ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
ศธ.ไต้หวันจัด “การประชุมสัมมนาระดับนานาชาติว่าด้วยการเรียนรู้ในรูปแบบ E-Learning ประจำปี 2568” นำเสนอให้เห็นถึงศักยภาพทางการแข่งขันระดับนานาชาติของไต้หวัน
2025-08-14
New Southbound Policy。ศธ.ไต้หวันจัด “การประชุมสัมมนาระดับนานาชาติว่าด้วยการเรียนรู้ในรูปแบบ E-Learning ประจำปี 2568” นำเสนอให้เห็นถึงศักยภาพทางการแข่งขันระดับนานาชาติของไต้หวัน (ภาพจากกระทรวงศึกษาธิการ)
ศธ.ไต้หวันจัด “การประชุมสัมมนาระดับนานาชาติว่าด้วยการเรียนรู้ในรูปแบบ E-Learning ประจำปี 2568” นำเสนอให้เห็นถึงศักยภาพทางการแข่งขันระดับนานาชาติของไต้หวัน (ภาพจากกระทรวงศึกษาธิการ)

กระทรวงศึกษาธิการ วันที่ 13 ส.ค. 68
 
กระทรวงศึกษาธิการไต้หวันจัด “การประชุมสัมมนาระดับนานาชาติว่าด้วยการเรียนรู้ในรูปแบบ E-Learning ประจำปี 2568” ขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ 13 – 14 สิงหาคม 2568 โดยได้ติดต่อเชิญตัวแทนและผู้เชี่ยวชาญจากนานาประเทศ เดินทางมารวมตัวกันยังนครไทจง เพื่อร่วมอภิปรายหารือกันในประเด็นการประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์แบบรู้สร้าง (Generative AI) ในด้านการศึกษา การวิเคราะห์ข้อมูลมหัตด้านการศึกษา และการพัฒนาการเรียนรู้รูปแบบ E-Learning ในอนาคต นอกจากนี้ ในระหว่างการประชุมยังได้จัดแสดงผลสัมฤทธิ์ที่สั่งสมมาจากการผลักดันนโยบาย การประยุกต์ใช้ในทางปฏิบัติ รวมถึงการประสานความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรมและภาควิชาการ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพการเปลี่ยนผ่านด้านการศึกษาที่ค่อยๆ เผยออกมาให้เห็นจากการสั่งสมมาเป็นเวลานาน
 
เนื่องด้วยได้รับผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นหยางหลิว การประชุมในครั้งนี้จึงจัดขึ้นในรูปแบบไฮบริด ทั้งการประชุมในสถานที่จริงและผ่านช่องทางออนไลน์ ในโอกาสนี้ นายอู๋อิ่งเถียร อธิบดีกรมการศึกษาทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ภายใต้สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้แสดงความขอบคุณต่อเหล่าคณาจารย์ เจ้าหน้าที่เทศบาลและสถาบันอุดมศึกษา รวมถึงพันธมิตรในแวดวงการศึกษาและตัวแทนผู้ปกครอง ที่ร่วมใส่ใจและจับมือกันส่งเสริมการเรียนรู้ในยุคดิจิทัล ส่งผลให้ “โครงการพัฒนาการเรียนรู้ E-Learning ในระดับชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้น” ที่ริเริ่มผลักดันโดย ศธ.ไต้หวัน นับตั้งแต่ปี 2565 ค่อยๆ ก่อเกิดเป็นสภาพแวดล้อมทางการศึกษาที่ผสมผสานระหว่างองค์ประกอบทางเทคโนโลยีและการศึกษาเข้าไว้ด้วยกัน โดยยึดกลุ่มผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
 
นายกัวปั๋วเฉิน เลขาธิการบริหารสำนักงานโครงการพัฒนาการเรียนรู้ E-Learning ในระดับชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้น แบ่งปันผลสัมฤทธิ์ที่เกิดจากการผลักดัน โดยได้หยิบยกกรณีตัวอย่างของกลุ่มเป้าหมายที่เข้าเรียนรู้ ผ่าน “เว็บไซต์การเรียนรู้ที่เหมาะกับผู้เรียนรายบุคคล” สะสมมากกว่า 4 ชั่วโมงขึ้นไป ผลคะแนนที่ได้จากการประเมินในภาควิชาภาษาจีน ภาษาอังกฤษและคณิตศาสตร์ จะมีอันดับที่ดีกว่ากลุ่มที่ไม่ได้เข้าใช้งาน หลังผ่านการวิเคราะห์แล้วจึงพบว่า หากใช้ควบคู่กับ Generative AI ผลสัมฤทธิ์ที่ได้จะเด่นชัดมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ หากกลุ่มเป้าหมายสามารถประยุกต์ใช้ฟังก์ชันการเรียนรู้ของเว็บไซต์ฯ ได้หลากหลายมิติ จะยิ่งเป็นการเผยให้เห็นถึงความถี่ที่เพิ่มสูงขึ้นของการเรียนรู้ด้วยตนเอง ซึ่งจะมีผลคะแนนที่สูงกว่ากลุ่มเป้าหมายที่เลือกใช้งานเพียงฟังก์ชันเดียว ซึ่งผลสัมฤทธิ์ต่างๆ ได้ชี้ให้เห็นแล้วว่า การประยุกต์ใช้ฟังก์ชันต่างๆ ในแพลตฟอร์มการเรียนรู้ มีส่วนช่วยในการยกระดับศักยภาพการเรียนรู้ด้วยตนเองของกลุ่มเป้าหมาย สำหรับช่วงเสวนาการแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากนานาประเทศ คณะตัวแทน ผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการจากเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไทย เยอรมนีและสิงคโปร์ ต่างทยอยแบ่งปันประสบการณ์การมุ่งผลักดันการเรียนรู้แบบ E-Learning และการศึกษาในรูปแบบ AI ในประเทศของตน ซึ่งเป็นการกระตุ้นการเสวนาเชิงลึก ระหว่างไต้หวันและประชาคมโลก
 
