ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
ปธน.ไล่ชิงเต๋อให้การต้อนรับ Mr. Luke Lindberg รัฐมนตรีช่วยว่าการฝ่ายการค้าผลผลิตเกษตรและกิจการเกษตรระหว่างประเทศของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ พร้อมด้วยคณะตัวแทน
2025-10-01
New Southbound Policy。ปธน.ไล่ชิงเต๋อให้การต้อนรับ Mr. Luke Lindberg รัฐมนตรีช่วยว่าการฝ่ายการค้าผลผลิตเกษตรและกิจการเกษตรระหว่างประเทศของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ พร้อมด้วยคณะตัวแทน (ภาพจากทำเนียบประธานาธิบดี)
ปธน.ไล่ชิงเต๋อให้การต้อนรับ Mr. Luke Lindberg รัฐมนตรีช่วยว่าการฝ่ายการค้าผลผลิตเกษตรและกิจการเกษตรระหว่างประเทศของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ พร้อมด้วยคณะตัวแทน (ภาพจากทำเนียบประธานาธิบดี)

ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 30 ก.ย. 68

เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 30 กันยายน 2568 ประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ ผู้นำไต้หวัน ได้ให้การต้อนรับ Mr. Luke Lindberg รัฐมนตรีช่วยว่าการฝ่ายการค้าผลผลิตเกษตรและกิจการเกษตรระหว่างประเทศของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ พร้อมด้วยคณะตัวแทน ที่เดินทางเยือนไต้หวัน พร้อมทั้งระบุว่า “คณะผู้แทนการค้าผลผลิตการเกษตรที่เป็นมิตร” ที่รวบรวมขึ้นจากกระทรวงเกษตรไต้หวัน เพิ่งปิดฉากการเดินทางเยือนสหรัฐฯ เมื่อช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับการนำคณะตัวแทนผู้ประกอบการสหรัฐฯ หลายสิบราย เดินทางเยือนไต้หวันในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงสัมพันธไมตรีอันดีงาม และความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนอันแนบแน่น ระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ
 
ปธน.ไล่ฯ กล่าวว่า ในปัจจุบัน ไต้หวันเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับที่ 7 และเป็นตลาดส่งออกผลผลิตการเกษตรที่ใหญ่เป็นอันดับ 7 ของสหรัฐฯ ส่วนสหรัฐฯ ก็เป็นจุดหมายปลายทางการลงทุนในต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดของไต้หวัน อีกทั้งยังเป็นตลาดส่งออกผลผลิตการเกษตรที่ใหญ่ที่สุดของไต้หวันอีกด้วย ทั้งหมดนี้ล้วนแต่แสดงให้เห็นถึงการเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน รวมถึงความร่วมมืออันแข็งแกร่ง ในด้านการเกษตร เศรษฐกิจและการค้าแบบทวิภาคี
 
ปธน.ไล่ฯ กล่าวว่า ระยะที่ผ่านมา ไต้หวันได้รวบรวมคณะตัวแทนด้านการเกษตร เดินทางเยือนกรุงวอชิงตัน ดีซี และมลรัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องด้านการเกษตร ซึ่งครอบคลุมถึงรัฐเซาท์ดาโคตา ซึ่งเป็นฐานที่พักอาศัยของรมช. Lindberg แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของไต้หวันในการเดินหน้ายกระดับความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนทางการค้า ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ พร้อมกันนี้ ปธน.ไล่ฯ ยังระบุว่า ในระหว่างการเดินทางเยือนสหรัฐฯ ในครั้งนี้ ผู้ประกอบการทั้งสองฝ่ายได้ร่วมลงนามหนังสือแสดงเจตจำนงการซื้อสินค้า โดยผู้ประกอบการไต้หวันวางแผนจะจัดซื้อผลผลิตการเกษตรจากสหรัฐฯ ทั้งถั่วเหลือง ข้าวสาลี ข้าวโพดและเนื้อวัว ตลอดระยะเวลา 4 ปีข้างหน้าในมูลค่ารวม 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์คุณภาพสูง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในอุตสาหกรรมปศุสัตว์ของไต้หวัน ซึ่งผลผลิตการเกษตรของสหรัฐฯ ก็มีส่วนช่วยในการยกระดับความมั่นคงทางอาหารของไต้หวันด้วยเช่นกัน
 
ปธน.ไล่ฯ เน้นย้ำว่า ในด้านเทคโนโลยี ไต้หวันถือเป็นหุ้นส่วนทางความร่วมมือที่สำคัญและเชื่อถือได้ของสหรัฐฯ โดยในอนาคต พวกเราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะประยุกต์ใช้ข้อได้เปรียบทางอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงของไต้หวัน ในการเสริมสร้างความร่วมมือด้านนวัตกรรมทางเทคโนโลยี และความยืดหยุ่นของความมั่นคงทางอาหาร พร้อมทั้งระบุว่า ไต้หวันตั้งอยู่ใน “พื้นที่ระยะห่วงโซ่ที่ 1” และเป็นศูนย์กลางสำคัญของ “ห่วงโซ่อุปทานที่เป็นอิสระจากการพึ่งพาจีน” (Non – red Supply Chain)” เมื่อเผชิญหน้ากับความเสี่ยงและความท้าทายที่เกิดจากภูมิรัฐศาสตร์ เชื่อว่า การประสานความร่วมมือระหว่างประเทศรายรอบและกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน จะเป็นการธำรงปกป้องสันติภาพ เสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองระดับโลก ให้สามารถคงอยู่ต่อไปได้อย่างยั่งยืน
 
รมช. Lindberg ระบุว่า คณะตัวแทนในครั้งนี้เกิดจากการรวมตัวกันของภาคธุรกิจสหรัฐฯ รวม 25 ราย โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การเดินทางเยือนในครั้งนี้ จะสามารถช่วยผลักดันการจำหน่ายผลผลิตการเกษตรของสหรัฐฯ และเป็นการร่วมจัดตั้งความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนกับไต้หวันอย่างต่อเนื่อง
 
รมช. Lindberg ยังได้ถือโอกาสนี้ แสดงความขอบคุณต่อกลุ่มผู้บริโภคชาวไต้หวัน ที่ให้ความสนใจในการสั่งซื้อผลผลิตการเกษตรจากสหรัฐฯ โดยสหรัฐฯ ครองส่วนแบ่งร้อยละ 25% ของผลผลิตการเกษตรและอาหารนำเข้าในไต้หวัน
 
รมช. Lindberg กล่าวว่า คณะตัวแทนเดินทางมาเยือนไต้หวัน ต่อเนื่องจากที่ “คณะผู้แทนการค้าผลผลิตการเกษตรที่เป็นมิตร” ที่นำโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรไต้หวัน เดินทางเยือนสหรัฐฯ เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งการมาเยือนในครั้งนี้ คณะตัวแทนยังได้นำข่าวดีมาแจ้งต่อรัฐบาลไต้หวันว่า รัฐบาลสหรัฐฯ มีมติอนุมัติให้สามารถขยายการนำเข้าสัปปะรดจากไต้หวัน เพื่อจำหน่ายสู่ท้องตลาดของสหรัฐฯ