
สภาบริหารและคณะกรรมการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วันที่ 18 ธ.ค. 67
เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2567 นายจั๋วหรงไท้ นายกรัฐมนตรี สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) เข้าร่วมพิธีประกาศมอบ “รางวัลคุณประโยชน์ด้านเทคโนโลยีดีเด่น ประจำปี พ.ศ. 2567 ที่จัดโดยสภาบริหาร” ซึ่งการประกวดรางวัลข้างต้น จัดขึ้นมาเป็นระยะเวลากว่า 48 ปีแล้ว ผู้ที่ได้รับรางวัลในปีนี้ ประกอบด้วย 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ : Dr. Thierry Pierre Robert Burnouf ศาสตราจารย์พิศิษฐ์ในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ไทเป (Taipei Medical University Hospital, TMUH) ส่วนอีกกลุ่มเป็นคณะแพทย์จากโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน (NTUH) 3 ท่าน ประกอบด้วย Dr. Ming-Shiang Wu , Dr. Yi-Chia Lee และ Dr. Jyh-Ming Liou โดยวัตถุประสงค์ของรางวัลประเภทนี้ เพื่อเชิดชูเกียรติบุคลากรทางการแพทย์ที่มุ่งสร้างคุณประโยชน์ในการยกระดับสุขภาพของมวลมนุษยชาติและอารยธรรมโลก อีกทั้งยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพและมาตรฐานระดับสูงของรางวัลดังกล่าวอีกด้วย
โดยบุคลากรที่ได้รับรางวัลข้างต้นเหล่านี้ มุ่งมั่นในการวิจัยเทคโนโลยีวิศวกรรม และสาขาวิชาวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์และการเกษตร ซึ่งขานรับต่อแผนแม่บทการพัฒนาประเทศในอนาคต และวิสัยทัศน์ด้านการพัฒนาทางเทคโนโลยี ตลอดจนเป็นการสร้างนวัตกรรมอย่างเป็นรูปธรรม และมีอิทธิพลต่อการพัฒนาในภาคประชาสังคมและระดับโลก
Dr. Thierry Pierre Robert Burnouf เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการฟอกพลาสมาระดับนานาชาติ ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาองค์การอนามัยโลก (WHO) อีกทั้งยังเป็นนักวิจัยและนักวิชาการ ที่สร้างผลงานยอดเยี่ยมของไต้หวัน ที่มุ่งส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา “ผลิตภัณฑ์โลหิตเพื่อการรักษา” ซึ่งประสบความสำเร็จในการยกระดับความปลอดภัยของโลหิตและประสิทธิภาพในการรักษา ซึ่งผลงานวิจัยของ Dr. Thierry ได้กลายมาเป็นรากฐานสำคัญของการป้องกันโรคต่างๆ อาทิ ไวรัสตับอักเสบ B ไวรัสตับอักเสบ C เชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง และโรคฮีโมฟีเลีย อีกทั้งยังขยายขอบเขตการประยุกต์ใช้ไปสู่การรักษาเชื้อไวรัสอีโบลา โรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง และไข้หวัดใหญ่จากเชื้อไวรัสสายพันธุ์ H1N1 ซึ่งเป็นการอัดฉีดนวัตกรรมที่ก้าวข้ามกรอบจำกัดให้แก่แวดวงทางการแพทย์ นอกจากนี้ Dr. Thierry ยังเป็นชาวต่างชาติที่ถือสัญชาติไต้หวันคนแรก ที่ได้รับการคัดเลือกนับตั้งแต่ที่มีการจัดตั้งรางวัลนี้เป็นต้นมา และเป็นการประกาศก้องให้ประชาคมโลกมองเห็นศักยภาพด้านการวิจัยและพัฒนาของไต้หวัน
ส่วน 3 ศาสตราจารย์แพทย์ประจำโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน (NTUH) ประสบความสำเร็จในการวิจัยเทคโนโลยีตรวจคัดกรองโมเลกุล เพื่อแก้ปัญหาเชื้อดื้อยาที่ใช้กำจัดเฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร Helicobacter pylori (H. pylori) หรือเชื้อแบคทีเรียในกระเพาะอาหาร ซึ่งเกิดจากต้นตอของเซลล์มะเร็งกระเพาะอาหาร และนำไปประยุกต์ใช้ในการรักษาเฉพาะบุคคล และการป้องกันมะเร็งกระเพาะอาหาร ควบคู่ไปกับการมุ่งจัดตั้งสมาคมทดลองเชิงคลินิก ระหว่างโรคระบบทางเดินอาหารและเชื้อ H. pylori โดยคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกลุ่มนี้ เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ยา ด้วยความแม่นยำทางเทคโนโลยีตรวจคัดกรองโมเลกุล ควบคู่ไปกับการวิจัยแผนการรักษาสำรอง ทั้งนี้ เพื่อช่วยให้ผู้ติดเชื้อสามารถขจัดการกล้ำกรายของเชื้อ H. pylori อีกทั้งยังเป็นการผลักดันการตรวจคัดกรองเชื้อไวรัสในพื้นที่ชุมชน ซึ่งประสบความสำเร็จในการส่งผลให้อัตราการเกิดโรคแผลในกระเพาะอาหาร และมะเร็งกระเพาะอาหาร มีสัดส่วนลดลง ผลสัมฤทธิ์ทางการวิจัย นอกจากจะส่งเสริมการยกระดับมาตรฐานสุขภาพในสังคมของไต้หวันแล้ว ยังได้รับการยอมรับให้เป็นมาตรฐานของการตรวจคัดกรองระดับนานาชาติและการรักษาเชื้อ H. pylori เพื่อป้องกันการเกิดมะเร็งกระเพาะอาหารอย่างมีประสิทธิภาพ
นรม.จั๋วฯ คาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การพัฒนาด้านการวิจัยในแขนงสาขาต่างๆ จะสามารถประยุกต์ใช้ในการปรับปรุงแก้ไขวิถีชีวิตของภาคประชาชน ยกระดับความมั่นคงทางสุขภาพของมวลมนุษยชน ซึ่งเป็นแนวคิดที่รัฐบาลไต้หวันเน้นย้ำเสมอมา ว่า นวัตกรรมต้องสร้างคุณประโยชน์ให้แก่ภาคประชาชน เพื่อมุ่งพิชิตเป้าหมาย “การขับเคลื่อนนวัตกรรม สร้างประโยชน์ให้แก่ส่วนรวม”
ประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) สำเร็จการศึกษาด้านแพทยศาสตร์ จึงได้ยื่นเสนอแนวคิดการบริหารประเทศในทิศทาง “ไต้หวันสุขภาพดี” “ไต้หวันที่สมดุล” และ “ไต้หวันสามัคคี” ซึ่งการบูรณาการระหว่างการวิจัยและความรู้ของเจ้าของรางวัล ล้วนแต่เป็นการบรรลุแนวคิดด้านการบริหารประเทศที่เสนอโดยปธน.ไล่ฯ ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม