กระทรวงเศรษฐการ วันที่ 27 พ.ย.67
 
พิธีประกาศผลและมอบรางวัลผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยมไต้หวัน (Taiwan excellence) ครั้งที่ 33 ประจำปี พ.ศ. 2567 ถูกจัดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 27 พฤศจิกายน ณ ศูนย์แสดงสินค้าหนานกั่ง อาคาร 2 โดยในครั้งนี้ได้มีการประกาศรายชื่อผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการการันตีด้วยรางวัลคุณภาพระดับเหรียญทอง” (Gold Quality Award) และ “รางวัลคุณภาพระดับเหรียญเงิน” (Silver Quality Award) รวม 30 รายการ ตลอดจนเพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูผู้ประกอบการที่สามารถคว้ารางวัล ที่ได้ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีรูปแบบใหม่ของ AI และมุ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน และการบูรณาการแบบสหวิทยาการ ตลอดจนแสวงหาผลสัมฤทธิ์ทางนวัตกรรมที่ดียิ่งขึ้น
 
นายเฉินเจิ้งฉี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเศรษฐการ นางไต้หว่านหรง เลขาธิการสำนักงานการค้า และนายหวงจื้อฟาง ผู้อำนวยการสภาส่งเสริมการค้าและการส่งออกแห่งไต้หวัน (TAITRA) และคณะทูตานุทูตจากประเทศต่างๆ ที่ประจำการอยู่ในไต้หวัน รวมถึงบุคคลสำคัญในวงการอุตสาหกรรม ร่วม 500 คน ได้เข้าร่วมพิธีดังกล่าวเพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จของผู้ประกอบการที่สามารถคว้ารางวัลมาครอง
 
ในปีนี้มีผลงานที่ส่งเข้าร่วมการประกวดทั้งสิ้น 286 รายการจากผู้ประกอบการ 155 ราย โดยคณะกรรมการตัดสินที่ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญในแวดวงต่างๆ ได้ทำการพิจารณาอย่างรัดกุมใน 4 ด้าน ทั้งการวิจัยและพัฒนา การออกแบบ คุณภาพและการประชาสัมพันธ์ โดยผลงานที่ได้รับรางวัล Taiwan excellence ในครั้งนี้ ถือเป็นผลงานที่ได้รับคัดเลือกว่าเป็นที่สุดของภาคอุตสาหกรรมไต้หวัน ซึ่งจะได้รับการประกาศเปิดตัวบนเวทีนานาชาติ ผ่านแบรนด์ “Taiwan excellence” ทั้งนี้ เพื่อยกระดับภาพลักษณ์และศักยภาพการแข่งขันของอุตสาหกรรมไต้หวันในตลาดโลก
 
ในจำนวนนี้ ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านเข้าสู่รอบที่ 2 ของการคัดเลือก ได้รับ “รางวัลคุณภาพระดับเหรียญทอง” และ “รางวัลคุณภาพระดับเหรียญเงิน” ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญจากสหรัฐฯ อังกฤษ เยอรมนี ญี่ปุ่นและไต้หวัน ซึ่งในจำนวนนี้ มีผลิตภัณฑ์ 10 รายการจากผู้ประกอบการแนวหน้าของไต้หวันได้รับรางวัลคุณภาพระดับเหรียญทอง และมีอีก 20 รายการที่ได้รับรางวัลคุณภาพระดับเหรียญเงิน อาทิ Acer Medical , ASUSTEK COMPUTER INCORPORATION , Giant Manufacturing Co.,Ltd. , Machan International Co., Ltd.
 
รมช.เฉินฯ กล่าวขณะปราศรัยว่า ขณะนี้ รัฐบาลกำลังมุ่งผลักดัน 5 อุตสาหกรรมหลักที่เชื่อถือได้ และนโยบายการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานสีเขียว โดยรมช.เฉินฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อได้เปรียบทางสถานภาพของไต้หวันในห่วงโซ่อุปทานโลก ผลักดันให้อุตสาหกรรมมุ่งสู่การใช้เทคโนโลยี AI และส่งเสริมให้ AI ก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมอย่างกระตือรือร้น หลายปีมานี้ กระทรวงเศรษฐการไต้หวันได้ขยายความช่วยเหลือทางการค้าเป็นวงกว้าง เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการไต้หวันบรรเทาความเสี่ยงผ่านการกระจายตลาด ควบคู่ไปกับการรุกขยายเข้าสู่ตลาดต่างประเทศ ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ประกอบการไต้หวันเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในระดับสากล
 
ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ ประกอบด้วย สินค้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศและการติดต่อสื่อสารที่ครองสัดส่วนร้อยละ 51 โดยในจำนวนนี้ ฐานฝึกอบรม Generative AI และแผนการโซลูชันถือเป็นผลผลิตที่ขานรับกระแสในยุคใหม่ รองลงมาคือเครื่องมือกลและชิ้นส่วนอะไหล่ ที่ครองสัดส่วนร้อยละ 11 เครื่องใช้ในบ้านและวัสดุก่อสร้าง ครองสัดส่วนร้อยละ 9 ส่วนอุปกรณ์เครื่องมือความแม่นยำสูงและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ครองสัดส่วนร้อยละ 8 ขณะเดียวกันอุตสาหกรรมประเภทอื่น ก็ได้อาศัยข้อได้เปรียบทางอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ และประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (IoT) ผลักดันการพัฒนาในทุกภาคส่วนให้ดำเนินไปในสู่การเป็นระบบอัจฉริยะ
 
ยกตัวอย่างเช่น อุตสาหกรรมการแพทย์เชิงสุขภาพได้ประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI , IoT เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการตรวจสุขภาพและภารกิจการพยาบาล เทคโนโลยีสีเขียวและระบบการบริหารควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ขานรับต่อแนวโน้มการลดคาร์บอน
 
ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรางวัลแสดงให้เห็นถึงพลังแฝงเร้นที่แข็งแกร่งและศักยภาพด้านนวัตกรรมในระหว่างการเปลี่ยนผ่านด้านดิจิทัลในอุตสาหกรรมทุกแขนงสาขาของไต้หวัน อีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงความกระตือรือร้นในการเปลี่ยนผ่านของภาคอุตสาหกรรมไต้หวันระหว่างที่เผชิญกับความท้าทายในระดับสากล

ผู้สนใจสามารถเข้าเยี่ยมชมรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ : https://www.taiwanexcellence.org/tw/award/2025winner/