ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
ปธน.และรองปธน. สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ให้การต้อนรับ Mr. Gabrielius Landsbergis อดีต รมว.ต่างประเทศลิทัวเนีย พร้อมมอบเครื่องอิสริยาภรณ์ดาราสุกสกาวเพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติในฐานะที่มุ่งสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศ
2025-01-15
New Southbound Policy。ปธน.และรองปธน. สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ให้การต้อนรับ Mr. Gabrielius Landsbergis อดีต รมว.ต่างประเทศลิทัวเนีย พร้อมมอบเครื่องอิสริยาภรณ์ดาราสุกสกาวเพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติในฐานะที่มุ่งสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศ (ภาพจากทำเนียบประธานาธิบดี)
ปธน.และรองปธน. สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ให้การต้อนรับ Mr. Gabrielius Landsbergis อดีต รมว.ต่างประเทศลิทัวเนีย พร้อมมอบเครื่องอิสริยาภรณ์ดาราสุกสกาวเพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติในฐานะที่มุ่งสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศ (ภาพจากทำเนียบประธานาธิบดี)

ทำเนียบประธานาธิบดีและกระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 13 - 14 ม.ค. 68
 
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 13 มกราคม 2568 รองประธานาธิบดีเซียวเหม่ยฉินแห่งสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้การต้อนรับ Mr. Gabrielius Landsbergis อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐลิทัวเนีย พร้อมทั้งแสดงความขอบคุณต่อ อดีต รมว. Landsbergis ที่สร้างคุณประโยชน์ในด้านความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วน ระหว่างไต้หวัน – ลิทัวเนีย ให้มีเสถียรภาพ โดยรองปธน.เซียวฯ ระบุว่า ไต้หวันให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วน ระหว่างไต้หวัน – ลิทัวเนีย เป็นอย่างมาก แม้ว่าทั้งสองประเทศจะอยู่ห่างไกลกันในแง่ที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ แต่พวกเรากลับมีหลายส่วนที่คล้ายคลึงกัน อันจะเห็นได้จากที่การเป็นประเทศขนาดเล็ก แต่กลับมีบทบาทสำคัญในเชิงภูมิรัฐศาสตร์ อีกทั้งยังสวมบทบาทสำคัญในด้านความเจริญรุ่งเรืองของเศรษฐกิจโลก
 
ต่อมาในช่วงเช้าของวันที่ 14 มกราคม 2568 ประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้มอบเครื่องอิสริยาภรณ์ดาราสุกสกาว (Order of Brilliant Star with Grand Cordon) ของสาธารณรัฐจีน ให้แก่ อดีตรมว. Landsbergis เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติในฐานะที่ได้สร้างคุณประโยชน์อย่างยิ่งยวดในการเสริมสร้างความสัมพันธ์เชิงลึกระหว่างไต้หวัน – ลิทัวเนีย โดยปธน.ไล่ฯ ได้แสดงความขอบคุณต่อ อดีตรมว. Landsbergis ที่ยืนหยัดเคียงข้างไต้หวันอย่างหนักแน่นเสมอมา พร้อมมุ่งมั่นในการปกป้องค่านิยมด้านประชาธิปไตย และส่งเสริมให้ทั้งสองฝ่ายประสานความร่วมมือกันอย่างแนบแน่น จนบังเกิดผลสัมฤทธิ์ในด้านต่างๆ โดยปธน.ไล่ฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทั้งสองฝ่ายจะมุ่งเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือในเชิงลึก ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การค้า เทคโนโลยีและวัฒนธรรม ควบคู่ไปกับการเชิดชูค่านิยมด้านประชาธิปไตยและเสรีภาพ ตลอดจนสร้างคุณประโยชน์ในการพัฒนาความก้าวหน้าของประเทศชาติ รวมถึงสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองระดับโลกให้คงอยู่ต่อไป
 
