ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
กระทรวงเศรษฐการจัดพิธีประกาศมอบรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ และรางวัลสิ่งประดิษฐ์และความคิดสร้างสรรค์แห่งชาติ ประจำปี 2568 เผยให้เห็นศักยภาพทางเทคโนโลยีอันโดดเด่นของไต้หวัน
2025-06-11
New Southbound Policy。กระทรวงเศรษฐการจัดพิธีประกาศมอบรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ และรางวัลสิ่งประดิษฐ์และความคิดสร้างสรรค์แห่งชาติ ประจำปี 2568 เผยให้เห็นศักยภาพทางเทคโนโลยีอันโดดเด่นของไต้หวัน (ภาพจากกระทรวงเศรษฐการ)
กระทรวงเศรษฐการจัดพิธีประกาศมอบรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ และรางวัลสิ่งประดิษฐ์และความคิดสร้างสรรค์แห่งชาติ ประจำปี 2568 เผยให้เห็นศักยภาพทางเทคโนโลยีอันโดดเด่นของไต้หวัน (ภาพจากกระทรวงเศรษฐการ)

กระทรวงเศรษฐการ วันที่ 10 มิ.ย. 68
 
กิจกรรมประจำปีครั้งสำคัญของกระทรวงเศรษฐการ (MOEA) ไต้หวัน เปิดฉากขึ้นแล้วเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2568 โดย MOEA ได้จัดพิธีประกาศรายชื่อเพื่อมอบรางวัลรวม 92 รายการ ที่ได้รับคัดเลือกในโครงการรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ (National Industrial Innovation Award) และรางวัลสิ่งประดิษฐ์และความคิดสร้างสรรค์แห่งชาติ (National Invention & Creation Award) เผยให้เห็นศักยภาพอันแข็งแกร่งของไต้หวัน ทั้งในด้านอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ เทคโนโลยี AI รวมไปถึงด้านการดูแลสุขภาพและการพัฒนาความยั่งยืน เป็นต้น โดยในวาระพิเศษนี้ นายจั๋วหรงไท่ นายกรัฐมนตรีไต้หวัน ได้เข้าร่วมส่งมอบกำลังใจให้แก่ผู้ที่ได้รับรางวัล พร้อมสนับสนุนให้กลุ่มเป้าหมายมุ่งพัฒนาผลงานนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพื่ออัดฉีดพลังขับเคลื่อนเพื่อความยั่งยืนให้แก่ระบบเศรษฐกิจไต้หวันต่อไป
 
นรม.จั๋วฯ กล่าวขณะปราศรัยว่า สถาบัน IMD (International Institute for Management Development) แห่งประเทศสวิตเซอร์แลนด์ จัดให้ไต้หวันอยู่ในอันดับที่ 8 จากทั้งหมด 67 ประเทศและเขตเศรษฐกิจทั่วโลก ในการจัดอันดับความสามารถการแข่งขันของโลกล่าสุด (IMD World Competitiveness Yearbook) โดยในจำนวนนี้ “อัตราส่วนของรายจ่ายเพื่อการวิจัยและพัฒนาต่อ GDP” และ “อัตราส่วนค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาของภาคธุรกิจต่อ GDP” ต่างก็ยังสามารถรักษาตำแหน่งใน 3 อันดับแรกของโลก จึงจะเห็นได้ว่าทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ต่างให้ความสำคัญต่อภารกิจการวิจัยและพัฒนาเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังได้รับการยอมรับบนเวทีนานาชาติ ซึ่งรัฐบาลไต้หวันนอกจากจะมุ่งผลักดัน “อุตสาหกรรมที่เชื่อถือได้ 5 รายการ” แล้ว ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็อยู่ระหว่างการพิจารณาร่างแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานหลักด้วย AI รวม 10 รายการ โดยหวังที่จะกระตุ้นการพัฒนาเทคโนโลยี AI ของไต้หวันในระลอกถัดไป ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมการใช้ AI ในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ควบคู่ไปกับการพัฒนาให้อุตสาหกรรมก้าวทันกระแสในยุคสมัย AI ตลอดจนได้รับการนำปรับไปใช้ในภาคอุตสาหกรรมทุกประเภท รวมถึงกิจการสาธารณะ เพื่อการจัดตั้งระบบห่วงโซ่อุปทานที่ครอบคลุมสมบูรณ์
 
ไฮไลท์พิเศษประจำปีนี้คือการจัดเพิ่มรางวัลในกลุ่มประเภทรัฐบาล โดยนรม. จั๋วฯ หวังที่จะเห็นหน่วยงานต่างๆ ของภาครัฐ ร่วมระดมแนวคิดด้านนวัตกรรม ควบคู่ไปกับการจับมือกับกลุ่มผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม ในการขับเคลื่อนการพัฒนาภาคสังคมด้วยนวัตกรรม เพื่อสร้างความผาสุกให้แก่ประชาชนโดยถ้วนหน้า ในช่วงท้าย นรม.จั๋วฯ เน้นย้ำว่า แวดวงอุตสาหกรรมภายในประเทศมีฉันทามติร่วมกัน คือการรักษาสถานภาพผู้นำของไต้หวันในด้านการผลิตชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์ เพื่อป้อนสู่ตลาดโลก ตลอดจนหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นแวดวงอุตสาหกรรมสร้างความเชื่อมโยงกับประชาคมโลกผ่านรูปแบบ TaiwanPlus เพื่อบรรลุหลักการการวางรากฐานในไต้หวัน เชื่อมโยงไปสู่ประชาคมโลก
 
นายกัวจื้อฮุย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐการไต้หวัน ระบุว่า รางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ ครั้งที่ 9 ได้คัดเลือกผลงานที่ส่งเข้าร่วมประกวดทั้งสิ้น 305 รายการ ให้เหลือเพียง 25 หน่วยงาน เจ้าหน้าที่ 8 กลุ่ม และบุคคล 19 รายชื่อ เผยให้เห็นถึงศักยภาพด้านนวัตกรรมอันแกร่งกล้าของไต้หวัน ในด้าน “เซมิคอนดักเตอร์และ AI” ชิป Ethernet ที่ใช้ในการเชื่อมต่อสื่อสารอุปกรณ์ต่างๆ ในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ที่คิดค้นวิจัยโดยบริษัท Realtek Semiconductor Corp. ครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 ของโลก และได้บูรณาการเข้าสู่รายการสินค้าในมิติต่างๆ ตลอดจนมุ่งวางรากฐานทางสิทธิบัตรอย่างกระตือรือร้น โดยได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีสำคัญเช่นนี้ ต่อยอดไปสู่ชิปยานยนต์และอุปกรณ์การแพทย์อัจฉริยะ ; บริษัท Kneron ผลักดันการประยุกต์ใช้โมเดลภาษาขนาดใหญ่ เพื่อส่งมอบแผนโซลูชันการประมวลผลประสิทธิภาพสูงสำหรับ Edge AI ระดับโลก
 
สำหรับแง่มุม “การแพทย์เชิงการดูแลสุขภาพ” แพลตฟอร์มด้านนวัตกรรมสหวิทยาทางการการแพทย์ดิจิทัล ในรูปแบบเสมือนจริง ที่คิดค้นวิจัยโดยสถาบันวิศวกรรมชีวการแพทย์และเทคโนโลยีชีวภาพ (Institute of Biomedical Engineering and Biotechnology, IBE) ภายใต้สังกัดสถาบันวิจัยเทคโนโลยีทางอุตสาหกรรมไต้หวัน (ITRI) ถือเป็นการอัดฉีดพลังขับเคลื่อนรูปแบบใหม่ในการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลของไต้หวัน
 
สำหรับ “การพัฒนาการเปลี่ยนผ่านสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์อย่างยั่งยืน” บริษัท TSMC ของไต้หวันได้จัดตั้งศูนย์จัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ (Taichung Zero Waste Manufacturing Center) ซึ่งสามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้จำนวน 40,000 ตันต่อปี นอกจากนี้ เทคโนโลยีรีไซเคิลขยะทะเลที่คิดค้นวิจัยโดยบริษัท Formosa Chemicals & Fibre Corporation ก็ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการอุทิศการพัฒนาที่ยั่งยืนให้แก่โลกใบนี้ด้วยเช่นกัน
 
นอกจากนี้ รมว.กัวฯ ยังได้ส่งมอบกำลังใจให้แก่ผู้ที่ได้รับรางวัลสิ่งประดิษฐ์และความคิดสร้างสรรค์ ที่ได้รับคัดเลือกรวม 40 รายการ จากผลงานที่ส่งเข้าร่วมประกวดทั้งสิ้น 418 รายการ ซึ่งผู้ที่ได้รับรางวัลกว่าครึ่งล้วนแต่มาจากภาคธุรกิจ บ่งชี้ให้เห็นว่า ภาคอุตสาหกรรมไต้หวันมุ่งให้ความสำคัญต่อการวางรากฐานทางสิทธิบัตร ที่มีขอบเขตกว้างขวาง ครอบคลุมทั้งในด้านเทคโนโลยีระบบสารสนเทศ 5G ระบบการแพทย์อัจฉริยะรูปแบบ AI อุปกรณ์เวชภัณฑ์สำหรับผู้สูงอายุ ระบบเซ็นเซอร์เพื่อการเกษตร และการประยุกต์ใช้ระบบอัจฉริยะในวิถีชีวิตประจำวัน เป็นต้น