ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 28 มี.ค.68
เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 28 มีนาคม 2568 ประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อได้ให้การต้อนรับ นาง Ruth Bradley-Jones ที่เดินทางมาไต้หวันเพื่อเข้ารับตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่ของสำนักงานตัวแทนรัฐบาลอังกฤษประจำไทเป (British Office Taipei) พร้อมทั้งขอบคุณรัฐบาลและรัฐสภาของสหราชอาณาจักรที่ให้การสนับสนุนไต้หวันอย่างมั่นคง นอกจากนี้ยังกล่าวว่าไต้หวันกับสหราชอาณาจักรมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าที่ใกล้ชิด และต่างก็มีจุดแข็งด้านอุตสาหกรรมที่ช่วยส่งเสริมซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นด้านเซมิคอนดักเตอร์ ปัญญาประดิษฐ์ ยานยนต์ไร้คนขับและดาวเทียมวงโคจรระดับปานกลางและต่ำ ล้วนมีโอกาสในการร่วมมือกันมากมาย
ประธานาธิบดีคาดหวังว่า ในอนาคตไต้หวันกับสหราชอาณาจักรจะขยายการแลกเปลี่ยนในด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ร่วมกันส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตยและความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ และหวังว่าสหราชอาณาจักรจะยังคงสนับสนุนไต้หวันในการเข้าร่วม “ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก” (Comprehensive and Progressive Agreement for Trans-Pacific Partnership, CPTPP) เพื่อให้ไต้หวันกับสหราชอาณาจักรสามารถจับมือกับพันธมิตรที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน และร่วมกันเสริมสร้างความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกและความมั่นคงทางเศรษฐกิจในระดับโลก
นาง Ruth Bradley-Jones ระบุว่า ไต้หวันกับสหราชอาณาจักรยังมีโอกาสในการสร้างความร่วมมือ ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีร่วมกันอีกมาก สหราชอาณาจักรมีอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก โดยมีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมมากกว่า 1.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ไต้หวันเป็นศูนย์กลางของเซมิคอนดักเตอร์และฮาร์ดแวร์ปัญญาประดิษฐ์ของโลก ด้วยจุดแข็งที่ส่งเสริมกันของทั้งสองประเทศทั้งในด้านเซมิคอนดักเตอร์ อวกาศและเทคโนโลยีการสื่อสารนี้ สนง.ตัวแทนอังกฤษประจำไทเปจึงได้เข้าร่วมการจัดนิทรรศการในงาน SEMICON (นิทรรศการเซมิคอนดักเตอร์นานาชาติ) อย่างสม่ำเสมอ และใช้แผนความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนา สนับสนุน 18 โครงการวิจัยและพัฒนาร่วมกัน โดยคาดหวังว่าจะมีโอกาสความร่วมมือเพิ่มมากขึ้นในอนาคต
ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนความยืดหยุ่นในการป้องกันประเทศของสังคมไต้หวัน สหราชอาณาจักรยังได้ร่วมกับไต้หวันจัดเวิร์กช็อปภายใต้กรอบความร่วมมือ Global Cooperation and Training Framework (GCTF) เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในภาคการเงิน และทำการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้ว่าการและผู้นำชุมชนในพื้นที่ต่าง ๆ ของไต้หวัน
