ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
รองปธน.เซียวเหม่ยฉินเข้าร่วมพิธีเปิด “การประชุมสุดยอดผู้นำความมั่นคงทางไซเบอร์ HITCON CISO Summit 2025”
2025-10-23
New Southbound Policy。รองปธน.เซียวเหม่ยฉินเข้าร่วมพิธีเปิด “การประชุมสุดยอดผู้นำความมั่นคงทางไซเบอร์ HITCON CISO Summit 2025” (ภาพจากทำเนียบประธานาธิบดี)
รองปธน.เซียวเหม่ยฉินเข้าร่วมพิธีเปิด “การประชุมสุดยอดผู้นำความมั่นคงทางไซเบอร์ HITCON CISO Summit 2025” (ภาพจากทำเนียบประธานาธิบดี)

ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 22 ต.ค. 68

เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 22 ตุลาคม 2568 รองประธานาธิบดีเซียวเหม่ยฉินได้เข้าร่วมพิธีเปิด “การประชุมสุดยอดผู้นำความมั่นคงทางไซเบอร์ (HITCON CISO Summit 2025)” พร้อมกล่าวว่า ความมั่นคงทางไซเบอร์เป็นรากฐานร่วมกันของความมั่นคงแห่งชาติและการพัฒนาอุตสาหกรรม เมื่อเผชิญหน้ากับภัยคุกคามด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ระดับโลก ไต้หวันจำเป็นต้องพัฒนาขีดความยืดหยุ่น ด้วยการพัฒนาไปสู่การเป็นประเทศชาติอัจฉริยะที่มีความยืดหยุ่น ความมั่นคงและเชื่อถือได้ ผ่านการประสานความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรมและหุ้นส่วนนานาชาติ
 
หัวข้อการประชุม HITCON ประจำปีนี้คือ “ความยืดหยุ่นด้านความมั่นคงทางไซเบอร์” (Cyber Resilience) โดยรองปธน.เซียวฯ ระบุว่า ความยืดหยุ่นที่แท้จริงมิใช่การหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาด แต่ถึงแม้ว่าจะล้มลุกคลุกคลาน ก็ยังสามารถกลับมายืนหยัดได้อย่างมั่นคงเช่นเคย เชื่อว่านี่คือความยืดหยุ่นและความกล้าหาญของไต้หวันที่แสดงออกมาในด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
 
รองปธน.เซียวฯ กล่าวว่า HITCON CISO Summit เป็นหนึ่งในการประชุมด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ที่สำคัญในภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก ที่มักจะเปิดการอภิปรายในประเด็นต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความมั่นคงแห่งชาติและการพัฒนาเศรษฐกิจ อาทิ เทคโนโลยี AI , ความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทานหรือการคุ้มครองโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ โดยหวังที่จะจัดตั้งเครือข่ายการป้องกันที่ครอบคลุม ผ่านการประสานความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคอุตสาหกรรมทั้งในและต่างประเทศ ด้วยวิธีการเสวนาและแลกเปลี่ยน
 
รองปธน.เซียวฯ ระบุว่า ความมั่นคงทางไซเบอร์เป็นรากฐานสำคัญใน 5 อุตสาหกรรมหลักที่น่าเชื่อถือ ประกอบกับไต้หวันตั้งอยู่ในตำแหน่งสำคัญในห่วงโซ่อุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงระดับโลก เพราะฉะนั้น ความท้าทายด้านความมั่นคงทางไซเบอร์จึงทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น พร้อมกันนี้ รองปธน.เซียวฯ ยังได้อ้างอิงคำกล่าวหนึ่งที่ระบุเกี่ยวกับ “ดินแดนประเทศชาติรูปแบบดิจิทัล” มาบรรยายว่าประเทศชาติจำเป็นต้องปกป้องสภาพแวดล้อมความมั่นคงทางไซเบอร์ เนื่องจากความมั่นคงทางไซเบอร์มีความเกี่ยวโยงกับวิถีชีวิตของภาคประชาชนอย่างไม่สามารถแบ่งแยกจากกันได้ ทั้งในด้านปัจจัยสี่ ความมั่นคงแห่งชาติและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ
 
รองปธน.เซียวฯ กล่าวว่า เมื่อเผชิญหน้ากับสงครามลูกผสมและการโจมตีทางไซเบอร์ พวกเราไม่สามารถต่อสู้เพียงลำพังได้ ในปีนี้ รัฐบาลได้ผลักดัน “โครงการพัฒนาความมั่นคงทางสารสนเทศแห่งชาติ ฉบับที่ 7” โดยมีเป้าหมายเพื่อสรรสร้างประเทศชาติรูปแบบอัจฉริยะที่มั่นคง มีความยืดหยุ่นและเชื่อถือได้ โดยจะทำการจัดตั้งนิเวศวิทยาอุตสาหกรรมและข้อระเบียบทางกฎหมายที่ครอบคลุม ผ่านการประสานความร่วมมือระดับนานาชาติ การแบ่งปันข่าวกรอง และการประสานความร่วมมือทางเทคโนโลยี ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้ไต้หวันจับมือกับประชาคมโลก ในการร่วมเผชิญหน้าความท้าทายรูปแบบใหม่ ภายใต้ยุคสมัยดิจิทัล
 
รองปธน.เซียวฯ กล่าวว่า ความมั่นคงทางไซเบอร์นอกจากจะเป็นภารกิจของรัฐบาลแล้ว ยังเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบร่วมกันของภาคประชาชน อีกทั้งยังเป็นแกนหลักสำคัญของ “ความยืดหยุ่นในการปกป้องภาคประชาสังคม” โดยในอนาคต พวกเราจะเดินหน้าสร้างความเชื่อมโยงกับหุ้นส่วนนานาชาติ เพื่อส่งเสริมให้ไต้หวันไม่เพียงแต่เป็นอาณาจักรแห่งเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังต้องเป็นเกาะที่มีความยืดหยุ่นด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ เชื่อว่าหากความมั่นคงทางไซเบอร์ ได้รับการพัฒนาในทิศทางที่ถูกต้องและแม่นยำ โอกาสที่ทั่วโลกจะประสานความร่วมมือกับไต้หวันก็จะยิ่งเพิ่มพูนมากขึ้น “ความมั่นคงทางไซเบอร์เป็นจุดเริ่มต้นของทุกความเชื่อมั่น”