กระทรวงพัฒนาดิจิทัล วันที่ 3 ก.ย. 68
นายหลินอี๋จิ้ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาดิจิทัล (Ministry of Digital Affairs, MODA) คนใหม่ เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 กันยายน 2568 พร้อมทั้งกล่าวปราศรัยในระหว่างงานเลี้ยงน้ำชาสื่อ ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา โดยระบุว่า เมื่อเผชิญหน้ากับการแข่งขันทางดิจิทัลของโลกที่นับวันยิ่งทวีความเข้มข้นขึ้น MODA จะจับมือกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรมและภาควิชาการ มุ่งเน้นการดำเนินงานตามพันธกิจ 4 มิติหลัก ได้แก่ : “การส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรม AI” , “การเสริมสร้างความยืดหยุ่นด้านความมั่นคงทางไซเบอร์” , “การดำเนินมาตรการปรามปรามการฉ้อโกง” และ “การเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานรัฐบาลดิจิทัล” เพื่อผลักดันให้ประเทศก้าวสู่ประเทศต้นแบบด้านดิจิทัลที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรม ความมั่นคงและยึดมนุษย์เป็นศูนย์กลาง
รมว.หลินฯ กล่าวว่า ในปัจจุบัน AI กำลังส่งผลกระทบต่อโครงสร้างอุตสาหกรรมระดับโลก ภายใต้แนวโน้มสถานการณ์เช่นนี้ MODA จะเดินหน้าจัดตั้งระบบนิเวศอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ที่มั่นคง ผ่านเครื่องมือทางนโยบาย 5 รายการ ประกอบด้วย การประมวลผล, ข้อมูล, บุคลากร, การประชาสัมพันธ์และเงินทุน ทั้งนี้ เพื่อช่วยส่งเสริมการพัฒนาขีดความสามารถของภาคอุตสาหกรรม และกระตุ้นให้เกิดความร่วมมือระหว่างประเทศ ประกอบกับความมั่นคงทางไซเบอร์ได้กลายมาเป็นปัจจัยสำคัญของความมั่นคงระดับประเทศชาติ โดยหลังจากนี้ MODA จะผนึกกำลังอุตสาหกรรรมความมั่นคงทางไซเบอร์ของภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างกลไกการป้องกันในหน่วยงานราชการ โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญและระบบห่วงโซ่อุตสาหกรรม
ไต้หวันมีอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ที่เปี่ยมศักยภาพและความยืดหยุ่น อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ไม่สามารถขาดได้ในระบบห่วงโซ่ดาวเทียมโลก เมื่อผนวกรวมกับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ จะสามารถหลอมรวมเป็นแกนหลักสำคัญของระบบห่วงโซ่รูปแบบประชาธิปไตย โดยในอนาคต MODA จะยังคงมุ่งผลักดันการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมความมั่นคงทางไซเบอร์ ตลอดจนกระตุ้นให้ผู้ประกอบการคำนึงถึงการพัฒนาทางเศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสังคม ในระหว่างการดำเนินภารกิจ
ต่อประเด็นที่สังคมเฝ้าจับตาให้ความสนใจ－ปัญหาการฉ้อโกง รมว.หลินฯ เน้นย้ำว่า MODA จะยังคงเดินหน้าผลักดันภารกิจการป้องกันและปราบปรามการฉ้อโกง ผ่านระบบกฎหมาย เทคโนโลยีและการพาณิชย์ ในแง่กฎหมาย ได้มีการบัญญัติกฎหมายพิเศษว่าด้วยการปราบปรามการฉ้อโกง และบังคับใช้ระบบการยืนยันตัวตนผู้ลงโฆษณา ในแง่เทคโนโลยีได้มีการจัดตั้ง “เว็บไซต์การตรวจสอบรายงานการฉ้อโกงผ่านระบบออนไลน์” ควบคู่ไปกับการฝังรหัสคิวอาร์ที่ไม่ซ้ำกันลงในบรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี DNS RPZ และข้อความ SMS ของหน่วยงานราชการ ส่วนในเชิงพาณิชย์ ได้มีการประสานความร่วมมือกับ Google , Meta และ LINE อย่างกระตือรือร้น เพื่อส่งเสริมให้แพลตฟอร์มเหล่านี้มีบทบาทเชิงรุกในการป้องกันการฉ้อโกง และเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันการทุจริตในภาพรวม
ในแง่โครงสร้างพื้นฐานรัฐบาลดิจิทัล รมว.หลินฯ กล่าวว่า MODA จะส่งเสริมการพัฒนากลไกการบริการเชิงบูรณาการ โดยคำนึงถึงเหตุการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวันของผู้คน พร้อมทั้งนำเทคโนโลยี AI มาใช้เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการบริหารจัดการ และมุ่งผลักดันการจัดตั้ง “กระเป๋าเงินดิจิทัล” อย่างต่อเนื่อง ซึ่งบัตรดิจิทัลไม่เพียงแต่จะเป็นรากฐานของโลกดิจิทัลในอนาคต แต่ฟังก์ชัน “การเลือกเปิดเผยเฉพาะข้อมูลที่จำเป็นต่อการทำธุรกรรมหรือการยืนยันตัวตน” ยังสามารถช่วยคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ท้ายนี้ รมว.หลินฯ เน้นย้ำว่า อุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงระดับโลก โดยเฉพาะการพัฒนานวัตกรรมของอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ มีต้นกำเนิดมาจากตลาดภาคเอกชนที่มีการแข่งขันอย่างเสรี โดยพันธกิจหลักของ MODA คือการจัดสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการพัฒนาด้าน AI , ความมั่นคงทางไซเบอร์และการบริการข้อมูลสารสนเทศในไต้หวัน ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้อุตสาหกรรมสารสนเทศ สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ในระหว่างการแก้ไขปัญหาทางสังคม
