กระทรวงเกษตร วันที่ 5 มิ.ย. 68
 
กระทรวงเกษตรไต้หวัน (Ministry of Agriculture, MOA) จัดการประชุมพิจารณาแนวทางการลดการสูญเสียและการสิ้นเปลืองอาหาร ผ่านนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ และสถานการณ์ความคืบหน้าด้านการปฏิบัติการในกลุ่มประเทศสมาชิกเอเปค (Workshop on Reducing Food Loss and Waste (FLW) through Packaging Innovations and Progress Review of FLW in the APEC Region) ขึ้น ณ โรงแรม Evergreen Laurel Hotel (Taichung) นครไทจง ในช่วงระหว่างวันที่ 5 – 6 มิถุนายน 2568 โดยมีคณะตัวแทนจำนวน 140 คนจาก 16 เขตเศรษฐกิจที่เป็นสมาชิกเอเปค เดินทางมาเข้าร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์การแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวทางการลดการสูญเสียและขยะอาหาร ผ่านนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ พร้อมทั้งย้อนพิจารณาสถานการณ์ความคืบหน้าในการผลักดันนโยบายที่เกี่ยวข้องของทุกๆ เขตเศรษฐกิจ
 
อนึ่ง การประชุมในครั้งนี้ได้รับเงินอุดหนุนจากงบประมาณภายใต้กรอบเอเปค แสดงให้เห็นถึงการได้รับการยอมรับต่อความมุ่งมั่นทุ่มเทอย่างกระตือรือร้นของไต้หวัน ในประเด็นการลดการสูญเสียอาหาร
 
นับตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นมา ไต้หวันได้ยื่นเสนอ “โครงการการเสริมสร้างความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อการลดการสูญเสียอาหารในระบบห่วงโซ่อุปทาน” ในที่ประชุมเอเปคอย่างแข็งขันเสมอมา และได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มประเทศสมาชิกทั้งหมด ภายในปี 2564 ซึ่งไต้หวันได้รับมอบหมายให้เป็นผู้นำเขตเศรษฐกิจ (Lead Economy) ในประเด็นการลดปริมาณการสูญเสียและการสิ้นเปลืองอาหารใน “แผนแม่บทว่าด้วยการมุ่งสู่เส้นทางความมั่นคงทางอาหารของเอเปค ภายในปี 2573” MOA แถลงว่า เพื่อส่งเสริมให้ประชาคมโลกให้ความสนใจต่อประเด็นดังกล่าวกันเพิ่มมากขึ้น MOA จึงได้ทยอยจัดการประชุมที่เกี่ยวข้องขึ้นหลายรายการ โดยในปีนี้มุ่งเน้นไปที่การประยุกต์ใช้นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ และประสิทธิผลของการดำเนินนโยบาย
 
ในระหว่างการประชุมครั้งนี้ ยังได้ติดต่อเชิญ Dr. Máximo Torero Cullen หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization of the United Nations, FAO) เดินทางมาเข้าร่วมวิเคราะห์แผนกลยุทธ์การป้องกันและจัดการการสูญเสียอาหารและขยะอาหาร ผ่านมุมมองความมั่นคงทางอาหารระดับสากล นอกจากนี้ ยังได้ติดต่อเชิญ Ms. Dana Gunders กรรมการบริหารองค์การ ReFED ของสหรัฐฯ เข้าร่วมแบ่งปันแนวทางการประสานความร่วมมือระหว่างภาครัฐและผู้ประกอบการภาคธุรกิจ ในการผลักดันการลดปริมาณขยะอาหารอย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการกำหนดนโยบาย การวัดผลการปฎิบัติงาน และแผนปฏิบัติการที่เป็นรูปธรรม
 
