ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
รมว.กต.ไต้หวัน แสดงปาฐกถาพิเศษใน “สถาบันวิจัยไต้หวันโลก” คลังสมองของกรุงวอชิงตัน ดีซี โดยหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเดินหน้าเสริมสร้างความสัมพันธ์ ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง ในระหว่างการเปลี่ยนผ่านของโครงสร้างระบบระหว่างประเทศ
2025-10-03
New Southbound Policy。รมว.กต.ไต้หวัน แสดงปาฐกถาพิเศษใน “สถาบันวิจัยไต้หวันโลก” คลังสมองของกรุงวอชิงตัน ดีซี โดยหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเดินหน้าเสริมสร้างความสัมพันธ์ ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง ในระหว่างการเปลี่ยนผ่านของโครงสร้างระบบระหว่างประเทศ (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ)
รมว.กต.ไต้หวัน แสดงปาฐกถาพิเศษใน “สถาบันวิจัยไต้หวันโลก” คลังสมองของกรุงวอชิงตัน ดีซี โดยหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเดินหน้าเสริมสร้างความสัมพันธ์ ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง ในระหว่างการเปลี่ยนผ่านของโครงสร้างระบบระหว่างประเทศ (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ)

กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 2 ต.ค. 68

เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2568 ตามเวลาในเขตตะวันออกของสหรัฐฯ นายหลินเจียหรง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไต้หวัน ได้รับเชิญให้เข้าร่วมแสดงปาฐกถาพิเศษด้วยการบันทึกวีดิทัศน์ล่วงหน้าในการประชุมประจำปีของ “สถาบันวิจัยไต้หวันโลก” (Global Taiwan Institute, GTI) ซึ่งเป็นคลังสมองในกรุงวอชิงตัน ดีซี โดยรมว.หลินฯ ได้วิเคราะห์ถึงระบบการปฏิรูปขั้นพื้นฐานที่ทั่วโลกต้องเผชิญหน้าในปัจจุบัน พร้อมระบุว่า ภายใต้สถานการณ์การแข่งขันเชิงยุทธศาสตร์ ที่นับวันยิ่งรุนแรงขึ้น ประกอบกับบริบทของการเร่งปรับโครงสร้างห่วงโซ่อุปทาน ไต้หวันได้อาศัยห่วงโซ่ค่านิยมด้านประชาธิปไตยโลก และตำแหน่งที่ตั้งในพื้นที่ระยะห่วงโซ่ที่ 1 ในภูมิภาคอินโด - แปซิฟิก รวมถึงตำแหน่งเชิงยุทธศาสตร์ในห่วงโซ่อุปทานที่น่าเชื่อถือ พัฒนามาสู่กำลังสำคัญที่ไม่สามารถขาดได้ในการธำรงรักษาเสถียรภาพในภูมิภาค และความมั่นคงทางเศรษฐกิจระดับโลก
 
รมว.หลินฯ เน้นย้ำว่า ขณะนี้ เราต้องเผชิญหน้ากับภัยคุกคามจากจีนที่ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นทุกขณะ ทั้งการข่มขู่ด้วยกำลังทหาร การประยุกต์ใช้กลยุทธ์พื้นที่สีเทา การสร้างแรงกดดันทางเศรษฐกิจและสงครามจิตวิทยา เป็นต้น ภัยคุกคามเหล่านี้ได้แพร่กระจายไปสู่ประเทศรายรอบ ก่อให้เกิดความท้าทายอย่างหนักหน่วงต่อสันติภาพและเสถียรภาพในระดับภูมิภาค อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไต้หวันยังคงเดินหน้ารับมือด้วยจิตวิญญาณการปกป้องประเทศอันแรงกล้า ด้วยการเพิ่มพูนงบประมาณทางกลาโหมที่สูงเป็นประวัติการณ์ เพื่อการยกระดับแสนยานุภาพทางกลาโหม และจัด “การฝึกซ้อมครั้งใหญ่ที่เชื่อมโยงตัวเมือง – พื้นที่ชนบท เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการรับมือ” โดยได้ทำการยกระดับความยืดหยุ่นด้านการปกป้องภาคประชาสังคมยอย่างครอบคลุม การจำหน่ายอาวุธยุทโธปกรณ์ของสหรัฐฯ ต่อไต้หวัน นอกจากจะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการรับมือกับภัยคุกคามที่ไต้หวันต้องเผชิญหน้าแล้ว ยังกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมและเพิ่มโอกาสตำแหน่งงานในสหรัฐฯ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเอื้อประโยชน์แก่กันทางความร่วมมือด้านความมั่นคง ระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ
 
ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ ก่อเกิดเป็นรูปแบบในทิศทางเชิงลึกและเชิงกว้างอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน สหรัฐฯ ถือเป็นคู่ค้าที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของไต้หวัน ขณะที่ไต้หวันเป็นคู่ค้าที่ใหญ่เป็นอันดับ 7 ของสหรัฐฯ ในปี 2566 การลงทุนที่ไต้หวันมีต่อสหรัฐฯ ทั้งทางตรงและทางอ้อม ครองสัดส่วนกว่าร้อยละ 40% ของมูลค่าการลงทุนในต่างประเทศทั้งหมด ส่งผลให้สหรัฐฯ เป็นจุดหมายปลายทางการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดของไต้หวัน นอกจากนี้ รมว.หลินฯ ยังระบุว่า ข้อได้เปรียบของไต้หวันในด้านการผลิตทางเทคโนโลยีขั้นสูง และอุตสาหกรรมที่มีความแม่นยำสูง จะสามารถเป็นแรงสนับสนุนสำคัญต่อนโยบายการฟื้นฟูอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ ให้กลับมาผงาดขึ้นอย่างแข็งแกร่งอีกครั้ง อันจะเป็นการสร้างโอกาสงานและความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ ก่อให้เกิดเป็นความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนที่มีวัฏจักรอันดีงาม
 
สำหรับความร่วมมือทางเทคโนโลยี ได้กลายมาเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของการพัฒนาความสัมพันธ์ ระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ “5 อุตสาหกรรมหลักที่มีความน่าเชื่อถือ” ที่ยื่นเสนอโดยประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ ในจำนวนนี้ “เทคโนโลยี AI” ก้าวขึ้นครองบทบาทที่สำคัญ ส่วนเทคโนโลยีการผลิตแผ่นชิปทันสมัยของไต้หวัน ได้กลายมาเป็นแรงหนุนสำคัญในการพัฒนา AI ของสหรัฐฯ นอกจากนี้ รมว.หลินฯ ยังเน้นย้ำว่า เทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ทันสมัยของไต้หวัน และนวัตกรรมการประมวลผลควอนตัมของสหรัฐฯ ก่อเกิดเป็นกลไกที่เอื้อประโยชน์แก่กันอย่างครอบคลุม การบูรณาการเทคโนโลยีแนวหน้าระหว่างสองประเทศในเชิงลึก จะสามารถก่อให้เกิดการประยุกต์ใช้ที่ทลายกรอบจำกัดเดิมได้ ไต้หวันเตรียมพร้อมแล้วที่จะเข้าร่วม “แผนปฏิบัติการด้านเทคโนโลยี AI” ของสหรัฐฯ เพื่อร่วมยึดครองบทบาทสำคัญทางเทคโนโลยีในภายภาคหน้าอย่างยั่งยืนต่อไป
 
การประชุมปีนี้จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ ในระหว่างการเปลี่ยนผ่านของโครงสร้างระบบระหว่างประเทศ”  (A New Era for US-Taiwan Relations in a Changing International System) เพื่อมุ่งอภิปรายกันเชิงลึกในประเด็นวิสัยทัศน์ทางความร่วมมือด้านความมั่นคงทางกลาโหม การลงทุนทางเศรษฐกิจและการค้า รวมถึงเทคโนโลยีเกิดใหม่ ระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการอภิปรายและการเสวนาทางนโยบายในความสัมพันธ์เชิงลึก ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ สืบต่อไป