
คณะกรรมการกิจการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วันที่ 16 ต.ค. 68
คณะกรรมการกิจการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (NSTC) พร้อมด้วยสภาวิจัยแห่งชาติไต้หวัน (Academic Sinica) กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ และกระทรวงกีฬา ร่วมจัด “คูหาเทคโนโลยีอนาคต (Future Tech, Futex)” ในงานมหกรรม Taiwan Innotech Expo (TIE) ที่เปิดฉากขึ้น ณ ศูนย์แสดงสินค้า Taipei World Trade Center (TWTC) อาคาร 1 โดยวันแรกของกิจกรรมเปิดตัวขึ้นในหัวข้อ “การประชุมหุ่นยนต์อัจฉริยะ : เส้นทางการแข่งขันในอนาคตของไต้หวัน” ซึ่งได้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญระดับโลกจากเยอรมนี สหรัฐฯ ญี่ปุ่นและไต้หวัน มุ่งเน้นไปที่หุ่นยนต์แอนดรอยด์ที่สร้างขึ้นมาเลียนแบบมนุษย์ การรับรู้ของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ การจำลองแบบระบบควบคุม และการประยุกต์ใช้ข้ามพรมแดน เพื่อเปิดการอภิปรายในประเด็นการบูรณาการหุ่นยนต์อัจฉริยะเข้าสู่การแพทย์ อุตสาหกรรมและการประยุกต์ใช้ในวิถีชีวิตประจำวัน ทั้งนี้ เพื่อรุกขยายโอกาสใหม่ในการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมของไต้หวัน
นายอู๋เฉิงเหวิน ประธาน NSTC กล่าวว่า หุ่นยนต์อัจฉริยะมีส่วนเกี่ยวพันกับศักยภาพทางการแข่งขันในอนาคต และเป็นรากฐานของวิถีชีวิตรูปแบบอัจฉริยะเพื่อประชาชน ซึ่งในปัจจุบัน ไต้หวันสวมบทบาทสถานภาพผู้นำสำคัญในด้านอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และการผลิตฮาร์ดแวร์ด้วย AI อีกทั้งยังมีรากฐานที่แข็งแกร่งในอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลความแม่นยำสูง ซึ่งเป็นการวางรากฐานที่ดีในภาคอุตสาหกรรมหุ่นยนต์อัจฉริยะ ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้ไต้หวันก้าวสู่การเป็นฐานห่วงโซ่อุปทานที่สำคัญสำหรับหุ่นยนต์ระดับโลก โดยในปีนี้ สภาบริหารได้อนุมัติการผลักดัน “โครงการส่งเสริมอุตสาหกรรมหุ่นยนต์อัจฉริยะ” เพื่อตอบสนองต่อความต้องการทางสังคม ควบคู่ไปกับการกระตุ้นตลาดอุปสงค์ภายในประเทศ ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้การประยุกต์ใช้หุ่นยนต์ AI ก้าวเข้าสู่สังคมและวิถีชีวิตของภาคประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะในด้านการดูแลทางการแพทย์ ร้านอาหารและที่พัก การตรวจสอบด้านโลจิสติกส์ การคมนาคมขนส่ง รวมถึงการเกษตร การประมงและการปศุสัตว์ เป็นต้น โดยหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะแก้ไขปัญหาความท้าทายด้านการขาดแคลนทรัพยากรบุคคล และดำเนินการในภารกิจที่มนุษย์ยากจะทำได้ ผ่านความมุ่งมั่นพยายามของทุกหน่วยงานภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรมและภาควิชาการ
Dr. Stan Birchfield ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยวิทยาศาสตร์ของบริษัท NVIDIA ได้ทำการวิเคราะห์กลไกการมองเห็นด้วยคอมพิวเตอร์ (Computer vision) และเทคโนโลยีการรับรู้แบบเรียลไทม์ ผนวกเข้ากับ AI และการประมวลผลประสิทธิภาพสูง อันเป็นการวางรากฐานสำหรับการบริหารความมั่นคงปลอดภัยของหุ่นยนต์แอนดรอยด์ นอกจากนี้ C. Karen Liu ศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดยังได้แนะนำกลไกการจำลองที่ทันสมัยและการประมวลผลแบบควบคุม พร้อมชี้แจงแนวทางการจำลองการเคลื่อนไหวของหุ่นยนต์ให้มีความคล้ายคลึงกับมนุษย์ที่สุด ควบคู่ไปกับการยกระดับการปรับตัวต่อสภาพแวดล้อม เพื่อเร่งการประยุกต์ใช้ในด้านการแพทย์และชีวิตประจำวัน
ไฮไลท์ของการประชุมครั้งนี้คือ ดร.ฟู่ลี่เฉิง ศาสตราจารย์ประจำมหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน และกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ ที่ร่วมกันอภิปรายในประเด็น“การขับเคลื่อนนวัตกรรมหุ่นยนต์ด้วย AI : แนวโน้มการพัฒนาระดับโลกและบทบาทเชิงยุทธศาสตร์ของไต้หวัน”โดยเน้นย้ำว่า หุ่นยนต์อัจฉริยะนอกจากจะเป็นปัจจัยสำคัญของการแข่งขันทางเทคโนโลยีระดับนานาชาติแล้ว ยังเป็นโอกาสสำคัญในการยกระดับอุตสาหกรรมของไต้หวันอีกด้วย โดยดร.ฟู่ฯ มองว่า พวกเราควรประยุกต์ใช้ข้อได้เปรียบด้านเซมิคอนดักเตอร์ เทคโนโลยีสารสนเทศและกลไกการบูรณาการอย่างเป็นระบบ ผสมผสานเข้ากับหุ่นยนต์อัจฉริยะ อัดฉีดเข้าสู่ด้านการผลิต การแพทย์และการศึกษา
คูหา Futex รวบรวมไว้ซึ่งผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการจำนวน 163 คน นำเสนอนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่ทันสมัย รวม 220 รายการ ผ่านการจัดตั้งคูหาการประยุกต์ใช้ AI และความร่วมมือระหว่างภาคอุตสาหกรรมและภาควิชาการ ภายใต้หัวข้อ “การประยุกต์ใช้ AI แบบข้ามแวดวง X การก้าวข้ามกรอบจำกัดด้านนวัตกรรม” รวมไปถึงคูหาที่จัดแสดงหุ่นยนต์อัจฉริยะ เทคโนโลยีควอนตัม เทคโนโลยีการกีฬา โครงการอุตสาหกรรมนวัตกรรมไต้หวัน (Taiwan Chip-based Industrial Innovation Program) และรางวัลเทคโนโลยีในอนาคต เป็นต้น