กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ วันที่ 22 เม.ย. 68
หลังจากที่นานาประเทศทั่วโลกได้ทยอยปลดล็อคมาตรการควบคุมพรมแดน ในยุคหลังโควิด – 19 ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงบริบททางสังคมและสิ่งแวดล้อม อาทิ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในปี 2567 ยอดผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก (Dengue fever) ทั่วโลก มีจำนวนสะสมรวมกว่า 14 ล้านคน ซึ่งในจำนวนนี้ ยอดผู้เสียชีวิตมีจำนวนทั้งสิ้นกว่า 10,000 คน ถือเป็นยอดสูงสุดนับตั้งแต่ที่ได้มีการบันทึกสถิติเป็นต้นมา โรคไข้เลือดออกได้กลายมาเป็นประเด็นสำคัญด้านสาธารณสุขที่ทั่วโลกเฝ้าจับตา กรมควบคุมโรคระบาดไต้หวันได้รับทุนสนับสนุนจาก “ความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก” (Asia-Pacific Economic Cooperation, APEC) จึงมีกำหนดการจัด “การประชุมว่าด้วยความท้าทายรูปแบบใหม่ด้านการป้องกันโรคไข้เลือดออก และการประยุกต์ใช้นวัตกรรมเทคโนโลยี ในยุคหลังโควิด - 19” (Dengue Prevention and Control in the Post-COVID-19 Era: New Challenges and Role of Innovative Technology) ขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ 22 – 23 เมษายน 2568 พร้อมทั้งติดต่อเชิญผู้เชี่ยวชาญที่วิจัยเกี่ยวกับโรคไข้เลือดออกจากนานาประเทศ เข้าร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์การป้องกันไข้เลือดออกและการประยุกต์ใช้นวัตกรรมทางเทคโนโลยี พร้อมทั้งร่วมผลักดันกลไกการป้องกันในระดับภูมิภาค ตลอดจนจัดตั้งเครือข่ายการป้องกันไข้เลือดออก ระหว่างไต้หวัน - เขตเศรษฐกิจโลก
กรมควบคุมโรค ชี้แจงว่า การประชุมในครั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่ตัวแทนภาครัฐของไต้หวัน อาทิ นายโจวจื้อห้าว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ นายหวงเหว่ยเจ๋อ ผู้ว่าการนครไถหนาน นายจวงเหรินเสียง อธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อมด้วยตัวแทนจากหน่วยงานภาคอุตสาหกรรม ภาครัฐและภาควิชาการจาก 9 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย สิงคโปร์ ไทย อินโดนีเซีย เม็กซิโกและเวียดนาม เข้าร่วมอภิปรายกันใน 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ กลยุทธ์การป้องกันไข้เลือดออก สถานการณ์การป้องกันและควบคุมสัตว์พาหะนำโรค สถานการณ์ความคืบหน้าด้านการวิจัยวัคซีนป้องกันไข้เลือดออก และการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีการป้องกันไข้เลือดออก นอกจากนี้ ยังได้มีการจัดเตรียมให้คณะตัวแทนนักวิชาการและตัวแทนเขตเศรษฐกิจ เดินทางเข้าร่วมสำรวจศูนย์นันทนาการและพื้นที่รายรอบในเขตหนานเหม่ย นครไถหนาน ในช่วงบ่ายของวันที่ 23 เมษายน 2568 เพื่อร่วมแบ่งปันแนวทางการกำจัดแหล่งแพร่เชื้อไข้เลือดออกด้วยการผนึกกำลังในพื้นที่ชุมชน ที่ดำเนินการโดยเทศบาลท้องถิ่น
กรมควบคุมโรค แถลงว่า เนื่องด้วยภัยคุกคามโรคไข้เลือดออก ยังคงส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณสุขส่วนรวมเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง จึงหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเสริมสร้างศักยภาพและความร่วมมือระหว่างกลุ่มประเทศสมาชิก APEC ในการตอบสนองต่อความท้าทายที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก รวมไปถึงด้านระบบสาธารณสุขและการแพทย์ ผ่านการประชุมในครั้งนี้ พร้อมทั้งจัดตั้งช่องทางความร่วมมือระดับนานาชาติ เพื่อการแลกเปลี่ยนระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งความมั่นคงด้านสาธารณสุขระดับโลกต่อไป
