
กระทรวงสิ่งแวดล้อมและกระทรวงคมนาคม วันที่ 17 มี.ค. 68
เพื่อขานรับกระแสสากลว่าด้วยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ ภายในปี พ.ศ. 2593 และเพื่อนำเสนอให้ประชาคมโลกประจักษ์ถึงผลสัมฤทธิ์ที่ไต้หวันร่วมมุ่งมั่นเพื่อพิชิตเป้าหมายข้างต้น กระทรวงสิ่งแวดล้อม (Ministry of Environment, MOENV) สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) จึงได้จัด “มหกรรมเมืองปลอดก๊าซเรือนกระจก ครั้งที่ 3 ปี 2568” (2025 Net Zero City Expo) ที่มีกำหนดการเปิดฉากขึ้น ณ ศูนย์แสดงสินค้าหนานกั่ง อาคาร 2 ในช่วงระหว่างวันที่ 18 – 21 มีนาคม 2568 พร้อมทั้งจัดตั้ง “คูหาการจัดการเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อมด้วย AI (AI Environmental Technology Management)” เพื่อนำเสนอให้เห็นถึงแนวทางการส่งเสริมให้เทคโนโลยี AI เป็นตัวช่วยสำคัญในการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ เพื่อนำพาไต้หวันให้ก้าวสู่อนาคตที่ยั่งยืนในรูปแบบสีเขียวต่อไป
MOENV ได้วางแผนจัดตั้งคูหาไฮไลท์ รวม 4 รายการ ประกอบด้วย : “วิถีชีวิตรูปแบบสีเขียว (Green Lifestyle)” “การป้องกันและวิจัยระบบบริหารจัดการภัยพิบัติด้วยเทคโนโลยี” “การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม” และ “การหมุนเวียนทรัพยากร” เพื่อนำเสนอให้เห็นถึงผลสัมฤทธิ์เชิงนวัตกรรมของไต้หวัน ทั้งในแง่มุมวิถีชีวิตและการเปลี่ยนผ่านสู่ Net Zero ของภาคอุตสาหกรรม โดยประชาชนที่ให้ความสนใจเข้าร่วมสามารถทำความเข้าใจกับเทคโนโลยีเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่ทันสมัย อาทิ การตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีการป้องกันภัยพิบัติ และการบริหารจัดการทรัพยากรหมุนเวียน ผ่านการจัดตั้งโซนสร้างปฏิสัมพันธ์ทางเทคโนโลยีและอุปกรณ์ป้องกันภัยพิบัติ รูปแบบ AI
คูหาการจัดการเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อมด้วย AI ได้จัดแสดงกรณีตัวอย่างเทคโนโลยีทันสมัยหลายรายการ อาทิ ระบบการบังคับใช้กล้องตรวจจับเสียงรบกวน การตรวจวัดมลพิษรูปแบบอัจฉริยะ ด้วยเทคโนโลยี AI การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีรีไซเคิลคาร์บอนไดออกไซด์ ที่นำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ เทคโนโลยีจำแนกและระบุขยะพลาสติกเพื่อการหมุนเวียนทรัพยากรอย่างแม่นยำ ผ่านระบบ AI เป็นต้น โดยผู้เข้าร่วมสามารถสัมผัสกับประสบการณ์รูปแบบ Immersive ได้ ผ่านการจำลองสถานการณ์ในรูปแบบเทคโนโลยีความจริงเสริม (AR) และเทคโนโลยีความเป็นจริงเสมือน (VR)
ในระหว่างงานมหกรรมครั้งนี้ MOENV ยังมีกำหนดการจัด “การประชุมเสวนาเรื่องการเปลี่ยนผ่านสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ Ⅱ” ภายใต้หัวข้อ “สร้างอนาคตด้วยวิธีการที่เป็นรูปธรรม : พัฒนาจากความเคยชินไปสู่วิถีชีวิตรูปแบบสีเขียว” โดยมุ่งเน้นการอภิปรายไปที่การเปลี่ยนผ่านในวิถีชีวิต ที่ริเริ่มจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเฉพาะบุคคล ค่อยๆ แผ่ขยายอิทธิพลไปสู่ภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ โดยหวังที่จะก่อเกิดเป็นวิถีชีวิตพลเรือนในรูปแบบสีเขียว
สำหรับ “มหกรรมเมืองอัจฉริยะ ปี 2568" (2025 Smart City Summit & Expo) ที่จัดสร้างขึ้นโดย MOENV นอกจากจะจัดแสดงผลงานทางเทคโนโลยีโดยทั่วไปแล้ว ยังได้วางแผนกิจกรรมการสร้างปฏิสัมพันธ์ที่มีสีสัน อาทิ การถาม – ตอบชิงรางวัล และการจัดกิจกรรมแฟนมิตติ้งมาสคอต “หมีแฝดขาว - ดำ”
นอกจากนี้ เพื่อขานรับกระแสการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลและ NET ZERO บริษัทการท่าไต้หวันจึงได้ทำการผลักดัน “แผนปฏิบัติการเปลี่ยนผ่านด้านเทคโนโลยีอัจฉริยะในชุมชนการท่าไต้หวัน” (Trans-SMART Plan) โดยได้ทำการอัดฉีดเทคโนโลยีอัจฉริยะ ในการพิชิตเป้าหมายการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลและความยั่งยืนในพื้นที่ท่าเรือ โดยมหกรรมเมืองปลอดก๊าซเรือนกระจก ปี 2593 (2050 Net Zero City Expo) ถูกจัดขึ้น ภายใต้หัวข้อ “สรรสร้างท่าเรือสีเขียวที่ยั่งยืน ด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ” ในช่วงระหว่างวันที่ 18 – 21 มีนาคม 2568 ณ ศูนย์แสดงสินค้าหนานกั่ง อาคาร 2 โดยบริษัทการท่าไต้หวัน จัดขึ้นภายใน “คูหาวิสัยทัศน์ด้านการคมนาคมขนส่ง” (R713a)
บริษัทท่าเรือไต้หวัน แถลงว่า กิจกรรมในครั้งนี้นำเสนอให้เห็นถึงผลสัมฤทธิ์ที่สำคัญ 3 รายการ โดยจะทำการเฝ้าติดตามสถานการณ์การใช้พลังงานทุกช่วงเวลา ผ่านการติดตั้ง "ระบบบริหารจัดการพลังงานรูปแบบอัจฉริยะ" เพื่อพิชิตเป้าหมายการบริหารจัดการปริมาณความต้องการ การปรับลดทอนในรูปแบบอัจฉริยะ และปริมาณสำรองตามสัญญา โดยบูรณาการเข้ากับอุปกรณ์ระบบกักเก็บพลังงาน ซึ่งคาดว่าจะสามารถลดทอนการใช้พลังงานในสัดส่วนร้อยละ 7 – 10% ทั้งนี้ เพื่อบรรลุการพัฒนาในพื้นที่ท่าเรืออย่างยั่งยืน