กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงเศรษฐการ วันที่ 1 – 2 ก.ค. 68
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 นายอู๋จื้อจง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไต้หวัน ได้จัดเลี้ยงอาหารกลางวันเพื่อให้การต้อนรับ Mr. Thambo Gina รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการวางแผนและพัฒนาทางเศรษฐกิจแห่งราชอาณาจักรเอสวาตินี และคณะตัวแทน ที่เดินทางมาเข้าร่วม “การประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี ครั้งที่ 27” โดยในระหว่างนี้ เจ้าหน้าที่ภาครัฐของทั้งสองฝ่ายยังได้ร่วมหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในประเด็นสถานการณ์ระหว่างประเทศในปัจจุบัน ความร่วมมือแบบทวิภาคีระหว่างไต้หวัน - เอสวาตินี และการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี เป็นต้น
รมช.อู๋ฯ กล่าวขณะปราศรัยว่า เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ในระหว่างที่นายหลินเจียหรง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไต้หวัน นำคณะตัวแทนเดินทางเยือนเอสวาตินี เพื่อเข้าร่วมพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 57 พรรษาของสมเด็จพระราชาธิบดีอึมสวาตีที่ 3 แห่งเอสวาตินี (H.M. King Mswati III) ได้มีโอกาสเข้าร่วมเป็นสักขีพยานในการรับชมผลสัมฤทธิ์ที่เกิดจากการพัฒนาความร่วมมือแบบทวิภาคีหลายรายการกับประมุขแห่งเอสวาตินี รวมถึงนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเอสวาตินี โดยในระยะนี้ กต.ไต้หวันกำลังมุ่งพิจารณารวบรวมคณะตัวแทนผู้ประกอบการอุตสาหกรรม เพื่อเดินทางเยือนเอสวาตินี เชื่อว่า ภายใต้การประสานความร่วมมืออย่างใกล้ชิดของทั้งสองฝ่าย นอกจากจะสามารถส่งเสริมการพัฒนาประเทศชาติให้แก่เอสวาตินีแล้ว ยังจะเป็นการสร้างสวัสดิการและความผาสุกให้แก่ภาคประชาชนของทั้งสองฝ่ายร่วมกัน อนึ่ง การนำคณะตัวแทนเดินทางเยือนไต้หวันของรมว. Gina ในครั้งนี้ ก็เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ทางความร่วมมืออันดีที่มีต่อกันอย่างลึกซึ้ง ระหว่างไต้หวัน – เอสวาตินี
รมว.Gina กล่าวขอบคุณการต้อนรับอย่างแสนอบอุ่นของรมว.หลิน และรมช.อู๋ฯ ตลอดจนขอขอบคุณรัฐบาลไต้หวันที่ส่งมอบความช่วยเหลือให้แก่เอสวาตินี ผ่านการพัฒนาความร่วมมือในมิติต่างๆ ตลอดระยะเวลา 57 ปีที่ผ่านมา เชื่อว่า การประชุมที่ร่วมกันจัดขึ้นในครั้งนี้ จะดำเนินไปอย่างอย่างราบรื่น เอสวาตินีเป็นประเทศพันธมิตรที่ยึดมั่นให้การสนับสนุนต่อไต้หวันอย่างสัตย์ซื่อเสมอมา โดยในอนาคต รัฐบาลเอสวาตินีจะยังคงมุ่งสร้างความสัมพันธ์ทางความร่วมมือแบบทวิภาคีกับไต้หวันอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการสนับสนุนให้ไต้หวัน เข้ามีส่วนร่วมในเวทีประชาคมโลกอย่างหนักแน่นต่อไป
เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2568 นายกัวจื้อฮุย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐการไต้หวัน และรมว. Gina ได้ร่วมทำหน้าที่เป็นประธาน “การประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี ครั้งที่ 27” โดยทั้งสองฝ่ายได้ร่วมอภิปรายแลกเปลี่ยนกันในประเด็นการพาณิชย์ดิจิทัล อุทยานวิทยาศาสตร์ การฝึกอบรมบุคลากร การท่องเที่ยวและการเปลี่ยนผ่านในยุคดิจิทัล เป็นต้น
เริ่มต้น รมว.กัวฯ ขอต้อนรับการนำคณะตัวแทนเดินทางเยือนไต้หวันของ รมว. Gina พร้อมทั้งแสดงความขอบคุณต่อรัฐบาลเอสวาตินี สำหรับพลังเสียงสนับสนุนที่ส่งมอบให้ไต้หวันเสมอมา พร้อมทั้งระบุว่า เอสวาตินีเป็นพันธมิตรสำคัญของไต้หวันในทวีปแอฟริกา โดยในอนาคต ไต้หวันจะยังคงมุ่งมั่นจับมือกับเอสวาตินีในการส่งเสริมการพัฒนาประเทศชาติอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับในปัจจุบัน ไต้หวันได้ช่วยยกระดับกลไกการให้บริการรูปแบบเบ็ดเสร็จของอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งเอสวาตินี (Royal Science and Technology Park) ควบคู่ไปกับการจัดตั้งกลไกระเบียบการบริหารภารกิจที่ครอบคลุม ตามหลักมาตรฐาน ซึ่งจะมีส่วนช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าลงทุนกันเป็นสัดส่วนเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ไต้หวันยังจะช่วยผลักดันการพัฒนาการพาณิชย์ดิจิทัลของเอสวาตินี โดยหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะยกระดับอัตราการทำงานในพื้นที่ให้เพิ่มสูงขึ้น
รมว. Gina กล่าวว่า ระบบเศรษฐกิจในเอสวาตินี ยังคงแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นอย่างต่อเนื่อง อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจโดยเฉลี่ยในช่วงระหว่างปี 2568- 2570 คาดว่าจะอยู่ที่ 5.4% ซึ่งในปีนี้อาจแตะระดับสูงสุดที่ 7.9% ทั้งนี้ เป็นผลอันสืบเนื่องมาจากการได้รับอานิสงส์จากการลงทุนของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนของไต้หวัน รวมไปถึงการช่วยเหลือจัดตั้งโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ โดยในจำนวนนี้ การลงทุนในอุตสาหกรรมสิ่งทอของผู้ประกอบการไต้หวันในเอสวาตินี นอกจากจะสร้างคุณูปการต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจแล้ว ยังสร้างโอกาสงานที่เพิ่มพูนมากยิ่งขึ้น ในโอกาสนี้ รมว. Gina ยังขอขอบคุณไต้หวันที่ช่วยจัดตั้งแอปพลิเคชันอีคอมเมิร์ซบนสมาร์ทโฟน ในชื่อ Buy Eswatini โดยหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะขยายฐานการตลาดของสินค้าเอสวาตินี ให้ได้รับความนิยมในเวทีระดับโลก
รมว. Gina ยังได้แสดงทรรศนะว่า ความร่วมมือด้านการฝึกอบรมบุคลากรในด้านการซื้อขายสิทธิในการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จะมีส่วนช่วยยกระดับความทรหดในการรับมือกับความท้าทายที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในปัจจุบัน รมว. Gina หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการประสานความร่วมมือด้านการฝึกอบรมบุคลากรกับไต้หวัน จะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาการว่างงานของกลุ่มเยาวชนในพื้นที่ได้ ตลอดจนหวังว่า หลังสิ้นสุดการประชุมครั้งนี้ จะมีโอกาสยกระดับความสัมพันธ์ทางความร่วมมือกับไต้หวันให้เป็นไปในทิศทางเชิงลึกยิ่งขึ้น
ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างไต้หวัน – เอสวาตินี มีการพัฒนาที่เป็นไปอย่างมีเสถียรภาพ หลังจากที่ความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ระหว่างไต้หวัน – เอสวาตินี มีผลบังคับใช้ในปี 2561 ส่งผลให้มูลค่าการค้าแบบทวิภาคี ในช่วงระหว่างปี 2560 – 2567 เติบโตขึ้น 8% การนำเข้าสินค้าจากเอสวาตินีมาสู่ไต้หวัน มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 29 ส่วนการส่งออกสินค้าจากไต้หวันไปสู่เอสวาตินี ขยายตัวเพิ่มขึ้น 7.5% โดยในอนาคต รัฐบาลจะยังคงมุ่งผลักดันการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือทางอุตสาหกรรมแบบทวิภาคี ระหว่างไต้หวัน - เอสวาตินี อย่างต่อเนื่อง โดยรัฐบาลเอสวาตินีก็ยินดีที่จะสวมบทบาทเป็นกระบอกเสียงให้ไต้หวันบนเวทีนานาชาติอย่างหนักแน่นเช่นเคย