วันที่ 2 ของการประชุม ได้ติดต่อเชิญตัวแทนในแวดวงวิชาการ และตัวแทนหน่วยงานการศึกษาในระดับท้องถิ่น เข้าร่วมอภิปรายใน 2 ประเด็นหลัก ได้แก่ : “การประยุกต์ใช้ Generative AI เชิงปฏิบัติการในห้องเรียน” และ “ข้อมูลมหัตในระบบการศึกษาสามารถพลิกโฉมการเรียนการสอนได้อย่างไร” โดยมีตัวแทนนักวิชาการจากออสเตรเลีย อังกฤษ ญี่ปุ่นและไต้หวัน เข้าร่วมวิเคราะห์แนวทางการประยุกต์ใช้ AI เป็นตัวช่วยในการเพิ่มพูนประสิทธิภาพของการเรียนการสอน รวมถึงกลไกการวิเคราะห์ข้อมูลสถิติและกระบวนการเรียนรู้ โดยตัวแทนของแต่ละประเทศได้นำเอาประสบการณ์จริงที่ได้จากการปฏิบัติและมุมมองเชิงทฤษฎีจากบริบทของแต่ละประเทศที่แตกต่างกัน มาร่างเป็นแนวทางการบูรณาการ Generative AI เข้าสู่ระบบการเรียนการสอน และเป็นปัจจัยที่พัฒนาไปสู่ความสำเร็จ ตลอดจนเป็นการชี้แนะให้ไต้หวัน คิดพิจารณาแนวทางการเสริมสร้างการบรรลุ AI ในการเรียนการสอนเชิงนวัตกรรม  
 
นอกเหนือจากการประชุมเสวนาและเวทีการบรรยายแล้ว กิจกรรมครั้งนี้ยังได้มีการจัดติดต่อเชิญให้คณะตัวแทนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมจัดแสดงผลสัมฤทธิ์ ในรูปแบบซุ้มนิทรรศการ อาทิ สื่อการเรียนการสอนที่ผสมผสานเข้ากับ Generative AI , โมเดลหลักสูตรที่เน้นสมรรถนะผู้เรียน , โมเดลการเรียนรู้ผ่านเกมบททดสอบ และระบบข้อมูลมหัตด้านการศึกษา
 
ทิศทางในอนาคต ศธ.ไต้หวันจะยังคงมุ่งมั่นผลักดันตามนโยบายการเรียนรู้  E-Learning อย่างต่อเนื่อง โดยในลำดับต่อไปจะทำการวิจัยและพัฒนาสื่อการเรียนรู้ทางดิจิทัล ด้วยการผสมผสานเข้ากับโสตทัศนูปกรณ์ การสร้างปฏิสัมพันธ์ เกมบททดสอบและปัญญาประดิษฐ์รู้สร้าง ควบคู่ไปกับการบริหารแพลตฟอร์มดิจิทัลที่เป็นช่องทางการเรียนรู้ผ่านระบบออนไลน์ อีกทั้งยังจะมุ่งเสริมสร้างกลไกการวิเคราะห์ข้อมูลมหัตด้านการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพื่อเป็นหลักฐานอ้างอิงสถานการณ์การเรียนรู้ของกลุ่มเป้าหมายให้แก่สถาบันการศึกษาและเหล่าคณาจารย์ เพื่อที่จะนำไปปรับใช้ในการกำหนดนโยบายและออกแบบการเรียนการสอนต่อไป สิ่งที่น่าสนใจยิ่งไปกว่านั้นคือ ศธ.ไต้หวันได้วางแผนวิจัยสร้างระบบการเรียนรู้ AI ในยุคสมัยใหม่ ซึ่งครอบคลุมทั้งการส่งเสริมให้ AI สวมบทบาทครูผู้ช่วย พาร์ทเนอร์การเรียนรู้ AI และการชี้แนะในการกำหนดนโยบายด้วย AI
 
อนึ่ง นโยบายภาพรวมที่กำหนดขึ้น ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานนวัตกรรมการเรียนการสอน ประสิทธิภาพการเรียนรู้และความเท่าเทียมทางการศึกษา ควบคู่ไปกับการสร้างหลักสูตรสมรรถนะด้วยระบบ AI การฝึกอบรมคณาจารย์และการวิจัยเชิงปฏิบัติ โดยหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะสรรสร้างอนาคตแห่งการเรียนรู้รูปแบบอัจฉริยะที่มีความยืดหยุ่น ยั่งยืน และเอื้อประโยชน์ต่อส่วนรวม