ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
ปธน.ไล่ชิงเต๋อให้การต้อนรับคณะตัวแทนโครงการผู้นำความมั่นคงแห่งชาติรุ่นใหม่ (NextGen) ของศูนย์ความมั่นคงใหม่สหรัฐอเมริกา (CNAS)
2025-04-24
New Southbound Policy。ปธน.ไล่ชิงเต๋อให้การต้อนรับคณะตัวแทนโครงการผู้นำความมั่นคงแห่งชาติรุ่นใหม่ (NextGen) ของศูนย์ความมั่นคงใหม่สหรัฐอเมริกา (CNAS) (ภาพจากทำเนียบประธานาธิบดี)
ปธน.ไล่ชิงเต๋อให้การต้อนรับคณะตัวแทนโครงการผู้นำความมั่นคงแห่งชาติรุ่นใหม่ (NextGen) ของศูนย์ความมั่นคงใหม่สหรัฐอเมริกา (CNAS) (ภาพจากทำเนียบประธานาธิบดี)

ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 23 เม.ย. 68
 
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 23 เมษายน 2568 ประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อได้ให้การต้อนรับคณะตัวแทนโครงการผู้นำความมั่นคงแห่งชาติรุ่นใหม่ (NextGen) ของศูนย์ความมั่นคงใหม่สหรัฐอเมริกา (Center for a New American Security, CNAS) โดยปธน.ไล่ฯ ได้กล่าวแสดงความขอบคุณต่อรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ลงมติอนุมัติการจำหน่ายอาวุธยุทโธปกรณ์ให้แก่ไต้หวันเป็นวาระประจำอย่างต่อเนื่อง อันเป็นการให้การสนับสนุนการยกระดับศักยภาพทางกลาโหมของไต้หวัน เพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคอินโด - แปซิฟิก พร้อมกันนี้ ปธน.ไล่ฯ ยังระบุว่า ในอนาคตจะมุ่งผลักดันมาตรการ “ไต้หวันบวกหนึ่ง” หรือการวางรากฐานธุรกิจใหม่ร่วมกัน ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ โดยรัฐบาลจะทำการรวบรวมจัดตั้ง “คณะการลงทุนในสหรัฐฯ ของไต้หวัน” เพื่อขยายขอบเขตการลงทุนที่มีต่อสหรัฐฯ ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างไต้หวัน  - สหรัฐฯ ดำเนินไปในทิศทางที่แนบแน่นยิ่งขึ้น อันจะเป็นการลดทอนวิกฤตปัญหาการขาดดุลการค้าของทั้งสองฝ่าย มุ่งสู่การพัฒนาที่เอื้อประโยชน์ต่อกันในระยะยาวต่อไป
 
CNAS ถือเป็นคลังสมองที่สำคัญในกรุงวอชิงตัน ดีซี ที่มุ่งวิจัยความมั่นคงและนโยบายกลาโหมระดับชาติของสหรัฐฯ ส่วนโครงการ NextGen ถือเป็นฐานบ่มเพาะบุคลากรด้านความมั่นคงและการทูตของสหรัฐฯ โดยคณะตัวแทนในปีนี้ มีจำนวนมากกว่าปีที่ผ่านๆ มา แสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญต่อไต้หวันของผู้นำรุ่นใหม่ของสหรัฐฯ
 
ปธน.ไล่ฯ ระบุว่า ประเด็นช่องแคบไต้หวันที่ทุกคนเฝ้าจับตาให้ความสำคัญ ถือเป็นประเด็นระดับสากล ที่ประชาคมโลกต่างเห็นพ้องต้องกันว่า สันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน ถือเป็นปัจจัยที่ไม่สามารถขาดได้ในความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองในระดับสากล เมื่อเผชิญหน้ากับภัยคุกคามทางทหารจากจีน ไต้หวันจึงได้ยื่นเสนอ “แผนปฏิบัติการเพื่อสันติภาพ 4 มิติ” ซึ่งประกอบด้วย (1) การมุ่งผลักดันการปฏิรูปทางกลาโหมอย่างกระตือรือร้น ยกระดับความยืดหยุ่นในการป้องกันประเทศของภาคประชาสังคม และจัดสรรงบประมาณกลาโหมให้เพิ่มสูงขึ้นในสัดส่วนร้อยละ 3 ของ GDP (2) การเสริมสร้างความทรหดทางเศรษฐกิจ การที่จะส่งเสริมให้เศรษฐกิจของไต้หวันมีพัฒนาการที่ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง จำเป็นต้องบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างเป็นระบบ ด้วยการวางรากฐานที่มั่นคงในไต้หวัน เพื่อแผ่ขยายไปสู่ประชาคมโลก และประชาสัมพันธ์สู่เวทีนานาชาติ ซึ่งขณะนี้ได้บังเกิดผลสัมฤทธิ์เบื้องต้นขึ้นแล้ว (3) ไต้หวันจะยืนหยัดเคียงข้างพันธมิตรด้านประชาธิปไตย เพื่อร่วมสำแดงศักยภาพการสกัดกั้นการรุกรานจากประเทศภายนอก ตลอดจนอาศัยศักยภาพในการพิชิตเป้าหมายด้านสันติภาพ และ (4) ภายใต้เงื่อนไขของการเคารพศักดิ์ศรีที่เท่าเทียมกัน ไต้หวันยินดีที่จะร่วมแลกเปลี่ยนและประสานความร่วมมือกับรัฐบาลจีน เพื่อให้เกิดการบรรลุสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน
 
Ms. Michèle A. Flournoy ผู้อำนวยการ CNAS กล่าวว่า คณะตัวแทนเดินทางเยือนไต้หวัน ท่ามกลางช่วงเวลาที่สำคัญเช่นนี้ ประกอบกับสภาพแวดล้อมทางภูมิรัฐศาสตร์ในปัจจุบัน เกิดความผันผวนไม่สิ้นสุด เปี่ยมด้วยความไม่แน่นอนและมิสามารถคาดการณ์ได้ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมแก่การส่งเสริมการเจรจาและประสานความร่วมมือ บนพื้นฐานของค่านิยมร่วมกัน และการให้ความสำคญต่อประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน ทั้งนี้ เพื่อแสวงหาโอกาสที่เพิ่มพูนในการผลักดันสันติภาพและเสถียรภาพในระดับภูมิภาค ให้คงอยู่อย่างยั่งยืนสืบไป

ข่าวยอดนิยม