ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
กระทรวงพัฒนาดิจิทัลจัดการประชุมนานาชาติเอเปค ภายใต้ชื่อ “เทคโนโลยีคุ้มครองความเป็นส่วนตัว : โอกาสและความท้าทาย” โดยอาศัยเทคโนโลยีเกิดใหม่ในการสร้างรากฐานความเชื่อถือทางดิจิทัล
2025-09-16
New Southbound Policy。กระทรวงพัฒนาดิจิทัลจัดการประชุมนานาชาติเอเปค ภายใต้ชื่อ “เทคโนโลยีคุ้มครองความเป็นส่วนตัว : โอกาสและความท้าทาย” โดยอาศัยเทคโนโลยีเกิดใหม่ในการสร้างรากฐานความเชื่อถือทางดิจิทัล (ภาพจากกระทรวงพัฒนาดิจิทัล)
กระทรวงพัฒนาดิจิทัลจัดการประชุมนานาชาติเอเปค ภายใต้ชื่อ “เทคโนโลยีคุ้มครองความเป็นส่วนตัว : โอกาสและความท้าทาย” โดยอาศัยเทคโนโลยีเกิดใหม่ในการสร้างรากฐานความเชื่อถือทางดิจิทัล (ภาพจากกระทรวงพัฒนาดิจิทัล)

กระทรวงพัฒนาดิจิทัล วันที่ 12 ก.ย. 68
 
เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2568 กระทรวงพัฒนาดิจิทัลไต้หวัน (Ministry of Digital Affairs, MODA) จัดการประชุมนานาชาติเอเปค ภายใต้ชื่อ “เทคโนโลยีคุ้มครองความเป็นส่วนตัว : โอกาสและความท้าทาย” โดยได้ติดต่อเชิญให้คณะทำงานด้านเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy Steering Group, DESG) และผู้เชี่ยวชาญด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและความมั่นคงทางไซเบอร์ จากแคนาดา เบลเยี่ยม ชิลี ญี่ปุ่นและไทย เดินทางมารวมตัวกันในกรุงไทเป เพื่อร่วมอภิปรายกันในแง่มุมต่างๆ ของเทคโนโลยีคุ้มครองความเป็นส่วนตัว (Privacy Enhancing Technologies, PETs) ทั้งการกำหนดนโยบาย นวัตกรรมทางเทคโนโลยี และสถานการณ์การพัฒนาล่าสุดและความท้าทายในด้านการประยุกต์ใช้เชิงปฏิบัติ
 
นางหลินอี๋จิ้ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาดิจิทัล กล่าวว่า เทคโนโลยี AI สวมบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงระดับโลก ส่วนข้อมูลคุณภาพสูงจำนวนมาก ถือเป็นกุญแจสำคัญในการจัดตั้งโมเดลจำลอง อย่างไรก็ตาม เมื่อใดที่รัฐบาลและภาคธุรกิจเปิดเผยข้อมูลเพื่อการประยุกต์ใช้ AI เชิงนวัตกรรม แนวทางการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จึงได้กลายมาเป็นประเด็นสำคัญ โดยการประชุมในครั้งนี้ถือเป็นการตอบสนองต่อวิกฤตความท้าทายข้างต้น ด้วยการจัดการแลกเปลี่ยนระดับนานาชาติ เพื่อมุ่งสำรวจความสมดุลของกลไกการรักษาความเป็นส่วนตัว และการประยุกต์ใช้ข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ  
 
MODA แถลงว่า การประชุมครั้งนี้ได้รับทุนสนับสนุนจากเอเปค ซึ่งถือเป็นหลักชัยสำคัญของไต้หวัน ในการส่งเสริมความร่วมมือด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลระหว่างประเทศ โดยหัวข้อการประชุมครั้งนี้ ครอบคลุมใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ : การออกแบบนโยบายและระบบการบริหาร การประยุกต์ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี รวมถึงการแบ่งปันการประยุกต์ใช้เชิงปฏิบัติ โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จากการประชุมแลกเปลี่ยนข้ามพรมแดนในครั้งนี้ จะสามารถเสริมสร้างความเชื่อมโยงทางความร่วมมือระหว่างไต้หวันกับกลุ่มประเทศ / เขตเศรษฐกิจของเอเปค ทั้งนี้ เพื่อเดินหน้าจัดตั้งระบบนิเวศดิจิทัลที่เชื่อถือได้และเปี่ยมด้วยความยืดหยุ่น
 
ช่วงเช้าของการประชุม Ms. Natascha Gerlach ผู้อำนวยการนโยบายคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของคลังสมองด้านนโยบายสารสนเทศ (Centre for Information Policy Leadership,CIPL) ในกรุงบรัสเซลล์ ประเทศเบลเยี่ยม ได้แสดงปาฐกถา โดยเน้นย้ำว่า เทคโนโลยีคุ้มครองความเป็นส่วนตัว มีส่วนช่วยในการส่งเสริมความร่วมมือด้านนวัตกรรม AI และความร่วมมือแบบข้ามพรมแดน ระหว่างภาคธุรกิจและรัฐบาล ซึ่งสวมบทบาทสำคัญในการบริหารจัดการข้อมูลสารสนเทศระดับสากล จากนั้น เข้าสู่การประชุมในหัวข้อ “การออกแบบนโยบายและระบบการบริหาร” โดยมี Ms. Runa Augus ผู้อำนวยการระดับอาวุโสของกระทรวงวิทยาศาสตร์ นวัตกรรมและการพัฒนาทางเศรษฐกิจของแคนาดา และ Mr. Kohei KURIHARA ประธานคณะกรรมการบริหาร Privacy by Design Lab ของญี่ปุ่น ทยอยแบ่งปันประสบการณ์การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีคุ้มครองความเป็นส่วนตัว ในการไหลเวียนข้อมูลข้ามพรมแดน และการประสานความร่วมมือแบบพหุภาคี
 
ส่วนการประชุมช่วงบ่าย มุ่งเน้นไปที่หัวข้อ “นวัตกรรมเทคโนโลยี” และ “การประยุกต์ใช้เชิงปฏิบัติ” โดยมีนายปกรณ์ ทองจีน ประธานคณะกรรมการบริหารของบริษัท Security Pitch จากไทย และ Ms. Claudia Negri-Ribalta นักวิจัยสถาบันการศึกษาระดับสูงแห่งมหาวิทยาลัยลักเซมเบิร์ก ทยอยแบ่งปันประเด็นความท้าทายที่ภาคอุตสาหกรรมต้องเผชิญหน้า ในระหว่างการดำเนินการตามกฎหมายและวิศวกรรมซอฟต์แวร์ นอกจากนี้ ดร.โหยวเจียมู่ รองศาสตร์จารย์คณะวิศวกรรมไฟฟ้าแห่งมหาวิทยาลัยหยางหมิงเจียวทง (NYCU) และ  Ms. Jun Chu ผู้อำนวยการด้านความมั่นคงทางไซเบอร์และนโยบายความเป็นส่วนตัวในภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิกของบริษัท Google สาขาประเทศสิงคโปร์ ต่างเปิดการอภิปรายกันในแนวทางการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ที่คำนึงถึงประสิทธิภาพของข้อมูลและการนำเทคโนโลยีเข้าประยุกต์ใช้ในพื้นที่ ผ่านมุมมองการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในทางปฏิบัติ