
กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 19 พ.ค. 68
การประชุมสมัชชาอนามัยโลก (WHA) ครั้งที่ 78 มีกำหนดการเปิดฉากขึ้นเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ณ กรุงเจนีวา ภายใต้ความมุ่งมั่นพยายามของกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานตัวแทนรัฐบาลไต้หวันในต่างแดน ส่งผลให้พวกเราได้รับพลังเสียงสนับสนุนอย่างแกร่งกล้าด้วยวิธีการที่เป็นรูปธรรมจาก "กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำทั้งเจ็ด" (G7) หน่วยงานสภาบริหารและสภานิติบัญญัติกว่า 50 แห่ง รวมถึงสหภาพยุโรป (EU) รัฐสภายุโรป และสำนักงานตัวแทนรัฐบาลต่างประเทศในไต้หวัน ที่ยึดมั่นในแนวคิดคล้ายคลึงกัน กระทรวงการต่างประเทศไต้หวันขอแสดงความขอบคุณด้วยใจจริง
ระยะที่ผ่านมา 11 ประเทศพันธมิตรของไต้หวันที่มีสถานภาพเป็นประเทศสมาชิกของ “องค์การอนามัยโลก” (WHO) ต่างทยอยยื่นเสนอ “แผนผลักดันการติดต่อเชิญให้ไต้หวันเข้าร่วมการประชุม WHA ในฐานะผู้สังเกตการณ์” โดยได้เรียกร้องให้กำหนดญัตติที่เกี่ยวกับไต้หวันเป็น “รายการเสริม” (supplementary item) ของวาระการประชุมประจำปีนี้ นอกจากนี้ Mr. Philip J. Pierre นายกรัฐมนตรีเซนต์ลูเซีย ยังได้ยื่นส่งหนังสือให้แก่ Dr. Tedros Adhanom Ghebreyesus เลขาธิการใหญ่ขององค์การอนามัยโลก ด้วยตนเอง เพื่อกระตุ้นให้ WHO เร่งติดต่อเชิญให้ไต้หวันเข้ามีส่วนร่วม อีกทั้งรัฐสภากัวเตมาลา ปาเลา รวมถึงเซนต์คิดส์และเนวิส ต่างก็ทยอยลงมติผ่านญัตติที่เป็นมิตรต่อไต้หวัน ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน
พลังเสียงสนับสนุนของกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันกับไต้หวัน นับวันยิ่งมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น หลังจากที่รัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐฯ ขึ้นรับตำแหน่งเป็นต้นมา ก็รับหน้าที่เป็นกระบอกเสียงให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมในองค์การระหว่างประเทศอย่างเปิดเผยมาเป็นจำนวนเกินกว่า 10 ครั้งแล้ว อันจะเห็นได้จากการประกาศแถลงการณ์ร่วมระหว่างประธานาธิบดี Donald Trump แห่งสหรัฐฯ และนายกรัฐมนตรี ISHIBA Shigeru ของญี่ปุ่น หลังเสร็จสิ้นการประชุม เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นับเป็นครั้งแรกที่ได้มีการบัญญัติข้อความว่าด้วยการสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมองค์การระหว่างประเทศอย่างมีความหมาย นอกจากนี้ Mr. Marco Rubio รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ก็ได้แสดงจุดยืนอันหนักแน่นของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมองค์การระหว่างประเทศ ทั้งในระหว่างการประชุมประชาพิจารณ์ในรัฐสภา การให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน รวมถึงแถลงการณ์ร่วมหลังการประชุมระหว่างรัฐมนตรีกับญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ยังได้ร่วมเป็นกระบอกเสียงให้ไต้หวันถึง 2 ครั้งใน “การประชุมคณะกรรมการบริหาร” (EB) ของ WHO ที่จัดขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ของปีนี้ ในเดือนเมษายน รัฐบาลสหรัฐฯ ยังได้ร่วมประณามจีน ในระหว่างการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ โดยระบุว่า จีนมักจะนำญัตติที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ฉบับที่ 2758 ไปประยุกต์ใช้ในทิศทางที่ผิด พร้อมเน้นย้ำว่า ญัตติ 2758 มิได้ระบุกีดกันการเข้าร่วมในระบบสหประชาชาติและการประชุมแบบพหุภาคีใดๆ ของไต้หวัน ในส่วนของสภานิติบัญญัติ เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2568 สภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ ร่วมลงมติผ่าน “ญัตติกฎหมายว่าด้วยความสามัคคีระหว่างประเทศกับไต้หวัน” (Taiwan International Solidarity Act) ด้วยคะแนนเสียงที่เป็นเอกฉันท์ โดยเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ แสดงจุดยืนต่อต้านการขัดขวางไต้หวันของจีน ด้วยการจงใจบิดเบือนญัตติ 2758 ในการประชุมแบบพหุภาคี นอกจากนี้ ยังมีการประชุมสภาของ 9 มลรัฐ ที่ต่างทยอยลงมติผ่านญัตติว่าด้วยการสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมในองค์การระหว่างประเทศ
นอกจากนี้ แถลงการณ์หลังเสร็จสิ้นการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของ "กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำทั้งเจ็ด" (G7) ที่จัดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ก็มีเนื้อความที่ย้ำชัดถึงจุดยืนให้การสนับสนุนไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมในองค์การระหว่างประเทศอย่างมีความหมาย ประกอบกับเมื่อวันที่ 15 พ.ค. EU ก็ได้ประกาศให้การสนับสนนุนไต้หวันเข้าร่วมองค์การระหว่างประเทศอย่างมีความหมาย พร้อมทั้งให้การยอมรับต่อศักยภาพการดูแลสุขภาพเชิงดิจิทัลของไต้หวัน ที่จะสามารถสร้างคุณูปการที่แปลกใหม่ให้แก่ประชาคมโลกในภายภาคหน้าต่อไป
เมื่อเดือนก.พ. 68 รัฐสภายุโรปได้ลงมติเห็นชอบต่อ “รายงานผลการดำเนินงานตามนโยบายการต่างประเทศและความมั่นคงร่วมกัน” (Common Foreign and Security Policy, CFSP) เพื่อให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมในองค์การระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ยังมีคณะรัฐมนตรีการต่างประเทศจากนานาประเทศ ที่ร่วมแสดงความคิดเห็นในการสนับสนุนไต้หวันอย่างหนักแน่น ทั้งจากอิตาลี ไอร์แลนด์ ออสเตรเลียและสวีเดน ประกอบกับสมาชิกรัฐสภา 534 คนจาก 29 ประเทศในทวีปยุโรปและรัฐสภายุโรป ที่ต่างก็ร่วมลงนามในหนังสือเรียกร้องในนาม “สโมสรฟอร์โมซา” (Formosa Club) เพื่อยื่นส่งต่อเลขาธิการใหญ่ WHO นอกจากนี้ แพทยสมาคมโลก (WMA) และองค์กรความเชี่ยวชาญระดับสากล ต่างก็ร่วมเป็นกระบอกเสียงให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วม WHO รวมถึงแผนผลักดันการเข้าร่วมการประชุม WHA ด้วยเช่นกัน
กต.ไต้หวันขอบคุณสำนักงานตัวแทนรัฐบาลต่างประเทศที่ประจำการในไต้หวัน ประกอบด้วย อังกฤษ ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย แคนาดา เช็ก เยอรมนี ญี่ปุ่นและลิทัวเนีย ที่ประกาศแถลงการณ์ร่วมว่าก่อนวาระการประชุม WHA ติดต่อกันมาเป็นปีที่ 5 โดยได้ให้การยอมรับต่อไต้หวันว่า พวกเราจะสามารถสร้างคุณประโยชน์อย่างยิ่งใหญ่ในการประชุมอภิปรายของ WHA พร้อมเน้นย้ำว่า การกีดกันให้ไต้หวันอยู่นอกระบบ WHA ไม่มีเหตุอันสมควร อีกทั้งยังขัดต่อจิตวิญญาณความร่วมมือทางความมั่นคงสาธารณสุขที่บัญญัติไว้ในเอกสารการก่อตั้ง WHO
กต.ไต้หวันขอใช้โอกาสนี้ เรียกร้องให้สำนักเลขาธิการ WHO รับฟังเสียงของประเทศสมาชิก อย่าได้เดินตามเกมการเมืองของรัฐบาลจีน หากแต่ควรที่จะตั้งมั่นอยู่บนพื้นฐานจริยธรรมที่ต้องการปกป้องและเสริมสร้างสวัสดิการและความผาสุกของมวลมนุษยชาติทั่วโลก ทั้งนี้ เพื่อการพิชิตหลักการ “ไม่ละทิ้งผู้ใดไว้เบื้องหลัง” และ “ร่วมสร้างโลกที่แข็งแกร่ง” (One World for Health) ด้วยการเปิดรับไต้หวัน ให้เข้ามีส่วนร่วมในกิจกรรม กลไกและการประชุมใดๆ ภายใต้ WHO ซึ่งรวมถึงการประชุม WHA ด้วย