ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
กต.ไต้หวันผลักดัน “การทูตเชิงบูรณาการ” ด้วยการจับมือกับคกก.กิจการชนพื้นเมือง จัด “โครงการฝึกอบรมผู้นำเยาวชนจากประเทศหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก” (PILP) พร้อมติดต่อเชิญเยาวชนชนเผ่าพื้นเมืองไต้หวัน 3 ราย เข้าร่วมรับการฝึกอบรม
2025-08-27
New Southbound Policy。กต.ไต้หวันผลักดัน “การทูตเชิงบูรณาการ” ด้วยการจับมือกับคกก.กิจการชนพื้นเมือง จัด “โครงการฝึกอบรมผู้นำเยาวชนจากประเทศหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก” (PILP) พร้อมติดต่อเชิญเยาวชนชนเผ่าพื้นเมืองไต้หวัน 3 ราย เข้าร่วมรับการฝึกอบรม (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ)
กต.ไต้หวันผลักดัน “การทูตเชิงบูรณาการ” ด้วยการจับมือกับคกก.กิจการชนพื้นเมือง จัด “โครงการฝึกอบรมผู้นำเยาวชนจากประเทศหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก” (PILP) พร้อมติดต่อเชิญเยาวชนชนเผ่าพื้นเมืองไต้หวัน 3 ราย เข้าร่วมรับการฝึกอบรม (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ)

กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 26 ส.ค. 68
 
กระทรวงการต่างประเทศ และ East West Center (EWC) คลังสมองของรัฐฮาวายสหรัฐฯ ร่วมกันจัด “โครงการฝึกอบรมผู้นำเยาวชนจากประเทศหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก” (Pacific Islands Leadership Program with Taiwan, PILP) ครั้งที่ 10 ประจำปี 2568 ซึ่งได้เปิดฉากขึ้น ณ สถาบันฝึกอบรมด้านการทูตและกิจการระหว่างประเทศ (Institute of Diplomacy and International Affairs, IDIA) เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยบรรดาเยาวชนที่เข้าร่วมในปีนี้ มาจากกลุ่มประเทศในพื้นที่แถบมหาสมุทรแปซิฟิก ประกอบด้วย สาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชลล์ , สาธารณรัฐปาเลา , ตูวาลู , ปาปัวนิวกินี , สาธารณรัฐฟิจิ , ราชอาณาจักรตองงา , หมู่เกาะคุกและเฟรนช์พอลินีเชีย เป็นต้น
 
เพื่อบรรลุแนวคิด “การทูตเชิงบูรณาการ” “การทูตชนพื้นเมือง” และ “นักการทูตโดยภาคประชาชน” ที่ยื่นเสนอโดยนายหลินเจียหรง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไต้หวัน ในปีนี้ กต.ไต้หวันจึงได้ประสานความร่วมมือกับคณะกรรมการกิจการชนพื้นเมือง ติดต่อเชิญเยาวชนชนเผ่าพื้นเมืองไต้หวัน 3 ราย เข้ารับการฝึกอบรมทั้งในรัฐฮาวายและไต้หวันตลอดหลักสูตร ทั้งนี้ เพื่ออัดฉีดพลังขับเคลื่อนรูปแบบใหม่เข้าสู่ความเชื่อมโยงทางการทูตและวัฒนธรรม ระหว่างไต้หวัน - กลุ่มชาติพันธุ์ออสโตรนีเซียน ซึ่งหลักสูตรโครงการประกอบด้วย ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ , ความมั่นคงในภูมิภาค , สภาพแวดล้อมที่ยั่งยืน , ความร่วมมือด้านการแพทย์และการวิจัยกลุ่มชาติพันธุ์ออสโตรนีเซียน เป็นต้น ระหว่างนี้ คณะผู้เรียนจะเข้าพักแรมในหมู่บ้านชนพื้นเมืองในตำบลหม่าเจีย (Majia) ที่ตั้งอยู่ในเมืองผิงตง
 
นายเก๋อเป่าเซวียน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไต้หวัน ทำหน้าที่เป็นประธานในพิธีเปิดตัวโครงการในครั้งนี้ โดยรมช.เก๋อฯ ได้กล่าวให้การต้อนรับคณะผู้เรียนที่เดินทางมาเยือนจากกลุ่มประเทศในพื้นที่แถบมหาสมุทรแปซิฟิก พร้อมระบุว่า ไต้หวันเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางกลุ่มชาติพันธุ์ มีวัฒนธรรมและภาษาท้องถิ่นจำนวนมาก ประกอบกับงานหัตถกรรม ศิลปะรอยสักและวัฒนธรรมอาหารของกลุ่มชนพื้นเมืองและกลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่มหาสมุทรแปซิฟิก ก็มีความคล้ายคลึงกันหลายส่วน แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงที่มีต่อกันอย่างลึกซึ้งในแง่วัฒนธรรมดั้งเดิม หลังจากนี้ กต.ไต้หวันไม่เพียงแต่จะมุ่งเสริมสร้างความสัมพันธ์รูปแบบหุ้นส่วนเชิงลึกในแง่มุมต่างๆ อีกทั้งยังจะกระตุ้นให้เกิดการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างกลุ่มชนพื้นเมืองไต้หวันและกลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่แถบมหาสมุทรแปซิฟิกอีกด้วย
 
รมช.เก๋อฯ กล่าวว่า กลุ่มประเทศในแถบมหาสมุทรแปซิฟิกและไต้หวัน ต่างต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ความตึงเครียดในภูมิภาค และวิกฤตที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ อย่างไรก็ตาม ไต้หวันมีศักยภาพและมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะสร้างคุณประโยชน์ด้านความมั่นคงในระดับภูมิภาค พร้อมทั้งยินดีที่จะช่วยเสริมสร้างศักยภาพให้แก่กลุ่มประเทศต่างๆ ในพื้นที่แถบมหาสมุทรแปซิฟิก ควบคู่ไปกับการพัฒนาความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมและการบริหารปกครองในรูปแบบประชาธิปไตย
 
Ms. Karin Lang รองผู้อำนวยการสถาบันอเมริกาในไต้หวัน เน้นย้ำขณะปราศรัยว่า ไต้หวันครองบทบาทผู้นำสำคัญในด้านการบริหารปกครองในรูปแบบประชาธิปไตยและสาธารณสุข อีกทั้งยังสวมบทบาทสำคัญในด้านเซมิคอนดักเตอร์และเทคโนโลยี AI สหรัฐฯ ในฐานะประเทศในพื้นที่มหาสมุทรแปซิฟิก ยืนหยัดในการกำหนดให้ภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก เป็นฐานสำคัญของนโยบายการต่างประเทศ ควบคู่ไปกับการมุ่งผลักดันการค้า การลงทุนและการแลกเปลี่ยนทางพาณิชย์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกรอบความร่วมมือ Global Cooperation and Training Framework (GCTF) ที่ร่วมผลักดันโดยสหรัฐฯ ไต้หวัน ญี่ปุ่น แคนาดาและออสเตรเลีย ภายใต้กรอบความร่วมมือข้างต้นนี้ เราได้ทำการบ่มเพาะบุคลากรผู้เชี่ยวชาญในกลุ่มประเทศพื้นที่มหาสมุทรแปซิฟิก ทั้งในด้านการรับมือกับสถานการณ์ภัยพิบัติ สาธารณสุขและความมั่นคงทางไซเบอร์ เป็นต้น แสดงให้เห็นถึงคำมั่นสัญญาในการผูกสัมพันธ์ทางความร่วมมือ และการเสริมสร้าง่ความยืดหยุ่นในภูมิภาค
 
Ms. Mary Therese Perez Hattori ผู้อำนวยการโครงการพัฒนาประเทศในพื้นที่แถบมหาสมุทรแปซิฟิก EWC เน้นย้ำระหว่างการปราศรัยว่า สิ่งที่มีค่ามากที่สุดในสังคมยุคปัจจุบัน มิใช่เงินทอง แต่เป็นความสัมพันธ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน โครงการ PILP ที่ร่วมจัดโดยกต.ไต้หวัน และ EWC ถือเป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่จะส่งเสริมให้เกิดเครือข่ายความร่วมมือระหว่างผู้นำในภูมิภาค ทั้งนี้ เพื่อช่วยบ่มเพาะบุคลากรผู้นำที่เปี่ยมศักยภาพให้แก่นานาประเทศต่อไปในอนาคต