ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
ตัวแทนประเทศพันธมิตรไต้หวันและบรรดามิตรประเทศ ทยอยเป็นกระบอกเสียงให้ไต้หวันในการอภิปรายทั่วไปของการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ครั้งที่ 80
2025-10-01
New Southbound Policy。ตัวแทนประเทศพันธมิตรไต้หวันและบรรดามิตรประเทศ ทยอยเป็นกระบอกเสียงให้ไต้หวันในการอภิปรายทั่วไปของการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ครั้งที่ 80 (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ)
ตัวแทนประเทศพันธมิตรไต้หวันและบรรดามิตรประเทศ ทยอยเป็นกระบอกเสียงให้ไต้หวันในการอภิปรายทั่วไปของการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ครั้งที่ 80 (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ)

กระทรวงการต่างประเทศและสำนักข่าว CNA วันที่ 25 – 30 ก.ย. 68
 
การอภิปรายทั่วไปของการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ (UNGA General Debate) ครั้งที่ 80 ปิดฉากลงแล้วเมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา ตลอดวาระการอภิปรายทั่วไปในครั้งนี้ กลุ่มประเทศพันธมิตรของไต้หวัน อาทิ เซนต์คิตส์และเนวิส เซนต์ลูเซีย เซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์ เบลีซและตูวาลู ต่างร่วมเรียกร้องให้องค์การสหประชาชาติ (UN) เปิดรับให้ไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมในระบบสหประชาชาติ พร้อมชี้ชัดว่า ญัตติที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ฉบับที่ 2758 ที่ประกาศใช้ในปี ค.ศ. 1971 มิได้ระบุถึงการกีดกันและการปฏิเสธการเข้าร่วมของไต้หวันในระบบสหประชาชาติ
 
Mr. Ralph Gonsalves นายกรัฐมนตรีเซนต์วินเซนต์ฯ อธิบายว่า ไต้หวันเป็นดินแดนแห่งสันติภาพและความจริงใจ การถูกปิดกั้นจากองค์การอนามัยโลก องค์การการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ การบินพลเรือนและองค์การตำรวจสากล ถือเป็นเรื่องที่เหลวไหลมาก
 
Mr. John Briceño นายกรัฐมนตรีเบลีซ เรียกร้องให้ UN เร่งบรรลุวิสัยทัศน์ “ไม่ละทิ้งผู้ใดไว้เบื้องหลัง” ด้วยการเปิดรับทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียม อย่างไรก็ตาม ตราบจนปัจจุบัน UN ก็ยังคงกีดกันการเข้าร่วมของไต้หวัน ซึ่งไม่เป็นไปตามหลักการข้างต้น ไต้หวันเป็นประเทศประชาธิปไตยที่มีการพัฒนาอย่างเจริญรุ่งเรือง และก้าวนำโลกในด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี เซมิคอนดักเตอร์ เทคโนโลยี AI เทคโนโลยีชีวภาพ และพลังงานหมุนเวียน เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญต่อความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทานโลก และการพัฒนาที่ยั่งยืน ตลอดที่ผ่านมา ไต้หวันส่งความความช่วยเหลือให้แก่นานาประเทศ ด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ซึ่งสร้างคุณประโยชน์ในการพิชิตเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ด้วยเหตุนี้ พวกเราจึงขอส่งเสริมให้ UN แสวงหาแนวทางที่เหมาะสม พร้อมทั้งให้การยอมรับว่า ไต้หวันเป็นหุ้นส่วนที่ไม่สามารถขาดได้ในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาความยั่งยืนของพวกเรา
 
Mr. Terrance Drew นายกรัฐมนตรีเซนต์คิตส์และเนวิส กล่าวว่า การกีดกันไต้หวันให้อยู่นอกองค์การระหว่างประเทศ อาทิ “องค์การอนามัยโลก” และ “องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ” เป็นการลดทอนศักยภาพการแก้ไขปัญหาระดับโลก คุณประโยชน์ที่ไต้หวันอุทิศให้แก่ประชาคมโลก ทั้งในด้านสาธารณสุข เทคโนโลยีและการรับมือกับภัยพิบัติ เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมและไม่มีการลำเอียง ช่องแคบไต้หวันไม่เพียงแต่เป็นเส้นทางการคมนาคมบนแผนที่โลกเท่านั้น แต่ยังเป็นเส้นทางการค้าและเส้นทางการเชื่อมโยงของมวลมนุษยชาติ พวกเราจึงควรที่จะกระตุ้นให้เกิดการเสวนาที่เป็นประโยชน์ แทนความขัดแย้ง
 
