ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
สนง.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติไต้หวัน จับมือกับหุ้นส่วนนานาชาติ ยกระดับคุณภาพด้านการดูแลสุขภาพ ด้วยการจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเอเปคว่าด้วยการจัดตั้งกลไกการดูแลสุขภาพแบบบูรณาการโดยยึดมนุษย์เป็นศูนย์กลาง
2025-09-03
New Southbound Policy。สนง.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติไต้หวัน จับมือกับหุ้นส่วนนานาชาติ ยกระดับคุณภาพด้านการดูแลสุขภาพ ด้วยการจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเอเปคว่าด้วยการจัดตั้งกลไกการดูแลสุขภาพแบบบูรณาการโดยยึดมนุษย์เป็นศูนย์กลาง (ภาพจากกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ)
สนง.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติไต้หวัน จับมือกับหุ้นส่วนนานาชาติ ยกระดับคุณภาพด้านการดูแลสุขภาพ ด้วยการจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเอเปคว่าด้วยการจัดตั้งกลไกการดูแลสุขภาพแบบบูรณาการโดยยึดมนุษย์เป็นศูนย์กลาง (ภาพจากกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ)

กระทรวงสาธารณสุข วันที่ 2 ก.ย. 68
 
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติไต้หวัน (National Health Insurance, NHI) มีกำหนดการจัด “การประชุมเชิงปฏิบัติการเอเปคว่าด้วยการจัดตั้งกลไกการดูแลสุขภาพแบบบูรณาการโดยยึดมนุษย์เป็นศูนย์กลาง” (APEC Workshop on Strategies to Enhance Integrated People-Centered Health Care) ขึ้น ณ โรงแรม Marriott Taipei เมื่อวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา โดยได้ติดต่อเชิญตัวแทนเขตเศรษฐกิจเอเปคในภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก ประกอบด้วย ออสเตรเลีย , แคนาดา , ญี่ปุ่น , เกาหลีใต้ , มาเลเซีย , สิงคโปร์ , ไทยและเวียดนาม เข้าร่วมอภิปรายกันในประเด็น 3 หัวข้อ ได้แก่ : (1) “แนวทางการปฏิบัติที่ดีที่สุด กรอบโครงสร้างและการรับผิดชอบต่อผลที่ตามมาจากการสนับสนุนกลไกการดูแลสุขภาพแบบบูรณาการที่ยึดมนุษย์เป็นศูนย์กลาง (2) “การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการจัดตั้งกลไกการบริการดูแลแบบบูรณาการ ควบคู่ไปกับการลดความเหลื่อมล้ำด้านสุขภาพ” และ (3) “กลไกการดูแลแบบบูรณาการที่มีประสิทธิภาพ : การเข้าร่วมของชุมชน ความร่วมมือแบบข้ามหน่วยงาน และการยกระดับคุณภาพและผลงาน”
 
หลินจิ้งอี๋ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ กล่าวขณะปราศรัยว่า เนื่องด้วยโครงสร้างประชากรที่มีสัดส่วนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงส่งผลให้อัตราการเกิดโรคเรื้อรังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้อง ก็เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน ก่อเกิดเป็นความท้าทายต่อระบบสาธารณสุขของไต้หวัน ด้วยเหตุนี้ การพัฒนากลไกการดูแลแบบบูรณาการที่ยึดมนุษย์เป็นศูนย์กลาง เพื่อส่งมอบการดูแลที่เท่าเทียม การรักษาเฉพาะบุคคลและการรวบรวมคณะผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์จากสาขาต่างๆ เข้าด้วยกัน จึงกลายมาเป็นภารกิจสำคัญของนโยบายภาครัฐในปัจจุบัน ตลอดหลายปีมานี้ NHI มุ่งผลักดันกลไกดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการดำเนินการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลตามกระแสการพัฒนาทางเทคโนโลยี ด้วยการจัดตั้งแพลตฟอร์มบูรณาการข้อมูลการดูแลสุขภาพขั้นพื้นฐานเฉพาะบุคคล ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการเข้ารับการรักษาที่ครอบคลุมให้แก่ประชาชนแล้ว ยังช่วยยกระดับสภาพแวดล้อมทางการแพทย์ในภาพรวม เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของบุคลากรทางการแพทย์อีกด้วย
 
การยกระดับสวัสดิการด้านสุขภาพของภาคประชาชน เป็นภารกิจสำคัญของ NHI ส่วนการส่งเสริมการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพ เป็นปัจจัยที่สำคัญยิ่งต่อการบรรลุหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เพื่อรับมือกับความท้าทายรูปแบบใหม่ด้านสุขภาพ หลายปีมานี้ NHI จึงมุ่งผลักดันโครงการดูแลสุขภาพแบบบูรณาการหลายรายการอย่างกระตือรือร้น อาทิ “โครงการดูแลสุขภาพแบบบูรณาการของอายุรแพทย์” เพื่อส่งมอบการบริการทางการแพทย์แบบบูรณาการอย่างครอบคลุมและต่อเนื่องให้แก่ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง นอกจากนี้ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำด้านสุขภาพ ระหว่างพื้นที่ชนบทและตัวเมือง NHI จึงผลักดัน “แผนปฏิบัติการดูแลสุขภาพเชิงบูรณาการแบบองค์รวม สำหรับประชาชนในพื้นที่ชนบท” โดยส่งเสริมให้สถานพยาบาล รวบรวมทีมบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อส่งมอบการบริการในมิติที่หลากหลาย อาทิ การสร้างเสริมสุขภาพ เวชศาสตร์การป้องกัน การวินิจฉัยโรค การติดตามอาการผู้ป่วยเป็นรายบุคคล และการดูแลสุขภาพ เป็นต้น พร้อมผนวกเข้ากับเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อส่งเสริมการเข้าถึงการบริการทางการแพทย์ในพื้นที่ชนบทห่างไกลและเกาะรอบนอกไต้หวัน เพื่อบรรลุเป้าหมายความเสมอภาคด้านสุขภาพ