ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
รมว.กต.ไต้หวันนำคณะตัวแทนเดินทางเยือนเช็ก อิตาลีและออสเตรีย พร้อมเข้าตรวจการณ์สถานเอกอัครราชทูตไต้หวันในนครรัฐวาติกัน เพื่อมุ่งสร้างความสัมพันธ์อันดี ระหว่างไต้หวัน – กลุ่มประเทศยุโรป ในเชิงลึก ภายใต้หลักการ “การทูตเชิงบูรณาการ”
2025-09-22
New Southbound Policy。รมว.กต.ไต้หวันนำคณะตัวแทนเดินทางเยือนเช็ก อิตาลีและออสเตรีย พร้อมเข้าตรวจการณ์สถานเอกอัครราชทูตไต้หวันในนครรัฐวาติกัน เพื่อมุ่งสร้างความสัมพันธ์อันดี ระหว่างไต้หวัน – กลุ่มประเทศยุโรป ในเชิงลึก ภายใต้หลักการ “การทูตเชิงบูรณาการ” (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ)
รมว.กต.ไต้หวันนำคณะตัวแทนเดินทางเยือนเช็ก อิตาลีและออสเตรีย พร้อมเข้าตรวจการณ์สถานเอกอัครราชทูตไต้หวันในนครรัฐวาติกัน เพื่อมุ่งสร้างความสัมพันธ์อันดี ระหว่างไต้หวัน – กลุ่มประเทศยุโรป ในเชิงลึก ภายใต้หลักการ “การทูตเชิงบูรณาการ” (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ)

กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 21 ก.ย. 68
 
นายหลินเจียหรง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไต้หวัน มีกำหนดการเดินทางเยือนสาธารณรัฐเช็ก สาธารณรัฐอิตาลี และสาธารณรัฐออสเตรีย ในช่วงระหว่างวันที่ 11 – 20 กันยายน 2568 ซึ่งนอกจากจะเข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับ “ปีแห่งวัฒนธรรมไต้หวันในยุโรป ประจำปี 2568” แล้ว ในระหว่างนี้ รมว.หลินฯ ยังได้เข้าร่วมตรวจการณ์สถานเอกอัครราชทูตไต้หวันในนครรัฐวาติกัน พร้อมทั้งเข้าร่วมหารือแลกเปลี่ยนกับนักการเมืองจากประเทศต่างๆ และมิตรสหายในแวดวงเศรษฐกิจ การค้า เทคโนโลยีและวัฒนธรรม ได้แก่ Mr. Miloš Vystrčil ประธานวุฒิสภาเช็ก , Ms. Markéta Pekarová Adamová ประธานสภาผู้แทนราษฎรเช็ก , Mr. Marek Benda ประธานกลุ่มพันธมิตรไต้หวันในรัฐสภาเช็ก , Mr. Gian Marco Centinaio รองประธานวุฒิสภาอิตาลี , Mr. Lucio Malan ประธานสมาคมพันธมิตรไต้หวันในรัฐสภาอิตาลี , Mr. Günther Ruprecht รองประธานสภาออสเตรีย และ Mr. Werner Amon ประธานสมาคมออสเตรีย - ไต้หวัน
 
รมว.หลินฯ เน้นย้ำว่า หัวข้อกิจกรรม "ปีแห่งวัฒนธรรมไต้หวันในยุโรป" คือ "จากเทคโนโลยีสู่วัฒนธรรม" โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการเผยแพร่ให้ประชาคมโลกเห็นว่า นอกจากเซมิคอนดักเตอร์ที่สร้างชื่อเสียงโด่งดังในระดับโลกแล้ว กลุ่มชาติพันธ์ที่หลากหลายในไต้หวัน ยังร่วมกันปลูกฝังให้เกิดจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งและยืดหยุ่น รวมไปถึงศักยภาพความคิดสร้างสรรค์ที่มีความอุดมสมบูรณ์ เฉกเช่นมหาสมุทรที่กว้างใหญ่ โดยพวกเราต้องการอาศัยปัจจัยทางพหุวัฒนธรรม เป็นตัวนำขับเคลื่อนความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีระดับโลก

ในระหว่างการเดินทางเยือนเช็ก รมว.หลินฯ นอกจากจะเข้าร่วมพิธีเปิด “นิทรรศการพิเศษกู้กง” และร่วมรับชมละครเวที ในชื่อ “Formosa Roadside Wedding Banquet” ที่จัดแสดงโดยวงดุริยางค์แห่งชาติไต้หวัน ( National Chinese Orchestra Taiwan, NCO) แล้ว ยังได้เดินทางเยือนเมืองเบอร์โน (Brno) เพื่อเข้าเยี่ยมชม “ศูนย์วิจัยและออกแบบแผ่นชิปทันสมัย” (Advanced Chip Design Research Center, ACDRC) ภายใต้โครงการความยืดหยุ่น ระหว่างไต้หวัน – เช็ก โดยรมว.หลินฯ เน้นย้ำว่า เทคโนโลยี AI เป็นองค์ประกอบสำคัญของการพัฒนาประเทศชาติในอนาคต ที่มีศักยภาพและโอกาสธุรกิจอันไร้ขีดจำกัด โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า อุตสาหกรรมเทคโนโลยี AI จะได้รับการกำหนดเข้าสู่ส่วนหนึ่งในความร่วมมือของโครงการความยืดหยุ่น 2.0 ระหว่างไต้หวัน – เช็ก
 