เมื่อมองย้อนกลับไปยังช่วงสถานการณ์โรคโควิด – 19 จะเห็นได้ว่า ลิทัวเนียเป็นประเทศแรกในทวีปยุโรปที่ได้บริจาควัคซีนให้แก่ไต้หวัน ซึ่งเป็นผลอันเนื่องมาจากความมุ่งมั่นพยายามของ อดีตรมว. Landsbergis นอกจากนี้ ภายใต้การสนับสนุนของ อดีตรมว. Landsbergis ไต้หวัน – ลิทัวเนีย ยังประสบความสำเร็จในการร่วมจัดตั้งสำนักงานตัวแทนรัฐบาลขึ้นในดินแดนระหว่างกัน โดยสำนักงานตัวแทนรัฐบาลไต้หวันประจำลิทัวเนีย ยังเป็นหน่วยงานแรกของไต้หวันในทวีปยุโรปที่เปิดตัวขึ้นในนาม “ไต้หวัน” นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้ร่วมสร้างผลสัมฤทธิ์ทางความร่วมมือที่หลากหลาย ทั้งในด้านเซมิคอนดักเตอร์ เลเซอร์ การเงินและการแพทย์ เป็นต้น
 
ปธน.ไล่ฯ ชี้ว่า ขณะนี้ กลุ่มประเทศลัทธิอำนาจนิยม กำลังมุ่งผนึกกำลังอย่างต่อเนื่อง ก่อให้เกิดเป็นภัยคุกคามและความท้าทายต่อกลุ่มประเทศประชาธิปไตย ไต้หวันและ ลิทัวเนีย ต่างก็เป็นประเทศที่ยึดมั่นในหลักประชาธิปไตย พวกเราจึงจำเป็นต้องผนึกพลังสามัคคี เพื่อปกป้องค่านิยมด้านประชาธิปไตยและเสรีภาพ ควบคู่ไปกับการธำรงรักษาความสงบเรียบร้อยระหว่างประเทศ ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานกฎกติกาสากล
 
อดีตรมว. Landsbergis แถลงว่า เมื่อเผชิญกับกลุ่มประเทศลัทธิอำนาจนิยมที่ไม่ต้องการเห็นความเจริญรุ่งเรือง เสรีภาพและความสำเร็จของพวกเรา อดีตรมว. Landsbergis จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า มิตรภาพ ความร่วมมือและการสนับสนุนซึ่งกันและกัน ระหว่างไต้หวัน - ลิทัวเนีย จะเป็นปัจจัยกระตุ้นให้นานาประเทศทั่วโลก เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มพันธมิตรที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน อีกทั้งเป็นการส่งมอบกำลังใจให้นานาประเทศ อย่าได้เกรงกลัวต่อการยืนหยัดให้การสนับสนุนประชาธิปไตยและเสรีภาพ
 
หลังเสร็จสิ้นการเข้าพบคารวะปธน.ไล่ฯ แล้ว คณะตัวแทนที่นำโดย อดีตรมว. Landsbergis พร้อมด้วยภริยา ยังได้เข้าร่วมงานเลี้ยงต้อนรับที่จัดโดยนายหลินเจียหรง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) โดยทั้งสองฝ่าย ต่างร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในประเด็นการเผชิญกับอิทธิพลจากกลุ่มประเทศเผด็จการของพันธมิตรด้านประชาธิปไตย และความร่วมมือด้านอากาศยานไร้คนขับ ระหว่างไต้หวัน – ลิทัวเนีย
 
รมว.หลินฯ กล่าวว่า เมื่อเดือนพฤศจิกายนของปีที่แล้ว ตนได้นำคณะตัวแทนผู้ประกอบการอากาศยานไร้คนขับในไต้หวัน จำนวน 20 ราย เดินทางเยือนลิทัวเนีย เพื่อเข้าร่วม “การประชุมอุตสาหกรรมอากาศยานไร้คนขับ” แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการจัดตั้งห่วงโซ่อุตสาหกรรมทางประชาธิปไตย ระหว่างไต้หวัน - ลิทัวเนีย ซึ่งถือเป็นการบรรลุแนวคิด “การทูตเชิงบูรณาการ” อย่างเป็นรูปธรรม
 
เมื่อเร็วๆนี้ ทะเลบอลติกและน่านน้ำในช่องแคบไต้หวัน ต่างก็ประสบเหตุการณ์ที่สายเคเบิลใต้น้ำถูกทำลายจนไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเร่งด่วนของการประสานความร่วมมือกันระหว่างพันธมิตรประชาธิปไตย และความจำเป็นในการป้องกันและตอบสนองเชิงยุทธศาสตร์