กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 21 เม.ย. 68
นายหลินเจียหรง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไต้หวัน ในฐานะตัวแทนทูตพิเศษของประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ ผู้นำไต้หวัน ได้นำคณะตัวแทนเดินทางเยือนราชอาณาจักรเอสวาตินี ประเทศพันธมิตรไต้หวันที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคแอฟริกา ในช่วงระหว่างวันที่ 22 – 26 เมษายน 2568 เพื่อเข้าร่วมพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 57 พรรษาของสมเด็จพระราชาธิบดีอึมสวาตีที่ 3 แห่งเอสวาตินี (H.M. King Mswati III)
คณะทูตพิเศษนอกจากจะได้รับเชิญให้เข้าร่วมพิธีเฉลิมฉลองและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องแล้ว ยังได้มีโอกาสเข้าพบคารวะสมเด็จพระราชาธิบดีอึมสวาตีที่ 3 และ H.M. Queen Mother Ntombi Tfwala สมเด็จพระบรมราชชนนี และมีกำหนดการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์แบบทวิภาคี และโครงการความร่วมมือในอนาคตกับ H.E. Russell Dlamini นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรเอสวาตินี และ H.E. Pholile Shakantu รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดยทูตพิเศษหลินฯ ยังจะทำหน้าที่เป็นตัวแทนถวายหนังสือลงนามถวายพระพร และหนังสือราชการที่ลงนามโดยปธน.ไล่ฯ ให้แก่สมเด็จฯ พร้อมทั้งถวายวัวหนึ่งตัว ตามธรรมเนียมปฏิบัติแต่ดั้งเดิม เพื่อเป็นการถวายพระพรแด่สมเด็จพระราชาธิบดีอึมสวาตีที่ 3 และพระบรมราชชนนี
นอกจานี้ คณะทูตพิเศษยังมีกำหนดการเข้าร่วมกิจกรรมเปิดตัวผลสัมฤทธิ์ตามโครงการความร่วมมือที่สำคัญแบบทวิภาคี ระหว่างไต้หวัน - เอสวาตินี อาทิ “พิธีเปิดใช้โครงการคลังสำรองน้ำมันเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Petroleum Reserve: SPR)” “กองทุนหมุนเวียนสินเชื่อขนาดเล็กสำหรับการประกอบธุรกิจของสตรี” และ “รัฐบาลยุค 5G ของเอสวาตินีและการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ” พร้อมทั้งเข้าตรวจการณ์อาคารแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลที่ได้รับความช่วยเหลือสนับสนุนจากไต้หวัน นอกจากนี้ ทูตพิเศษหลินฯ และ รมว. Shakantu ยังมีกำหนดการร่วมลงนาม “บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือ (MOU) ด้านการป้องกันการบิดเบือนข้อมูล และการส่งเสริมความสมบูรณ์ของข้อมูล ระหว่างไต้หวัน - เอสวาตินี” โดยไต้หวันจะส่งมอบความช่วยเหลือในการรับมือกับความท้าทายด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ในปัจจุบันให้แก่เอสวาตินี ผ่านการแลกเปลี่ยนประสบการณ์
โดยในครั้งนี้ ทูตพิเศษหลินฯ นอกจากจะนำคณะตัวแทนที่เป็นเจ้าหน้าที่ภาครัฐร่วมเดินทางแล้ว ยังได้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญในแวดวงอุตสาหกรรม ร่วมเดินทางเยือนสำรวจโอกาสทางเศรษฐกิจและการค้าด้วย เพื่อทำความเข้าใจกับทิศทางความเป็นไปได้ในความร่วมมือแบบทวิภาคี ทั้งในด้านการพาณิชย์ การลงทุนและกิจการแรงงาน ตลอดจนให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการไต้หวัน ในการวางรากฐานธุรกิจในเอสวาตินี เพื่อมุ่งขยายโอกาสทางธุรกิจของไต้หวันในทวีปแอฟริกา ทั้งนี้ เพื่อบรรลุวิสัยทัศน์ร่วมกันของไต้หวัน – กลุ่มประเทศทวีปแอฟริกา
