนผลักดันเข้าร่วมการประชุม INTERPOL ของไต้หวันในปีนี้ ได้รับเสียงสนับสนุนจากหน่วยงานสภาบริหาร หน่วยงานนิติบัญญัติและองค์การสภาแบบข้ามพรมแดน รวมไปถึงบุคคลสำคัญในแวดวงต่างๆ กว่า 70 ประเทศ จึงจะเห็นได้ว่า พลังเสียงสนับสนุนแข็งแกร่งกว่าที่เคยมีมา กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ขอแสดงความขอบคุณต่อประชาคมโลกที่ร่วมเป็นกระบอกเสียงให้ไต้หวันอย่างหนักแน่นเสมอมา
ในปีนี้ กลุ่มประเทศพันธมิตรได้ร่วมเป็นกระบอกเสียงให้ไต้หวันด้วยวิธีการที่หลากหลาย พร้อมทั้งให้การยอมรับต่อคุณประโยชน์ด้านการปรามปรามคดีอาชญากรรมของไต้หวัน เน้นย้ำความสำคัญของการกำหนดให้ไต้หวันเข้าสู่เครือข่ายการป้องกันและปราบปรามคดีอาชญากรรมแบบข้ามพรมแดน ตลอดจนให้การสนับสนุนไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมใน INTERPOL โดยกลุ่มประเทศพันธมิตรนอกจากจะส่งหนังสือและติดต่อขอเจรจากับประธานและเลขาธิการ INTERPOL แล้ว คณะเอกอัครราชทูตจากเบลีซ เอสวาตินี หมู่เกาะมาร์แชลล์ ปาเลา ปารากวัย เซนต์คิดส์และเนวิส รวมไปถึงเซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์ ต่างก็ได้ทำการบันทึกวีดิทัศน์ เรียกร้องให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งใน INTERPOL
กลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันก็ได้แสดงจุดยืนให้การสนับสนุนไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมในองค์การระหว่างประเทศ อย่าง INTERPOL บนเวทีนานาชาติอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ แถลงการณ์ร่วมของการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ (G7) และแถลงการณ์ของประธานการประชุมรัฐมนตรีการต่างประเทศของ G7 ต่างก็ชี้แจงในจุดยืนให้การสนับสนุนไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมในองค์การระหว่างประเทศอย่างมีความหมาย อีกทั้งแถลงการณ์ร่วมหลังเสร็จสิ้นการประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศและรัฐมนตรีกลาโหม แบบ 2+2 ระหว่างอังกฤษ - ออสเตรเลีย และระหว่างฝรั่งเศส - ออสเตรเลีย ล้วนแต่มีเนื้อความเน้นย้ำการสนับสนุนต่อการเข้าร่วมในองค์การระหว่างประเทศของไต้หวัน
หน่วยงานตัวแทนรัฐบาลกลุ่มมิตรประเทศที่ประจำการในไต้หวัน ยังได้ให้การสนับสนุนไต้หวันผ่านสื่อโซเชียล อันจะเห็นได้จากสถาบันอเมริกาในไต้หวันร่วมแชร์ผลงานวีดิทัศน์เรียกร้องขอเข้าร่วมการประชุม INTERPOL ของไต้หวันบนเฟซบุ๊กทางการ อีกทั้งสำนักงานตัวแทนรัฐบาลออสเตรเลียประจำกรุงไทเปยังได้ร่วมเป็นกระบอกเสียงให้แผนผลักดันของไต้หวัน ผ่านการโพสต์ภาพทัศนศิลป์แผนผลักดันของไต้หวันในปีนี้บนสื่อโซเชียล พร้อมทั้งเรียกร้องให้แวดวงการบังคับใช้กฎหมายทั่วโลก ประสานความร่วมมือในการปราบปรามคดีการก่ออาชญากรรมข้ามพรมแดน
นอกจากนี้ พลังสนับสนุนจากหน่วยงานสภานิติบัญญัติ นับวันยิ่งทวีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ทั้งรัฐสภายุโรป วุฒิสภาสาธารณรัฐเช็ก สภาผู้แทนราษฎรเนเธอร์แลนด์ รัฐสภาเซนต์คิดส์และเนวิส รวมไปถึงสภาเกาะกวม ต่างผ่านญัตติให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วม INTERPOL กลุ่มพันธมิตรจีนแห่งรัฐสภาข้ามชาติ (IPAC) วุฒิสภาออสเตรเลีย สภาผู้แทนราษฎรแคนาดา สภาผู้แทนราษฎรอิตาลี และรัฐสภากัวเตมาลา ต่างผ่านญัตติให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมองค์การระหว่างประเทศอย่างมีความหมาย นอกจากนี้ สมาชิกสภาจากเกาหลีใต้ เยอรมนี เดนมาร์ก ไอร์แลนด์ อิตาลี สเปน ลัตเวีย เอสโตเนีย บราซิล เม็กซิโกและโคลอมเบีย และสมาชิก “สโมสรฟอร์โมซา” ในทั่วทุกภูมิภาค ต่างส่งหนังสือเรียกร้องไปยังประธานและเลขาธิการ INTERPOL ให้พิจารณาเปิดรับไต้หวันเข้าร่วมเป็นสมาชิก
ในด้านสื่อมวลชนต่างชาติ บทความภายใต้ชื่อ “ร่วมสร้างโลกที่มั่นคงไปพร้อมกับไต้หวัน ด้วยการสนับสนุนให้ไต้หวันเข้าร่วมองค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ (INTERPOL)” ของนายโจวโย่วเหว่ย ผู้บังคับการกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทยของไต้หวัน รวมถึงบทความที่เรียบเรียงโดยสำนักงานตัวแทนรัฐบาลไต้หวันในต่างแดน และรายงานที่เกี่ยวข้อง รวม 195 บทความ รวมไปถึงผลงานวีดิทัศน์ ภายใต้ชื่อ “ปฏิบัติการข้ามพรมแดน” (Borderline Operations) ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางมุ่งผลักดันในปีนี้ ที่อัปโหลดบนเฟซบุ๊กกต.ไต้หวัน และสำนักงานตัวแทนรัฐบาลไต้หวันในต่างแดน รวมไปถึงช่องทางแพลตฟอร์ม X และ Youtube Channel ช่อง Trending Taiwan ส่งผลให้มียอดผู้เข้าชมเป็นจำนวนกว่า 2.81 ล้านคนครั้ง
กต.ไต้หวันเน้นย้ำว่า หากแผนแม่บทด้านการธำรงรักษาความมั่นคงระหว่างประเทศ ปราศจากซึ่งไต้หวัน ก็คงจะไม่นับว่าสมบูรณ์ การที่ไต้หวันมิสามารถเข้าร่วม INTERPOL ไม่เป็นประโยชน์ต่อความมั่นคงในระดับโลก อีกทั้งยังอาจสร้างความเสียหายต่อสวัสดิการของภาคประชาชน ไต้หวันมีศักยภาพและความสมัครใจ พร้อมประสานความร่วมมือกับประชาคมโลก ในการร่วมปราบปรามคดีอาชญากรรมแบบข้ามพรมแดน จึงขอเรียกร้องให้ INTERPOL ยึดมั่นในจุดยืนที่เป็นกลางและหลักการความเชี่ยวชาญ ด้วยการเชิญให้ไต้หวันเข้าสู่เครือข่ายการบังคับใช้กฎหมายระหว่างประเทศโดยเร็ววัน เพื่อปกป้องความมั่นคงระดับสากลให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืนต่อไป