
ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 8 ต.ค. 68
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 8 ตุลาคม 2568 ประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ ผู้นำไต้หวัน ได้ให้การต้อนรับ Mr. Raúl Luis Latorre Martínez ประธานสภาผู้แทนราษฎรสาธารณรัฐปารากวัย พร้อมด้วยคณะตัวแทน โดยปธน.ไล่ฯ ได้อาศัยโอกาสนี้แสดงความขอบคุณต่อปารากวัย ที่ให้การสนับสนุนการเข้าร่วมในองค์การระหว่างประเทศของไต้หวัน อย่างหนักแน่นเสมอมา พร้อมกล่าวว่า ไต้หวัน – ปารากวัย เป็นประเทศพันธมิตรพี่น้องที่ต่างยึดมั่นในค่านิยมด้านประชาธิปไตยและเสรีภาพร่วมกัน และบังเกิดผลสัมฤทธิ์ทางความร่วมมือที่เด่นชัด ทั้งในด้านการศึกษา การเกษตรและปศุสัตว์ โครงสร้างพื้นฐานเชิงสาธารณูปโภค การส่งเสริมศักยภาพสตรี การแพทย์และเทคโนโลยี เป็นต้น โดยหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะจับมือกันเผชิญหน้ากับความท้าทายในยุคสมัยใหม่ ควบคู่ไปกับการธำรงไว้ซึ่งประชาธิปไตยและเสรีภาพ ตลอดจนสร้างคุณูปการที่เพิ่มพูนมากยิ่งขึ้นต่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองระดับโลก
ปธน.ไล่ฯ แสดงความขอบคุณต่อ Mr. Latorre และคณะตัวแทนที่ให้การสนับสนุนไต้หวันมาเป็นเวลานาน โดยเฉพาะ Mr. Latorre ที่ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงให้ไต้หวันบนเวทีนานาชาติหลายครา ประกอบกับรัฐสภาปารากวัยที่มุ่งให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมในองค์การระหว่างประเทศ ผ่านการประกาศแถลงการณ์ที่เป็นมิตรต่อไต้หวันอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ H.E. Santiago Peña ประธานาธิบดีสาธารณรัฐปารากวัย ก็ได้ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงให้การสนับสนุนไต้หวันในการอภิปรายทั่วไปของการประชุมสมัชชาสหประชาติ ครั้งที่ 80 ประจำปีนี้ พร้อมเน้นย้ำว่า “การกระทำในสิ่งที่ถูกต้อง เป็นสิ่งที่ไม่สามารถประเมินค่าได้” ไต้หวันสมควรที่จะมีที่ยืนบนเวทีสหประชาชาติ
ปธน.ไล่ฯ กล่าวว่า หลายปีมานี้ ภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาลและรัฐสภาปารากวัย ทั้งสองฝ่ายบังเกิดผลสัมฤทธิ์ทางความร่วมมือมากมายหลายประการ ทั้งในด้านการศึกษา การเกษตรและปศุสัตว์ โครงสร้างพื้นฐานเชิงสาธารณูปโภคและการส่งเสริมศักยภาพสตรี เป็นต้น จากการประสานความร่วมมือแบบทวิภาคี ขณะนี้ ได้มีการอัดฉีด “ระบบสารสนเทศทางการแพทย์” เข้าสู่สถานพยาบาลภาครัฐของปารากวัยเป็นจำนวนกว่าพันแห่งแล้ว เพื่อยกระดับคุณภาพการให้บริการทางการแพทย์ ประกอบกับ “มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไต้หวัน - ปารากวัย” (Universidad Politécnica Taiwán Paraguay, UPTP) ที่ได้ให้การบ่มเพาะเยาวชนยอดเยี่ยมให้แก่ปารากวัยแล้วกว่า 174 ราย นอกจากนี้ การเปิดตัวและการยกระดับของ “อุทยานเทคโนโลยีอัจฉริยะไต้หวัน - ปารากวัย” ก็ได้รับการจับตาโดยผู้ประกอบการไต้หวัน ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการยกระดับความร่วมมือทางภาคอุตสาหกรรมของสองประเทศ ในอนาคต ทั้งสองฝ่ายจะยังคงมุ่งผลักดันโครงการความร่วมมือ เพื่อสร้างความผาสุกให้แก่ภาคประชาชนอย่างต่อเนื่องสืบไป
Mr. Latorre กล่าวขณะปราศรัยว่า คณะตัวแทนในครั้งนี้ ประกอบด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร รวม 16 คน ที่มาจากพรรคการเมืองที่แตกต่างกัน เพื่อส่งผ่านข้อความที่ว่า ปารากวัยจะยืนหยัดเคียงข้างไต้หวันเสมอไป ภายใต้ค่านิยมด้านเสรีภาพ อำนาจอธิปไตยและประชาธิปไตย ที่พวกเราต่างยึดมั่นร่วมกัน โดยรัฐบาลปารากวัยจะยังคงมุ่งมั่นทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงให้ไต้หวันบนเวทีนานาชาติอย่างต่อเนื่องสืบไป
Mr. Latorre ระบุว่า ปารากวัยมีข้อได้เปรียบระดับสากลในด้านพลังงานสะอาดและการเกษตร ในปัจจุบัน เนื้อสุกรจากปารากวัย สามารถเข้าจำหน่ายในท้องตลาดไต้หวันได้ด้วยการปลอดภาษีศุลกากร ซึ่งได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้บริโภคชาวไต้หวันเป็นอย่างมาก ปารากวัยเป็นประเทศที่เปี่ยมไปด้วยโอกาสต่างๆ ประกอบกับมีสภาพแวดล้อมภาษีอากรที่ต่ำ การปันผลทางประชากร และมีศักยภาพการพัฒนาอุตสาหกรรม AI เพราะฉะนั้น การจับมือกับภาคอุตสาหกรรมไต้หวัน เชื่อว่าจะสามารถสร้างบริบทใหม่ทางความร่วมมือที่เอื้อประโยชน์แก่กันในระยะยาว