ในโอกาสนี้ รมว.หลินฯ ยังได้เดินทางเข้าเยี่ยมชมบริษัท Inventec และ Wistron InfoComm ที่จัดตั้งโรงงานสาขาในเช็ก โดยรมว.หลินฯ ให้การยอมรับต่อเหล่าผู้ประกอบการชาวไต้หวันที่เข้าลงทุนในเช็กอย่างกระตือรือร้น ซึ่งเป็นการวางรากฐานสำคัญของความสัมพันธ์อันดี ระหว่างไต้หวัน - เช็ก ขณะเดียวกัน รมว.หลินฯ ก็ได้ทำความเข้าใจกับโอกาสและความท้าทายด้านการลงทุนในพื้นที่ของนักธุรกิจชาวไต้หวัน
 
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 17 กันยายน รมว.หลินฯ ยังได้เข้าร่วมงานรับชมผลงานศิลปวัฒนธรรมที่จัดแสดงโดยคณะนักแสดง U Theatre ณ หอดนตรี Sala Santa Cecilia กรุงโรม ประเทศอิตาลี เพื่อถ่ายทอดจิตวิญญาณของไต้หวันที่มีความแข็งแกร่งยืดหยุ่น ผ่านการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม พร้อมกันนี้ รมว.หลินฯ ยังกล่าวปราศรัยว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน - อิตาลี ตั้งอยู่บนพื้นฐานค่านิยมที่ยึดมั่นร่วมกัน อันจะเห็นได้จากการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม เศรษฐกิจและการค้าแบบทวิภาคี ที่ดำเนินไปอย่างใกล้ชิด
 
ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันนี้ รมว.หลินฯ ยังได้เข้าตรวจการณ์ในสถานเอกอัครราชทูตไต้หวันในนครรัฐวาติกัน โดยหวังที่จะเห็นเจ้าหน้าที่มุ่งเสริมสร้างสัมพันธไมตรี ระหว่างไต้หวัน – นครรัฐวาติกัน ให้ดำเนินไปในทิศทางเชิงลึกอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ รมว.หลินฯ ยังทำหน้าที่เป็นตัวแทนภาครัฐ บริจาคเงินจำนวน 100,000 ยูโรเพื่อการบูรณะสร้างสกาลาบรานี (Scalabrini) ทั้งนี้ เพื่อขานรับต่อจิตวิญญาณการส่งมอบความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมที่สมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 14 เน้นย้ำเสมอมา
 
ในระหว่างการเยือนออสเตรีย รมว.หลินฯ ยังได้เข้าเดินทางเยือนรัฐสภาออสเตรีย ภายใต้การนำของสมาชิกสภาในกลุ่มพันธมิตรไต้หวัน พร้อมร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน - ออสเตรีย กับแวดวงนักการเมือง นักธุรกิจและเจ้าหน้าที่วัฒนธรรม ซึ่งที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายได้ประสานความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด ทั้งในด้านระบบสารสนเทศและการติดต่อสื่อสาร อุตสาหกรรมเครื่องจักรกล เป็นต้น โดยในอนาคต รมว.หลินฯ หวังจะเห็นทั้งสองฝ่ายเดินหน้าแลกเปลี่ยนและไปมาหาสู่ซึ่งกันและกัน เพื่อยกระดับความสัมพันธ์แบบทวิภาคี ให้ก้าวสู่ทิศทางเชิงลึกต่อไป
 
ก่อนปิดฉากการเดินทางเยือนกลุ่มประเทศทวีปยุโรปของรมว.หลินฯ ในครั้งนี้ รมว.หลินฯ ได้ให้สัมภาษณ์แก่ผู้สื่อข่าวในออสเตรียว่า กิจกรรมเช่นนี้ยังจะยังคงดำเนินต่อไปในปี 2569 ซึ่งได้มีการจัดทำงบประมาณ วางแผนบูรณาการทรัพยากรแบบข้ามหน่วยงาน ผนวกเข้ากับสำนักงานตัวแทนรัฐบาลไต้หวันในกลุ่มประเทศยุโรป รวม 30 แห่ง เพื่อสร้างเสริมแบรนด์  "ปีแห่งวัฒนธรรมไต้หวันในยุโรป" ให้สอดคล้องตามมาตรฐานระดับสากล
 
การเดินทางเยือนกลุ่มประเทศทวีปยุโรปของรมว.หลินฯ ในครั้งนี้ สร้างความไม่พอใจให้แก่รัฐบาลจีนเป็นอย่างมาก แต่รมว.หลินฯ ก็สามารถรับมือได้อย่างมีสติ โดยรมว.หลินฯ แสดงทรรศนะว่า ชาวยุโรปต่างตระหนักดีว่า เสรีภาพและประชาธิปไตยของไต้หวัน ครอบคลุมรวมถึงพหุวัฒนธรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่จีนไม่มี “แต่มิได้หมายความว่า จีนไม่มีวัฒนธรรม เพียงแต่ประเทศลัทธิอำนาจนิยม มักจะใช้อำนาจทางการเมืองควบคุมวัฒนธรรม” ซึ่งรมว.หลินฯ คิดว่า ความแตกต่างที่เด่นชัดที่สุด ระหว่างไต้หวัน – จีน ก็คือมุมมองทางวัฒนธรรม
 
ในอนาคต กต.ไต้หวันจะยังคงเดินหน้าเสริมสร้างความยืดหยุ่นทางประชาธิปไตย กับกลุ่มประเทศทวีปยุโรปที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน ภายใต้หลักการ “การทูตเชิงบูรณาการ” จัดสร้างพันธมิตรที่มีค่านิยมที่เกื้อหนุนกัน ผ่านกิจกรรมทางวัฒนธรรม ทั้งนี้ เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมโยงทางค่านิยม ระหว่างไต้หวัน – ยุโรป ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้าและเทคโนโลยีแบบทวิภาคี ภายใต้พื้นฐานค่านิยมที่ยึดมั่นร่วมกันสืบไป