
คณะกรรมการกิจการชาวจีนโพ้นทะเล วันที่ 15 ม.ค. 68
เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2568 คณะกรรมาธิการการต่างประเทศและกลาโหม สภานิติบัญญัติไต้หวัน ได้เชิญคณะกรรมการกิจการชาวจีนโพ้นทะเล (OCAC) สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) เข้ารายงานและตอบข้กซักถามในประเด็นเกี่ยวกับ “แนวทางการเชื่อมโยงแวดวงชาวจีนโพ้นทะเล เพื่อผนึกและรุกขยายพลังสนับสนุนไต้หวันในต่างแดน อันจะพัฒนาไปสู่การเสริมสร้างศักยภาพทางเศรษฐกิจและการค้าของไต้หวัน ผ่านนโยบายการทูตเชิงบูรณาการ ท่ามกลางสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและเศรษฐกิจโลก” โดยมีนางสวีเจียชิง ประธาน OCAC เน้นย้ำขณะกล่าวรายงานว่า เพื่อบรรลุแนวคิด “การทูตเชิงบูรณาการ” ที่เสนอโดยประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) พวกเราจะจับมือมุ่งเดินหน้าไปพร้อมกับกลุ่มประเทศพันธมิตรและหุ้นส่วนทางประชาธิปไตยที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน ควบคู่ไปกับการบูรณาการศักยภาพของกลุ่มชาวจีนโพ้นทะเลในต่างแดน และประสานความร่วมมือกับแวดวงชาวจีนโพ้นทะเลอย่างแนบแน่น เพื่อคว้าพลังเสียงสนับสนุนต่อไต้หวันในประชาคมโลกอย่างต่อเนื่อง
ประธานสวีฯ กล่าวว่า ในปัจจุบัน จีนและรัสเซีย ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศลัทธิอำนาจนิยม กำลังสร้างภัยคุกคามต่อความสงบเรียบร้อยระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะเป็นการสร้างโอกาสความร่วมมือในขอบเขตที่กว้างมากขึ้นให้แก่ไต้หวัน และพันธมิตรประชาธิปไตยโลก แต่พวกเรายังคงต้องรับมือกับภัยคุกคามในการเตรียมการก่อสงครามจากจีนอย่างระมัดระวัง อนึ่ง พลังทางวัฒนธรรมถือเป็นพลังหลักของประเทศชาติ ด้วยเหตุนี้ OCAC จึงได้กำหนดให้ “Move to Next Generation” เป็นแผนปฏิบัติการที่เป็นไฮไลท์หลัก เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนชาวจีนโพ้นทะเล เกิดความเข้าใจต่อความหมายของวัฒนธรรมไต้หวัน อันจะเป็นการปูรากฐานเพื่อพัฒนาไปสู่การสวมบทบาทเป็นทูตเยาวชนวัฒนธรรมไต้หวันต่อไปในภายภาคหน้า นอกจากนี้ เนื่องด้วยกระแสการผันแปรอย่างรวดเร็วของห่วงโซ่อุตสาหกรรมโลก ส่งผลให้อุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงของไต้หวัน กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ไม่สามารถขาดได้ โดย OCAC จะมุ่งคว้าโอกาสในการช่วยเหลือผู้ประกอบการไต้หวันในต่างแดน ให้สามารถเชื่อมโยงสู่ความร่วมมือทางอุตสาหกรรมที่เชื่อถือได้ 5 รายการหลัก ประกอบด้วย เซมิคอนดักเตอร์ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) อุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ การควบคุมด้านความมั่นคง และเทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่ เป็นต้น ควบคู่ไปกับการขานรับต่อความต้องการทางภาคอุตสาหกรรม ภายใต้สถานการณ์การแข่งขันที่ดุเดือด ด้วยการบูรณาการระบบการศึกษาที่มีคุณภาพของไต้หวัน ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีแนวหน้าของซิลิคอนวัลเลย์ ในการผลักดันโครงการดึงดูดบุคลากร และคว้าบุคลากรยอดเยี่ยมมาร่วมพัฒนาองค์กร
ประธานสวีฯ ระบุว่า ปัจจุบัน ไต้หวันมีชาวจีนโพ้นทะเลที่กระจายตัวอยู่ในต่างแดน มีจำนวนกว่า 2 ล้านคน ก่อเกิดเป็นสมาคมชาวจีนโพ้นทะเล 6,000 แห่ง ประกอบกับโรงเรียนชาวจีนโพ้นทะเลอีกจำนวน 1,000 แห่ง และบัณฑิตชาวจีนโพ้นทะเลที่สำเร็จการศึกษาจากไต้หวันจำนวน 170,000 คน ด้วยศักยภาพของกลุ่มชาวจีนโพ้นทะเล ส่งผลให้เกิดเป็นสะพานเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันและนานาประเทศทั่วโลก พวกเราจึงสามารถอาศัยกลุ่มชาวจีนโพ้นทะเล ในการมุ่งผลักดันความร่วมมือแบบทวิภาคีอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม การศึกษา เศรษฐกิจและเทคโนโลยี เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่รัฐบาลในการขยายความร่วมมือทางการทูตอย่างเป็นทางการ
ประธานสวีฯ ชี้แจงว่า OCAC ได้เชื่อมโยง 7 ยุทธศาตร์ที่เป็นรูปธรรม ซึ่งเสนอโดยสมาคมชาวจีนโพ้นทะเล ซึ่งนอกจากได้เชิญตัวแทนสมาคมและผู้นำชาวจีนโพ้นทะเล เดินทางมาเยือนไต้หวันแล้ว ประธานสวีฯ และรองประธาน OCAC ยังได้เดินทางเยี่ยมเยือนชุมชนชาวจีนโพ้นทะเล เพื่อเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือกับกลุ่มชาวจีนโพ้นทะเลในต่างแดน พร้อมทั้งส่งเสริมให้กลุ่มเป้าหมาย อาศัยความสัมพันธ์กับบุคคลในต่างแดนในการช่วยจัดกิจกรรมรูปแบบต่างๆ เพื่อเป็นกระบอกเสียงให้ไต้หวัน โดยในปีที่แล้ว พวกเราประสบความสำเร็จในการจัดกิจกรรม รวม 111 รอบใน 46 เขตพื้นที่ ส่งผลให้มีผู้เข้าร่วมที่ให้ความสนใจต่อประเด็นเกี่ยวกับไต้หวัน จำนวน 106,601 คนครั้ง นอกจากนี้ เพื่อมุ่งผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ของไต้หวัน OCAC จึงได้จัดการโปรโมทอาหารเลิศรสของไต้หวันในรูปแบบโรดโชว์ เพื่อรุกขยายเป้าหมายทางการทูตและการท่องเที่ยว ขณะเดียวกัน ยังได้มีการจัดตั้ง “สถาบันการเรียนการสอนภาษาจีนไต้หวัน” (TCML) ขึ้นในยุโรปและสหรัฐฯ เพื่อประชาสัมพันธ์หลักสูตรภาษาจีนอันเป็นเอกลักษณ์ของไต้หวัน นำเสนอให้เห็นถึงเสน่ห์ของพหุวัฒนธรรมในไต้หวัน