Mr. Feleti Teo นายกรัฐมนตรีตูวาลู กล่าวว่า พวกเราขอเรียกร้องให้ UN เปิดรับการเข้าร่วมของไต้หวันในการประชุมและกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากญัตติที่ประชุม ฉบับที่ 2758 มิได้ขัดขวางการเข้าร่วมอย่างมีความหมายของไต้หวันในระบบ UN
 
H.E. Surangel Whipps Jr. ประธานาธิบดีสาธารณรัฐปาเลา กล่าวเน้นย้ำในการอภิปรายว่า จีนจงใจบิดเบือนญัตติที่ประชุม ฉบับที่ 2758 อีกทั้งยังกล่าวอ้างว่า ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐประชาชนจีน ส่งผลให้ประชาชนชาวไต้หวัน จำนวน 23 ล้านคนไม่สามารถมีสิทธิ์มีเสียงได้ในเวทีนานาชาติ รัฐบาลปาเลาเชื่อมั่นว่า การเปิดรับซึ่งกันและกัน จะสามารถช่วยเสริมสร้างความครอบคลุมของระบบ UN ตลอดจนเห็นว่า ไม่ควรมีประเทศใดในโลก ที่ไม่สมควรเข้าร่วมสร้างคุณูปการในประเด็นต่างๆ ที่มีความเร่งด่วนให้แก่โลกใบนี้
 
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 24 ก.ย. H.E. Petr Pavel ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเช็ก ยังได้ระบุว่า การก่อกวนความสงบสุขของสถานภาพเดิมในช่องแคบไต้หวันและภูมิภาคอินโด - แปซิฟิก จะส่งผลให้ความมั่นคงและระบบเศรษฐกิจและการค้าโลก เกิดความสั่นคลอน
 
สมเด็จพระราชาธิบดีอึมสวาตีที่ 3 แห่งเอสวาตินี (H.M. King Mswati III) ทรงตรัสเรียกร้องให้ UN เปิดรับไต้หวัน เพื่อที่ไต้หวันจะสามารถสร้างคุณประโยชน์ที่ดียิ่งขึ้น ภายใต้เป้าหมาย “การพัฒนาที่ยั่งยืน” และเพื่อให้สอดคล้องตามพันธกิจที่ว่า UN จะไม่ละทิ้งผู้ใดไว้เบื้องหลัง
 
H.E. Santiago Peña ประธานาธิบดีสาธารณรัฐปารากวัย กล่าวว่า ขณะนี้เป็นช่วงเวลาแห่งการถอนรากถอนโคนความอยุติธรรมตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา เพื่อคว้าที่นั่งในที่ประชุม UN ให้แก่สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) นี่เป็นปัญหาความเท่าเทียมและยุติธรรม นอกจากนี้ H.E. Hilda C. Heine ประธานาธิบดีสาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชลล์ ก็ได้เน้นย้ำว่า ญัตติที่ประชุม ฉบับที่ 2758 มิได้ระบุว่าใครสมควรเป็นตัวแทนที่นั่งอยู่ในที่ประชุม UN พร้อมทั้งระบุถึงความจำเป็นของไต้หวัน ในการเข้ามีส่วนร่วมในการประชุม UN
 
ปธน. Heine กล่าวเพิ่มเติมว่า ไต้หวันที่เป็นประเทศที่ล้อมรอบด้วยมหาสมุทร แต่ถูกกีดกันการเข้าร่วมในกิจกรรมระดับนานาชาติ ภายใต้ระบบ UN แม้ว่าไต้หวันจะสวมบทบาทสำคัญต่อหมู่เกาะมาร์แชลล์และประชาคมโลก ทั้งในด้านความร่วมมือทางเทคโนโลยี การส่งเสริมสันติภาพในระดับภูมิภาค และการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แต่กลับถูกกีดกันให้อยู่นอกการประชุมสำคัญของ UN อย่างไม่สมเหตุสมผล