“รายงานสถานการณ์โภชนาการและความมั่นคงทางอาหารระดับสากล ประจำปี 2566” ที่จัดทำโดยองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ระบุว่า นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์เป็นเครื่องมือตัวช่วยสำคัญ สำหรับการลดปริมาณการสูญเสียอาหารและขยะอาหาร บรรจุภัณฑ์ที่ดีนอกจากจะสามารถยืดอายุความสดใหม่ของวัตถุดิบอาหารแล้ว ยังเป็นประโยชน์ต่อการขนส่งระยะทางไกลอีกด้วย ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการรักษาความมั่นคงทางอาหารในภาพรวม ในทางกลับกัน บรรจุภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม อาจส่งผลให้เกิดความเสี่ยงในการสูญเสียอาหารสูงถึง 20％ ด้วยเหตุนี้ บรรจุภัณฑ์จึงได้รับการจัดให้เป็น 1 ใน 3 โซลูชันหลักของการแก้ปัญหาการลดขยะอาหารอย่างมีประสิทธิภาพ อนึ่ง ในระหว่างการประชุมระดับรัฐมนตรีความมั่นคงอาหารเอเปค ครั้งที่ 9 ประจำปี 2567 ก็ได้มีการแสดงจุดยืนเกี่ยวกับบทบาทของนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ ที่มีความสำคัญต่อการรักษาเสถียรภาพของระบบห่วงโซ่อุปทานอาหาร
 
เพื่อส่งเสริมให้ผู้เข้าร่วมการประชุมประจักษ์เห็นศักยภาพของไต้หวัน การประชุมในครั้งนี้ MOA จึงได้ติดต่อเชิญเทศบาลนครไทจง สถาบันวิจัยการออกแบบแห่งชาติ (TDRI) และศูนย์พัฒนาอุตสาหกรรมพลาสติก (PIDC) ประสานความร่วมมือในการจัดตั้งคูหาจัดแสดงผลงานนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์อาหาร แพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนวัตถุดิบอาหารเหลือทิ้ง และการนำเสนอผลสัมฤทธิ์ทางการเกษตรที่ยั่งยืน ในพื้นที่รอบนอกของการประชุม และจัดให้มีผู้บรรยายคอยชี้แจงข้อมูลรายละเอียดที่เกี่ยวข้องให้แก่ผู้สนใจ
 
MOA แถลงว่า พื้นที่ภูมิภาคของกลุ่มประเทศสมาชิกเอเปค ถือเป็นแหล่งผลิตอาหารและฐานการส่งออกหลักที่สำคัญระดับโลก การสูญเสียอาหาร นอกจากจะเป็นการบ่งชี้ให้เห็นถึงการสิ้นเปลืองทรัพยากรการเกษตร และต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของผู้ผลิตและเป็นการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้บริโภค หากพิจารณาจากแง่มุมด้านสภาพแวดล้อม ปริมาณขยะอาหารในจำนวนมหาศาลจะไปสิ้นสุดลงที่สถานที่กำจัดขยะมูลฝอย ซึ่งก๊าซมีเทนที่เกิดจากการย่อยสลายขยะอินทรีย์ในสภาพไร้อากาศ ก็จะส่งผลให้เกิดปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่เพิ่มสูงขึ้น อันเป็นบ่อเกิดปัญหาวิกฤตการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ ด้วยเหตุนี้ การลดปริมาณการสูญเสียอาหารในกลุ่มภูมิภาคเอเปค จึงมีความสำคัญต่อการจัดตั้งระบบห่วงโซ่ความยั่งยืนด้านอาหารระดับโลก ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของประชาคมโลก ไต้หวันจะมุ่งมั่นผลักดันแนวทางการแก้ไขปัญหา ควบคู่ไปพร้อมกับประชาคมโลก
 
การประชุมครั้งนี้ นอกจากจะเปิดการอภิปรายกันในประเด็นนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์แล้ว ยังมุ่งเน้นไปที่แนวทางการลดผลกระทบในทุกๆ องค์ประกอบของระบบห่วงโซ่อุปทานอาหารให้เกิดประสิทธิภาพ ทั้งนี้ เพื่อเสริมสร้างความทรหดและการพัฒนาที่ยั่งยืนของระบบอาหารในภาพรวมอย่างครอบคลุม อนึ่ง การประชุมในครั้งนี้ถือเป็นเวทีสำคัญของการเจรจาแผนกลยุทธ์ระหว่างไต้หวันและตัวแทนสถาบันวิจัยและกำหนดนโยบายด้านระบบอาหารของกลุ่มประเทศสมาชิกเอเปค โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างรากฐานความร่วมมือ ควบคู่ไปกับการจับมือกันผลักดันแผนข้อเสนอที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนเพื่ออุทิศคุณประโยชน์ด้านความมั่นคงทางอาหาร และการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับสากล