ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 12 มิ.ย. 68
 
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 12 มิถุนายน 2568 ประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ ผู้นำไต้หวัน ได้ให้การต้อนรับ Ms. Marie-Noëlle Battistel ประธานกลุ่มพันธมิตรไต้หวันในสมัชชาแห่งชาติฝรั่งเศส พร้อมด้วยคณะตัวแทน
 
ปธน.ไล่ฯ กล่าวขณะปราศรัยว่า นับเป็นครั้งที่ 4 แล้วที่ Ms. Battistel เดินทางเยือนไต้หวัน อย่างไรก็ตาม นี่เป็นครั้งแรกที่ Ms. Battistel นำคณะเดินทางเยือนไต้หวันในฐานะประธานกลุ่มพันธมิตรไต้หวัน โดยการเดินทางมาเยือนของคณะตัวแทน แสดงให้เห็นถึงพลังสนับสนุนที่เจ้าหน้าที่สมัชชาแห่งชาติฝรั่งเศสมีต่อไต้หวัน ปธน.ไล่ฯ ในฐานะตัวแทนของภาคประชาชนชาวไต้หวัน ขอให้การต้อนรับและขอบคุณด้วยใจจริง
 
ปธน.ไล่ฯ แถลงว่า ฝรั่งเศสเป็นประเทศบุกเบิกด้านค่านิยมด้านประชาธิปไตยและเสรีภาพโลก ซึ่งเป็นค่านิยมที่ไต้หวันรู้สึกหวงแหนและมุ่งธำรงปกป้องเสมอมา ปธน.ไล่ฯ จึงขอใช้โอกาสนี้ แสดงความขอบคุณต่อรัฐสภาฝรั่งเศสที่ให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมในองค์การประเทศอย่างหนักแน่น ควบคู่ไปกับการร่วมรักษาความมั่นคงในช่องแคบไต้หวันอย่างกระตือรือร้นเสมอมา ซึ่งจะเห็นได้จากการที่สมัชชาแห่งชาติฝรั่งเศสและวุฒิสภาฝรั่งเศส มีมติผ่านญัตติให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมองค์การระหว่างประเทศในปี 2564 หรือในปี 2566 ที่ทั้งสองสภาร่วมลงมติผ่านความเห็นชอบ “กฎหมายการจัดตั้งกองทัพในระยะเวลา 7 ปี” (LPM 2024-2030) ส่งผลให้ฝรั่งเศสเป็นประเทศแรกของโลกที่ได้มีการบัญญัติกฎหมายเพื่อการธำรงปกป้องเสรีภาพการเดินเรือในช่องแคบไต้หวัน
 
ปธน.ไล่ฯ แถลงว่า หลายปีมานี้ ทั้งสองฝ่ายต่างมุ่งเสริมสร้างความร่วมมือกันในเชิงลึก ทั้งด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยี วัฒนธรรมและการกีฬา เป็นต้น อีกทั้งในระหว่างการประชุมสุดยอด Choose France Summit ที่จัดขึ้น ณ กรุงปารีส เมือเดือนที่แล้ว ผู้ประกอบการไต้หวัน - ฝรั่งเศส ต่างก็ร่วมกันประกาศว่า ทั้งสองฝ่ายจะเปิดบริบททางความร่วมมือในด้านเซมิคอนดักเตอร์และดาวเทียมระหว่างกัน นอกจากนี้ มหกรรม Viva Tech ที่จัดขึ้นที่ฝรั่งเศส ณ ขณะนี้ ก็ได้รับความสนใจเข้าร่วมจากบรรดาผู้ประกอบการไต้หวันเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือภาคเอกชนของทั้งสองฝ่าย ต่างก็มีการแลกเปลี่ยนไปมาหาสู่กันอย่างใกล้ชิด ปธน.ไล่ฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การเดินทางมาเยือนของคณะตัวแทนในครั้งนี้ จะเป็นการอัดฉีดพลังขับเคลื่อนใหม่ๆ เข้าสู่ความสัมพันธ์แบบทวิภาคี อันจะเป็นการพัฒนาไปสู่การยกระดับความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนระหว่างกัน ให้เกิดความแนบแน่นในมิติความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า พลังงานและความมั่นคงทางดิจิทัล
 
ปธน.ไล่ฯ เน้นย้ำว่า เมื่อเผชิญหน้ากับความท้าทายทางการเมืองเชิงภูมิรัฐศาสตร์และสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน ไต้หวันจะยังคงมุ่งเสริมสร้างความร่วมมือกับฝรั่งเศส และกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน เพื่อร่วมปกป้องสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก ให้คงอยู่อย่างยั่งยืนต่อไป ตลอดจนเพื่ออุทิศคุณประโยชน์ด้านการพัฒนาความเจริญรุ่งเรืองให้แก่ประชาคมโลกควบคู่ไปด้วย
 
Ms. Battistel แถลงว่า การเดินทางมาเยือนไต้หวันในครั้งนี้ ส่งเสริมให้คณะตัวแทนมีโอกาสเสริมสร้างความสัมพันธ์เชิงลึกในด้านต่างๆ กับไต้หวันเพิ่มมากขึ้น ทั้งเศรษฐกิจ วัฒนธรรม สังคมและการทูต ตลอดจนได้ร่วมเสวนาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่รัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ และหน่วยงานวิจัยต่างๆ ในไต้หวัน อีกทั้งยังได้ตระหนักเห็นถึงความสำคัญทางความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนในด้านพลังงาน เซมิคอนดักเตอร์ เยาวชนและวัฒนธรรม รวมไปถึงประเด็นสำคัญที่ทั้งสองเฝ้าจับตาร่วมกัน อย่าง AI และการรับมือกับข่าวปลอม ที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของนานาประเทศทั่วโลก
 
Ms. Battistel ให้การยอมรับต่อไต้หวันในด้านการบ่มเพาะเยาวชน พร้อมระบุว่า ภายใต้โครงการกองทุนสานฝันเยาวชนในต่างแดนมูลค่าหมื่นล้านเหรียญ ได้มีการผลักดันให้เยาวชนไต้หวัน จำนวน 30 คนเดินทางเข้าเยี่ยมเยือนหน่วยงานต่างๆ ในฝรั่งเศส อาทิ การประชุมสหประชาชาติด้านมหาสมุทร มหกรรม Viva Tech และเดินทางเข้าเที่ยมชมเมืองตูลูซ ซึ่งเป็นฐานทัพสำคัญด้านการบินและอวกาศของฝรั่งเศส นอกจากนี้ ยังเข้าร่วมแลกเปลี่ยนในที่ประชุมสมัชชาแห่งชาติฝรั่งเศสอีกด้วย
 
Ms. Battistel หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะกระชับการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือแบบทวิภาคี ให้เป็นไปในทิศทางเชิงลึกมากยิ่งขึ้น พร้อมแสดงจุดยืนว่า การสนับสนุนสันติภาพของไต้หวัน ก็เท่ากับเป็นการสนับสนุนสันติภาพระดับสากลด้วยเช่นกัน