
คณะกรรมการเพื่อการพัฒนาแห่งชาติ วันที่ 12 มี.ค. 68
“มหกรรมเมืองปลอดก๊าซเรือนกระจก ครั้งที่ 3 ปี 2568” (2025 Net Zero City Expo) มีกำหนดการเปิดฉากขึ้น ณ ศูนย์แสดงสินค้าหนานกั่ง อาคาร 2 ในช่วงระหว่างวันที่ 18 – 21 มีนาคม 2568 กิจกรรมในครั้งนี้ได้รับการชี้แนะจากคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาประเทศชาติที่ยั่งยืนแห่งชาติ ภายใต้สภาบริหาร สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) โดยมีคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาแห่งชาติ (NDC) และสมาคมคอมพิวเตอร์ไทเป (Taipei Computer Association) ร่วมกันจัดขึ้น เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งแพลตฟอร์มจัดแสดงผลงานนวัตกรรมทางดิจิทัล เทคโนโลยีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (NET ZERO) และแผนปฏิบัติการเพื่อความยั่งยืน เป็นต้น ตลอดจนร่วมแบ่งปันแผนโซลูชันว่าด้วยการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลและเทคโนโลยี NET ZERO ทั้งนี้ เพื่อเร่งฝีเท้าในการพิชิตเป้าหมายสังคมปลอดก๊าซเรือนกระจกในเร็ววัน
มหกรรมเมืองปลอดก๊าซเรือนกระจกประจำปีนี้ จัดขึ้นภายใต้ธีม “การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลและการเปลี่ยนผ่านสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์” โดย NDC ได้ประสานความร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงเศรษฐการ กระทรวงสิ่งแวดล้อม กระทรวงคมนาคม คณะกรรมการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จัดตั้ง “คูหาวิสัยทัศน์ NET ZERO” ที่สอดรับกับโครงการความหวังแห่งชาติและแผนกลยุทธ์ว่าด้วยการเปลี่ยนผ่านสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ 5 รายการ เพื่อนำเสนอผลสัมฤทธิ์ล่าสุดของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง พร้อมแสดงให้เห็นถึงแผนแม่บทด้านการเปลี่ยนผ่านสู่ NET ZERO ของไต้หวัน ควบคู่ไปกับการจัด “การประชุมนานาชาติว่าด้วยเมืองปลอดก๊าซเรือนกระจก” เพื่อเปิดอภิปรายในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเมืองที่ยั่งยืน อาทิ การบริหารจัดการพลังงาน การเสริมสร้างศักยภาพ AI และการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ เป็นต้น เพื่อร่วมแบ่งปันประสบการณ์การลดคาร์บอนของไต้หวัน อันจะเป็นการกระตุ้นความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนในเวทีนานาชาติต่อไป
นางเกาเซียนกุ้ย รองประธาน NDC กล่าวในระหว่างงานแถลงข่าวก่อนเปิดงานมหกรรม เมื่อวันที่ 11 มี.ค. ว่า จำนวนตัวแทนเมืองและผู้ประกอบการที่เข้าร่วมจัดแสดงในครั้งนี้ สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญต่อประเด็นการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศของนานาประเทศ กิจกรรมในครั้งนี้นอกจากจะเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนในประเทศและประชาคมโลก ประจักษ์ถึงศักยภาพฮาร์ดพาวเวอร์ของไต้หวัน ในด้านเทคโนโลยี AI แล้ว ยังนำเสนอให้เห็นถึงศักยภาพซอฟต์พาวเวอร์ด้านแผนโซลูชันทางดิจิทัลและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ภายในประเทศ ตลอดจนคว้าโอกาสธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ในแนวโน้มข้างต้น ผ่านการแลกเปลี่ยนและประสานความร่วมมือระดับนานาชาติ
กิจกรรมในครั้งนี้สามารถดึงดูดผู้ประกอบการจาก 12 เขตพื้นที่ในไต้หวัน ให้ความสนใจเข้าร่วม อีกทั้งยังเป็นครั้งแรกที่ได้มีการจัดกิจกรรมจับคู่ทางธุรกิจ ซึ่งเป็นการทอดสะพานแบบข้ามพรมแดน และข้ามอุตสาหกรรม ระหว่างกลุ่มผู้ซื้อและกลุ่มซัพพลายเออร์นานาชาติ อันจะเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจที่เพิ่มมากขึ้นให้แก่เหล่าผู้ประกอบการ
กิจกรรมประจำปีนี้มุ่งเน้นไปที่การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน การคมนาคมรูปแบบคาร์บอนต่ำ และนวัตกรรมสีเขียว เป็นต้น