
ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 7 ส.ค. 68
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 7 สิงหาคม 2568 ประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ ผู้นำไต้หวัน ได้ให้การต้อนรับ “คณะตัวแทนสมาชิกรัฐสภายูเครนแบบข้ามพรรค” โดยปธน.ไล่ฯ กล่าวว่า เป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปีที่สมาชิกรัฐสภายูเครนแบบข้ามพรรค เดินทางเยือนไต้หวัน ซึ่งนอกจากจะแสดงให้เห็นถึงการยกระดับความสัมพันธ์อันดีระหว่างไต้หวัน - ยูเครนแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นถึงการมุ่งแสวงหาเสรีภาพและสันติภาพร่วมกัน อันเป็นการสร้างหลักชัยใหม่ในความสัมพันธ์แบบทวิภาคี
เริ่มต้น ปธน.ไล่ฯ ได้ให้การต้อนรับ Mr. Mykola Kniazhytskyi หัวหน้าคณะตัวแทน ที่เดินทางมาเยือนไต้หวันเป็นครั้งที่ 3 พร้อมระบุว่า แม้ว่าทั้งสองประเทศจะตั้งอยู่ห่างไกลกันในแง่ที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ แต่ทั้งสองฝ่ายกลับมุ่งดำเนินการตามหลักค่านิยมด้านเสรีภาพ ประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน อีกทั้งยังเป็นเป็นประเทศแนวหน้าที่ต้องคอยรับมือกับการแผ่ขยายอิทธิพลของลัทธิอำนาจนิยม ด้วยเหตุนี้ ไต้หวันจึงยืนหยัดที่จะยืนเคียงข้างภาคประชาชนชาวยูเครน นับตั้งแต่ที่รัสเซียเข้ารุกรานยูเครนเป็นต้นมา ไต้หวันก็ได้ยื่นส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้แก่ยูเครน ด้วยการจัดสรรงบประมาณภาครัฐและส่งมอบเงินที่ได้จากการระดมทุนบริจาคโดยภาคเอกชน ทั้งนี้ เพื่อให้ส่งเสริมให้มีการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานทางสาธารณูปโภคที่สำคัญ อาทิ ประปา ไฟฟ้า สถาบันการแพทย์ และสถานศึกษา เป็นต้น
นอกจากนี้ ไต้หวันยังได้จับมือกับเช็ก โปแลนด์ เอสโตเนียและลิทัวเนีย ซึ่งล้วนแต่เป็นบรรดามิตรประเทศของไต้หวัน ในการส่งมอบความช่วยเหลือตามความต้องการของยูเครน ทั้งนี้ เพื่อต้องการสื่อให้ประชาคมโลกเห็นว่า มีเพียงการผนึกพลังสามัคคีของพันธมิตรประชาธิปไตยทั่วโลก จึงจะสามารถเอาชนะภัยคุกคามและความท้าทายนานาประการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แม้ว่าภาครัฐของไต้หวัน - ยูเครน จะมีข้อจำกัดหลายประการในการแลกเปลี่ยนไปมาหาสู่ระหว่างกันอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม ในอนาคต พวกเราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเพิ่มพูนความเป็นไปได้ในการแลกเปลี่ยนกันในมิติต่างๆ ระหว่างรัฐบาล รัฐสภา ภาคอุตสาหกรรมและภาคประชาสังคม รวมไปถึงการเสริมสร้างความร่วมมือด้านการลงทุนทางเศรษฐกิจและการค้า เทคโนโลยีทันสมัย และการฝึกอบรมบุคลากร เป็นต้น
ปธน.ไล่ฯ หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นไฟสงครามที่ไร้ซึ่งจุดชนวนใดๆ ในครั้งนี้ มอดดับลงโดยเร็ววัน เพื่อที่ภาคประชาชนชาวยูเครน จะได้หลุดพ้นจากความเจ็บปวดจากภัยสงคราม พร้อมกันนี้ ปธน. ไล่ฯ ยังเน้นย้ำว่า ไต้หวันยินดีจะประสานความร่วมมือกับประชาคมโลกอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยฟื้นฟูและพัฒนาโครงสร้างประเทศชาติให้แก่ยูเครนอย่างเต็มกำลัง
Mr. Kniazhytskyi กล่าวขณะปราศรัยว่า เราทั้งสองฝ่ายต่างมีเป้าหมายเดียวกัน คือการมุ่งธำรงปกป้องประชาธิปไตย มิให้ได้รับผลกระทบจากการแผ่ขยายอิทธิพลของลัทธิอำนาจนิยม ตลอดจนหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะสร้างแนวคิดความภาคภูมิใจในประเทศของตน และรักษาความสมบูรณ์ของอำนาจอธิปไตยและดินแดนประเทศชาติ ให้คงอยู่ต่อไปอย่างยั่งยืน
การเดินทางเยือนไต้หวันของ Mr. Kniazhytskyi ในครั้งนี้ เป็นบทพิสูจน์ให้เห็นว่า ทั้งสองฝ่ายมีวิสัยทัศน์ร่วมกันในโลกประชาธิปไตยในอนาคต และส่งเสริมให้เกิดความตระหนักรู้ว่า ค่านิยมและผลประโยชน์ของสังคมประชาธิปไตย จำเป็นต้องมุ่งรักษาไว้ให้คงมั่น ผ่านมิติทางการเมือง การทูตและกลาโหม ตลอดจนเชื่อว่า การแลกเปลี่ยนระหว่างกัน จะสามารถช่วยส่งเสริมให้ทั้งสองฝ่ายก้าวสู่อนาคตที่ดีและมีการพัฒนาที่รุดหน้ายิ่งขึ้น