ทำเนียบประธานาธิบดีและกระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 6 พ.ค. 68
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 6 พฤษภาคม 2568 รองประธานาธิบดีเซียวเหม่ยฉิน ได้ให้การต้อนรับ “คณะตัวแทนสมาชิกรัฐสภาอิสราเอล” โดยรองปธน.เซียวฯ กล่าวว่า ไต้หวัน - อิสราเอล ต่างเป็นประเทศที่ต้องเผชิญหน้ากับสภาพแวดล้อมทางการเมืองเชิงภูมิรัฐศาสตร์ที่มีความสลับซับซ้อน จึงหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นทั้งสองฝ่ายมุ่งเสริมสร้างความร่วมมือกันในเชิงลึกอย่างต่อเนื่อง พร้อมแสวงหาแนวทางการส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองแบบทวิภาคี ทั้งนี้ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงแห่งชาติให้คงเสถียรภาพ ตลอดจนเป็นการธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพและเสถียรภาพในระดับภูมิภาค ให้คงอยู่ต่อไปอย่างยั่งยืน
รองปธน.เซียวฯ กล่าวขอบคุณสำหรับการเดินทางมาเยือนของคณะตัวแทน ที่แสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนต่อความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนระหว่างสองประเทศ พร้อมกล่าวว่า ประชาชนชาวไต้หวันหลายคนต่างให้การชื่นชมยอมรับต่ออิสราเอล ที่สำแดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณของ “ชาติสตาร์ทอัพ” (Startup Nation) ส่วนไต้หวันมีศักยภาพที่แข็งแกร่งในด้านการขยายขอบเขตธุรกิจเป็นวงกว้าง ด้วยเหตุนี้ การบูรณาการ 2 ข้อได้เปรียบนี้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจที่กว้างขึ้น จึงถือเป็นสิ่งสำคัญต่อการสร้างความสามารถในการแข่งขันของโลกยุคใหม่
รองปธน.เซียวฯ ทราบว่า ขณะนี้ อิสราเอลกำลังมุ่งผลักดันความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ อย่างกระตือรือร้น ซึ่งสำหรับไต้หวันแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ ก็ถือได้ว่ามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ถึงแม้ว่าระหว่างทางก็ต้องประสบกับความท้าทายนานาประการ อย่างไรก็ตาม รองปธน.เซียวฯ เชื่อว่า ความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนแบบทวิภาคีที่มีเสถียรภาพ จะมีส่วนช่วยในการรักษาผลประโยชน์ที่มีร่วมกันได้
ในช่วงเที่ยงของวันเดียวกันนี้ นายหลินเจียหรง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไต้หวัน ก็ได้ให้การต้อนรับ Mr. Ohad Tal ประธานคณะกรรมการการโยธาและผังเมือง และสมาชิกคณะกรรมาธิการการต่างประเทศและกลาโหมของอิสราเอล โดยเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมหารือกันในประเด็นวิสัยทัศน์ความร่วมมือระหว่างไต้หวัน – อิสราเอล รวมถึงสถานการณ์ในภูมิภาคและสถานการณ์ระหว่างประเทศ เป็นต้น Mr. Maya Yaron ผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมอิสราเอลประจำกรุงไทเป ก็ได้เข้าร่วมในการพบปะเจรจาในครั้งนี้ด้วย
ระหว่างนี้ รมว.หลินฯ แบ่งปันว่า ในปี 2561 ในขณะที่ตนยังดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่าการนครไทจง เคยมีโอกาสเดินทางเยือนอิสราเอล เพื่อเข้าร่วม “การประชุมสภาผู้ว่าการโลก” (World Conference of Mayors, WCM) ซึ่งเกิดความประทับใจต่อการพัฒนาในอิสราเอลเป็นอย่างมาก พร้อมกันนี้ รมว.หลินฯ ยังชี้แจงอีกว่า หลังจากที่ตนเข้ารับตำแหน่งรมว.กต.ไต้หวัน ก็มุ่งมั่นผลักดันผลสัมฤทธิ์นานาประการภายใต้ “การทูตเชิงบูรณาการ” พร้อมเน้นย้ำว่า ไต้หวัน – อิสราเอล ถือเป็นหุ้นส่วนทางประชาธิปไตยที่ยึดมั่นในแนวคิดค่านิยมสากลร่วมกันด้านเสรีภาพ ประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน จึงหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นทั้งสองฝ่ายเสริมสร้างความร่วมมือกันในเชิงลึก ทั้งในด้านเทคโนโลยี การเกษตรอัจฉริยะ การลงทุนทางเศรษฐกิจและการค้า รวมไปถึงการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เป็นต้น และหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นทั้งสองฝ่ายร่วมสร้างวิสัยทัศน์ทางความร่วมมือในด้านอุตสาหกรรมสตาร์ทอัพ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และความมั่นคงทางไซเบอร์ เป็นต้น
Mr. Tal ระบุว่า สมาชิกคณะที่ร่วมเดินทางเยือนไต้หวันในครั้งนี้ มาจาก 4 พรรคการเมืองที่ต่างกัน พร้อมเน้นย้ำว่า การสนับสนุนที่อิสราเอลมีต่อไต้หวัน ไม่มีการแบ่งแยกฝักฝ่าย อีกทั้งยังรู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่เห็นทั้งสองฝ่ายร่วมลงนามความตกลงทางความร่วมมือแบบทวิภาคีแล้วเป็นจำนวนกว่า 34 ฉบับ นับตั้งแต่ที่รัฐบาลอิสราเอลได้เข้ามาจัดตั้งสำนักงานตัวแทนภาครัฐในไต้หวัน โดย Mr. Tal หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้มีโอกาสให้การต้อนรับคณะตัวแทนไต้หวันในอิสราเอล เพื่อมุ่งสู่การแลกเปลี่ยนแบบทวิภาคีในเชิงลึกต่อไป
หลังเสร็จสิ้นการพูดคุยหารือในข้างต้น นายอู๋จื้อจง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศไต้หวัน ก็ได้จัดเลี้ยงอาหารเพื่อให้การต้อนรับคณะตัวแทน โดยรมช.อู๋ฯ กล่าวว่า ระยะนี้ ตนได้ให้การต้อนรับคณะสมาชิกสภาอิสราเอล ติดต่อกันเป็นจำนวน 2 กลุ่ม จึงขอใช้โอกาสนี้แสดงความขอบคุณต่อรัฐบาลอิสราเอล ที่ให้การสนับสนุนต่อไต้หวันอย่างหนักแน่น โดยรมช.อู๋ฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ในอนาคต ทั้งสองฝ่ายจะขยายการแลกเปลี่ยนออกไปสู่มิติที่หลากหลายเพิ่มขึ้น เพื่อสร้างคุณูปการที่เพิ่มพูนมากยิ่งขึ้นให้แก่พันธมิตรประชาธิปไตยทั่วโลก
ในปัจจุบัน ไต้หวัน – อิสราเอล มีปฏิสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิดในด้านการเสริมสร้างความร่วมมือทางเทคโนโลยีของกลุ่มสตาร์ทอัพ และความยืดหยุ่นของระบบห่วงโซ่อุปทานด้านประชาธิปไตย โดยในอนาคต พวกเราจะมุ่งพัฒนาความร่วมมือแบบทวิภาคีกันอย่างต่อเนื่อง ภายใต้พื้นฐานอันดีที่มีอยู่เดิมต่อไป
