
กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 14 ต.ค. 68
การประชุมสมัชชาองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) สมัยสามัญ ครั้งที่ 42 ที่มีกำหนดการจัดขึ้น 3 ปีต่อครั้ง มีกำหนดการปิดฉากลงในวันที่ 3 ตุลาคม 2568 พลังเสียงสนับสนุนที่ประชาคมโลกส่งมอบให้ไต้หวัน นับวันยิ่งทวีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลายปีมานี้ จีนจงใจละเลยกฎระเบียบ ICAO เปลี่ยนแปลงเส้นทางการบิน M503 ด้วยการตัดสินใจโดยพลการ และจัดการฝึกซ้อมรบโดยไม่แจ้งเตือนล่วงหน้าในน่านฟ้าบริเวณรายรอบไต้หวันเป็นจำนวนบ่อยครั้ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อสันติภาพและเสถียรภาพ รวมถึงความมั่นคงการบินในระดับภูมิภาคอย่างรุนแรง นอกจากจะสร้างความวิตกกังวลให้แก่หลายประเทศแล้ว ยิ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความเหมาะสมและความจำเป็นในการเข้าร่วม ICAO ของไต้หวัน นับตั้งแต่การประชุมสมัยที่แล้ว ที่จัดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2565 เป็นต้นมา ประเทศทั่วโลกนับร้อย รวมทั้งบรรดานักการเมือง สมาชิกรัฐสภาและมิตรสหายในแวดวงต่างๆ นับหมื่นคน ต่างร่วมเป็นกระบอกเสียงให้ไต้หวันเข้าร่วมระบบสหประชาชาติ อาทิ ICAO และองค์การระหว่างประเทศอื่นๆ ด้วยวิธีการที่หลากหลาย กระทรวงการต่างประเทศไต้หวัน ขอแสดงความขอบคุณด้วยใจจริง
ในระหว่างการประชุมครั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของสหรัฐฯ ได้แสดงจุดยืนให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วม ICAO ติดต่อกันเป็นสมัยที่ 2 นอกจากนี้ Mr. Anthony Clare ผู้แทนถาวรสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ ยังได้แสดงจุดยืนต่อต้านญัตติที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ฉบับที่ 2758 ในการประชุมครั้งนี้เป็นครั้งแรก โดยได้ระบุว่า ญัตติข้างต้นมิได้กีดกันไต้หวันในการเข้าร่วม ICAO และหน่วยงานเฉพาะทางต่างๆ ประกอบกับรัฐบาลฝรั่งเศส เยอรมนีและนิวซีแลนด์ ต่างก็ร่วมเป็นกระบอกเสียงให้การสนับสนับสนุนด้วยวิธีการทางอ้อม ส่วนประเทศพันธมิตรของไต้หวันที่เป็นสมาชิก ICAO อาทิ ตูวาลู สาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชลล์ เซนต์คิดส์และเนวิส เซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์ เบลีซและสาธารณรัฐปารากวัย ต่างก็ประกาศจุดยืนผ่านแถลงการณ์และยื่นส่งหนังสือเรียกร้อง รวมถึงโพสต์ข้อความลงบนสื่อโซเชียลมีเดีย เพื่อเป็นกระบอกเสียงให้ไต้หวัน นอกจากนี้ สถาบันอเมริกาในไต้หวัน และสำนักงานตัวแทนรัฐบาลอังกฤษในไต้หวัน ต่างก็ให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วม ICAO ผ่านการโพสต์ข้อความลงบนสื่อโซเชียลด้วยเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ แถลงการณ์ “การประชุมที่ปรึกษาระดับรัฐมนตรี ระหว่างออสเตรเลีย - อังกฤษ”ที่ประกาศเมื่อเดือนกรกฎาคมปีนี้ และแถลงการณ์ร่วมหลังการพบปะพูดคุยของรัฐมนตรีการต่างประเทศ ระหว่างสหรัฐฯ ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ในนครนิวยอร์ก เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา รวมถึง Mr. Andreas Carrlson รัฐมนตรีว่าการกระทรวงโครงสร้างพื้นฐานและการเคหะของสวีเดน และ Mr. Simon Harris รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไอร์แลนด์ ต่างก็ระบุให้การสนับสนุนการเข้าร่วมองค์การระหว่างประเทศของไต้หวัน อาทิ ICAO นอกจากนี้ นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2567 เป็นต้นมา เจ้าหน้าที่ภาครัฐระดับสูงของนานาประเทศ อาทิ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่น และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของฝรั่งเศส เป็นต้น ต่างทยอยแสดงความห่วงกังวลด้วยวิธีการรูปแบบต่างๆ ต่อการเปลี่ยนแปลงเส้นทางการบิน M503 อย่างฉาบฉวย และเปิดใช้เส้นทางการบิน W121 , W122 และ W123 โดยพลการของจีน
สำหรับหน่วยงานสภานิติบัญญัติ วุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ และที่ประชุมสภาอีกกว่า 30 มลรัฐ รวมถึงอังกฤษ แคนาดา เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี ฝรั่งเศส สวีเดน ฮังการี สเปน อิตาลี ไอร์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ อิสราเอล เม็กซิโก อาร์เจนตินา อุรุกวัย กัวเตมาลา เซนต์คิดส์และเนวิส รวมถึงปารากวัย ต่างก็ให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วม ICAO อย่างเปิดเผยผ่านวิธีการรูปแบบต่างๆ พร้อมต่อต้านการเปลี่ยนแปลงเส้นทางการบิน M503 อย่างฉาบฉวยโดยรัฐบาลจีน
“คณะทำงาน ICAO” ที่นำโดยนายหลินจวิ้นเหลียง รองอธิบดีกรมการบินพลเรือน ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงคมนาคมไต้หวัน ได้ร่วมจัดการเสวนาแบบทวิภาคีรวม 27 รอบกับคณะตัวแทนและเจ้าหน้าที่องค์การที่เกี่ยวข้องกับการบินพลเรือนในช่วงระหว่างการประชุมสมัชชา ICAO นอกจากนี้ ยังได้มีการจัดงานแถลงข่าวนานาชาติขึ้นเป็นครั้งแรกในห้องแถลงการณ์สื่อแห่งชาติ (National Press Gallery) ในที่ประชุมรัฐสภาแคนาดา อีกทั้งยังได้รับการถ่ายทอดสดผ่านช่องทางโทรทัศน์และอินเทอร์เน็ตโดย Cable Public Affairs Channel (CPAC)
นอกจากนี้ บทความของนายเฉินซื่อไข่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมไต้หวัน บทความของสำนักงานตัวแทนรัฐบาลไต้หวันในต่างแดน และบทสัมภาษณ์ของผู้แทนรัฐบาลไต้หวัน รวมถึงบทความที่เป็นมิตรต่อไต้หวัน ต่างก็ได้รับการตีพิมพ์จากสื่อแนวหน้าของ 38 ประเทศ รวม 161 บทความ อาทิ “ข่าวสด” ของไทย “Sankei Shimbun” ของญี่ปุ่น “The Post Newspaper” ของสหรัฐฯ และ “The Hill Times” ของแคนาดา เป็นต้น
กต.ไต้หวันเน้นย้ำว่า ภายใต้ยุคสมัยที่เต็มไปด้วยความท้าทายอันหนักหน่วง ICAO ไม่ควรละทิ้งผู้ใดไว้เบื้องหลัง มีเพียงการเปิดรับการเข้าร่วมของผู้ที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน เฉกเช่นไต้หวัน จึงจะสามรถบรรลุเป้าหมาย “น่านฟ้าปลอดภัย อนาคตที่ยั่งยืน” (Safe Skies, Sustainable Future) ตามที่กำหนดโดย ICAO ด้วยเหตุนี้ กต.ไต้หวันจึงขอเรียกร้องให้ ICAO ตระหนักให้ความสำคัญต่อเสียงเรียกร้องของประชาคมโลกที่ให้การสนับสนุนไต้หวัน ยึดมั่นในหลักการเส้นทางสายกลาง ด้วยการติดต่อเชิญให้ไต้หวันเข้าร่วมการประชุม กลไกและกิจกรรมใดๆ ที่เกี่ยวข้องโดยเร็ววัน