ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
รมว.เยอรมนี – ญี่ปุ่นจัดการเสวนาเชิงยุทธศาสตร์ขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 ส.ค. ที่ผ่านมา หลังเสร็จสิ้นการประชุม รมว.กต.เยอรมนีได้หยิบยกกฎบัตรสหประชาชาติมาใช้อ้างอิงจุดยืนต่อต้านการใช้กำลังอาวุธในพื้นที่ช่องแคบไต้หวัน
2025-08-21
New Southbound Policy。รมว.เยอรมนี – ญี่ปุ่นจัดการเสวนาเชิงยุทธศาสตร์ขึ้นครั้งแรก เมื่อวันที่ 18 ส.ค. ที่ผ่านมา หลังเสร็จสิ้นการประชุม รมว.กต.เยอรมนีได้หยิบยกกฎบัตรสหประชาชาติมาใช้อ้างอิงจุดยืนต่อต้านการใช้กำลังอาวุธในพื้นที่ช่องแคบไต้หวัน (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ)
รมว.เยอรมนี – ญี่ปุ่นจัดการเสวนาเชิงยุทธศาสตร์ขึ้นครั้งแรก เมื่อวันที่ 18 ส.ค. ที่ผ่านมา หลังเสร็จสิ้นการประชุม รมว.กต.เยอรมนีได้หยิบยกกฎบัตรสหประชาชาติมาใช้อ้างอิงจุดยืนต่อต้านการใช้กำลังอาวุธในพื้นที่ช่องแคบไต้หวัน (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ)

กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 20 ส.ค. 68
 
เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2568 Mr. Johann Wadephul รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเยอรมนี และ Mr. Iwaya Takeshi รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่น ได้จัดการสัมมนาเชิงยุทธศาสตร์ ระหว่างเยอรมนี - ญี่ปุ่น เป็นครั้งแรก หลังเสร็จสิ้นการประชุม รมว. Wadephul จึงได้จัดงานแถลงข่าวขึ้น โดยระบุว่า เยอรมนี – ญี่ปุ่น มีผลประโยชน์ร่วมกันด้านความมั่นคงในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก ที่ครอบคลุมไปด้วยช่องแคบไต้หวัน ทะเลจีนใต้และทะเลจีนตะวันออก จึงรู้สึกเป็นกังวลต่อสถานการณ์ความตึงเครียดในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิกเป็นอย่างมาก รวมทั้งการที่จีนยังคงมุ่งสร้างภัยคุกคามที่รุนแรง เพื่อต้องการเปลี่ยนแปลงสถานภาพเดิมในปัจจุบัน นอกจากนี้ กฎบัตรสหประชาชาติยังได้ระบุชัดเจนว่า ห้ามมีการใช้กำลังอาวุธ โดยหลักการเช่นนี้ก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก ได้เช่นเดียวกัน ในโอกาสนี้ นายหลินเจียหรง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไต้หวัน ขอแสดงความขอบคุณและรู้สึกยินดีต่อการแถลงการณ์ที่เกี่ยวข้องของรมว. Wadephul
 
นอกจากนี้ ในวันที่ 17 สิงหาคม 2568 กต.เยอรมนี ยังได้ประกาศจดหมายข่าวก่อนการออกเดินทางเยือนญี่ปุ่นและอินโดนีเซียของรมว. Wadephul โดยระบุว่า ยิ่งนับวัน จีนยิ่งทวีสร้างความท้าทายด้วยการเข้ารุกรานช่องแคบไต้หวัน ทะเลจีนตะวันออกและทะเลจีนใต้ ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ได้ส่งผลกระทบต่อภูมิภาคยุโรป อีกทั้งยังเป็นการสร้างภัยคุกคามต่อหลักขั้นพื้นฐานของกลไกความร่วมมือระดับโลก โดยพวกเราจะร่วมเผชิญหน้า พร้อมทั้งธำรงปกป้องความสงบเรียบร้อยระหว่างประเทศ ภายใต้พื้นฐานของกฎหมายและกฏกติกาสากล
 
รมว. Wadephul ได้แสดงจุดยืนให้การสนับสนุนต่อสันติภาพในช่องแคบไต้หวัน ด้วยการอ้างอิงหลักการ “การห้ามใช้กำลังอาวุธ” ตามกฎบัตรสหประชาชาติ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า สันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน สอดคล้องต่อผลประโยชน์ร่วมกันของเยอรมนีและกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน และเป็นฉันทามติร่วมกันของประชาคมโลก หลังจากนี้ กต.ไต้หวันจะยังคงมุ่งประสานความร่วมมือกับเยอรมนีและพันธมิตรด้านประชาธิปไตยอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมธำรงปกป้องสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวันและภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก ตลอดจนรักษาไว้ซึ่งเสรีภาพ ประชาธิปไตยและความสงบเรียบร้อยที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานกฎกติกาสากล ให้คงอยู่อย่างยั่งยืนสืบไป