ทำเนียบประธานาธิบดีและกระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 19 พ.ย. 67
ต่อกรณีเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 ที่ศาลฮ่องกงได้พิพากษาลงโทษจำคุกนักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย จำนวน 45 คนในคดี “ฮ่องกง 47” (HONG KONG 47) กัวหย่าฮุ่ย โฆษกทำเนียบประธานาธิบดี สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) แถลงว่า ประชาธิปไตยไร้ซึ่งความผิด จึงขอประณามรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่อาศัยกระบวนการยุติธรรมและกระบวนการที่อยู่นอกกฎหมาย กีดกันมิให้ประชาชนชาวฮ่องกงที่ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยเข้ามีส่วนร่วมทางการเมือง พร้อมทั้งจำกัดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ซึ่งนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยทั้ง 45 คน ถูกตัดสินให้ต้องโทษจำคุก 4 – 10 ปี ถือเป็นการคุกคามกลุ่มนักเคลื่อนไหวชาวฮ่องกงที่มุ่งแสวงหาเสรีภาพและประชาธิปไตยอย่างรุนแรง ซึ่งนอกจากจะเป็นการละเมิดคำมั่นสัญญา “ไม่มีการเปลี่ยนแปลงภายใน 50 ปี” และ “สิทธิในการปกครองตนเอง” อีกทั้งยังเป็นการชี้ให้เห็นถึงความล้มเหลวของหลักการ “1 ประเทศ 2 ระบบ” กัวหย่าฮุ่ยกล่าวว่า ประชาชนชาวไต้หวัน – ฮ่องกง ล้วนมีเจตนารมณ์ในการมุ่งแสวงหาเสรีภาพและประชาธิปไตยเช่นเดียวกัน โดยไต้หวันจะให้การสนับสนุนฮ่องกงอย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรมผ่าน “แผนปฏิบัติการส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ฮ่องกง”
กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) สังเกตเห็นว่า กลุ่มประเทศประชาธิปไตยและองค์การระหว่างประเทศ ต่างแสดงความห่วงกังวลต่อคดีข้างต้น พร้อมทั้งระบุชัดเจนว่า เสรีภาพและหลักนิติธรรมที่เจริญรุ่งเรืองของฮ่องกง ถูกเหยียบย่ำซ้ำแล้วซ้ำเล่า อีกทั้งค่านิยมพื้นฐานด้านเสรีภาพและประชาธิปไตยของฮ่องกง ถูกละเมิดอย่างรุนแรง อีกทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึง การเสื่อมสลายอย่างรวดเร็วของสิทธิมนุษยชนในฮ่องกง กต.ไต้หวันจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลจีนเร่งยุติการทำลายเจตนารมณ์ของชาวฮ่องกงที่ต้องการจะแสวงหาเสรีภาพและประชาธิปไตย พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลฮ่องกงสร้างหลักประกันด้านสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพให้แก่ภาคประชาชน ด้วยการยุติการสร้างแรงกดดันทางการเมือง พร้อมทั้งปล่อยตัวนักโทษทางการเมืองที่ถูกพิพากษาอย่างไม่เป็นธรรม
นอกจากนี้ คณะกรรมการกิจการจีนแผ่นดินใหญ่ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ยังได้แสดงจุดยืนเกี่ยวกับการตัดสินคดีข้างต้น ซึ่งเป็นคดีฟ้องร้องทางการเมืองที่รุนแรงที่สุด นับตั้งแต่ที่ได้มีการประกาศใช้ “กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฮ่องกง” เป็นต้นมา โดยรัฐบาลไต้หวันได้แสดงความห่วงกังวลต่อนักเคลื่อนไหวทางประชาธิปไตยที่ถูกจับกุมและถูกตัดสินคดี พร้อมทั้งรู้สึกเสียใจต่อผลการตัดสิน
คกก.กิจการแผ่นดินใหญ่ แถลงว่า การจัดอันดับโลกหลายรายการและคดีฟ้องร้องที่ผุดขึ้นมาไม่ขาดสายในช่วงหลายปีมานี้ สะท้อนให้เห็นว่า ประชาธิปไตย เสรีภาพและสิทธิมนุษยชนของฮ่องกงนับวันจะยิ่งเสื่อมถอยลง ซึ่งส่งผลกระทบในเชิงลบต่อภาพลักษณ์ของฮ่องกงในระดับนานาชาติ รัฐบาลฮ่องกงควรให้ความเคารพและสร้างหลักประกันทางสิทธิพลเมือง เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น รวมไปถึงสิทธิมนุษยชนในกระบวนการยุติธรรมให้แก่ภาคประชาชน เพื่อหลีกเลี่ยงมิให้ข้อได้เปรียบของฮ่องกงเลือนหายไป รวมถึงภาพลักษณ์ที่นับวันจะตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง