ทำเนียบประธานาธิบดีและกระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 7 – 8 ก.ค. 68
 
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 8 กรกฎาคม 2568 ประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อได้ให้การต้อนรับ Mr. Jean-Victor Harvel Jean-Baptiste รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐเฮติ พร้อมด้วยภริยาและคณะตัวแทน รวม 5 คน ที่มีกำหนดการเดินทางเยือนไต้หวัน ในช่วงระหว่างวันที่ 7 – 11 กรกฎาคม 2568 โดยปธน.ไล่ฯ แถลงว่า ในปีหน้านี้ ก็จะเป็นวาระครบรอบ 70 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศ โดยทั้งสองฝ่ายต่างบังเกิดผลสัมฤทธิ์ที่เกิดจากการร่วมแลกเปลี่ยนกันในด้านต่างๆ ที่สำคัญ ทั้งความมั่นคงทางสังคม ความร่วมมือทางการศึกษา และโครงสร้างพื้นฐานทางสาธารณูปโภค เป็นต้น หลายปีมานี้ เฮติต้องประสบกับความท้าทายทางการแพทย์และความมั่นคงทางอาหาร โดยไต้หวันจะมุ่งให้ความช่วยเหลือเฮติ ในการยกระดับกลไกการดูแลทางการแพทย์และสาธารณสุข ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหาร ตลอดจนส่งเสริมการพัฒนาโครงสร้างเชิงสาธารณูโภค ผ่านโครงการความร่วมมือแบบทวิภาคีในด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
 
ในโอกาสนี้ ปธน.ไล่ฯ ได้แสดงความขอบคุณต่อรัฐบาลเฮติ และรมว. Jean-Baptiste ที่ร่วมเป็นกระบอกเสียงให้การสนับสนุนไต้หวันบนเวทีนานาชาติอย่างหนักแน่นเสมอมา ไม่ว่าจะเป็นการยื่นส่งหนังสือให้สำนักเลขาธิการองค์การอนามัยโลก (WHO) ของรมว. Jean-Baptiste เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา หรือจะเป็นการแสดงสุนทรพจน์ของ Mr. Bertrand Sinal รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการเฮติ ในที่ประชุมสมัชชาอนามัยโลก (WHA) ต่างได้ระบุถึงการยอมรับต่อความมุ่งมั่นและการสร้างคุณูปการที่ไต้หวันมีต่อระบบสาธารณสุขโลก พร้อมทั้งให้การสนับสนุนไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมในองค์การระหว่างประเทศอย่างหนักแน่น ซึ่งแนวทางที่เป็นรูปธรรมเหล่านี้ ล้วนสร้างความประทับใจให้แก่ชาวไต้หวันเป็นอย่างมาก
 
ปธน.ไล่ฯ หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นทั้งสองฝ่ายมุ่งจับมือกันเสริมสร้างความร่วมมือในเชิงลึก พร้อมเชื่อว่า การเดินทางมาเยือนของรมว Jean-Baptiste ในครั้งนี้ จะสามารถเปิดโอกาสทางความร่วมมือระหว่างสองประเทศให้เพิ่มพูนมากขึ้น ทั้งนี้ เพื่อช่วยให้ไต้หวัน - เฮติ ก้าวผ่านความท้าทายรูปแบบต่างๆ ได้อย่างราบรื่นร่วมกัน
 
ลำดับต่อไปเป็นการกล่าวปราศรัยของรมว. Jean-Baptiste โดยได้ระบุว่า ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา ทั้งสองประเทศแม้จะตั้งอยู่ห่างไกลกันในแง่ที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ อีกทั้งยังมีความแตกต่างกันในด้านการพัฒนาและวัฒนธรรม แต่ทั้งสองกลับสามารถร่วมจัดตั้งสัมพันธไมตรีอันดีงามที่เหนียวแน่นมาตราบจนปัจจุบัน ตลอดจนแสดงให้ประชาคมโลกประจักษ์เห็นความคืบหน้าของความร่วมมือระหว่างภาคประชาชนของทั้งสองฝ่าย
 
รมว. Jean-Baptiste เผยว่า ทั้งสองฝ่ายได้ประสานความร่วมมือกันอย่างแนบแน่นและบังเกิดผลสัมฤทธิ์มากมายหลายประการ ทั้งในด้านการเกษตร สาธารณสุข การศึกษาและการพัฒนาชุมชน เป็นต้น เสียงสนับสนุนของไต้หวันมีความสำคัญอย่างยิ่งยวด สำหรับภาคประชาชนชาวเฮติ ไต้หวันครองบทบาทที่สำคัญในด้านสันติภาพและนวัตกรรม ตลอดจนเข้ามีส่วนร่วมในกลไกความร่วมมือระดับโลกอย่างกระตือรือร้น ในปัจจุบัน ท่ามกลางสถานการณ์ความผันผวนที่ประชาคมโลกต้องร่วมเผชิญหน้า ประกอบกับเฮติ ที่ต้องประสบกับความท้าทายครั้งรุนแรงที่สุดในรอบประวัติศาสตร์ ภายใต้สถานการณ์วิกฤตเช่นนี้ ทั้งสองฝ่ายจึงยิ่งจำเป็นต้องประสานสามัคคี และร่วมแสวงหาแนวทางการพัฒนาความเจริญก้าวหน้า ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างความสัมพันธ์แบบทวิภาคี เพื่อสร้างความผาสุกให้แก่ภาคประชาชนทั้งสองฝ่าย
 
 เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือด้านต่างๆ ระหว่างไต้หวัน - เฮติ ในระหว่างการพำนักในไต้หวัน คณะตัวแทนจะมีกำหนดการเข้าพบปะพูดคุยกับ นายหลินเจียหรง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไต้หวัน เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในประเด็นความร่วมมือแบบทวิภาคี และประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายต่างให้ความสนใจร่วมกัน โดยหลังเสร็จสิ้นการเจรจา คณะตัวแทนก็จะเข้าร่วมงานเลี้ยงต้อนรับที่จัดโดยรมว.หลินฯ จากนั้น ยังมีกำหนดการเดินทางเข้าเยี่ยมเยือนหน่วยงานสำคัญและแลนด์มาร์คต่างๆ ในไต้หวัน อาทิ สวนวิทยาศาสตร์ในพื้นที่ทางตอนใต้ โรงพยาบาล Chi Mei พิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติ (กู้กง) และอาคารไทเป 101 เป็นต้น