ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
รมว.กต.ไต้หวันเข้าร่วมการประชุมความร่วมมือด้านความมั่นคงของสายเคเบิลใต้ทะเล ระหว่างไต้หวัน – ยุโรป พร้อมทั้งประกาศ “แผนริเริ่มบริหารจัดการความเสี่ยงของสายเคเบิลใต้ทะเลระดับนานาชาติ”
2025-10-29
New Southbound Policy。รมว.กต.ไต้หวันเข้าร่วมการประชุมความร่วมมือด้านความมั่นคงของสายเคเบิลใต้ทะเล ระหว่างไต้หวัน – ยุโรป พร้อมทั้งประกาศ “แผนริเริ่มบริหารจัดการความเสี่ยงของสายเคเบิลใต้ทะเลระดับนานาชาติ” (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ)
รมว.กต.ไต้หวันเข้าร่วมการประชุมความร่วมมือด้านความมั่นคงของสายเคเบิลใต้ทะเล ระหว่างไต้หวัน – ยุโรป พร้อมทั้งประกาศ “แผนริเริ่มบริหารจัดการความเสี่ยงของสายเคเบิลใต้ทะเลระดับนานาชาติ” (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ)

กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 28 ต.ค. 68

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศ สโมสรฟอร์โมซา (Formosa Club, FC) และศูนย์วิจัยทางเทคโนโลยี ประชาธิปไตยและสังคม (DSET) ร่วมกันจัด “การประชุมความร่วมมือด้านความมั่นคงของสายเคเบิลใต้ทะเล ระหว่างไต้หวัน - ยุโรป” ซึ่งนอกจากจะร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์การปฏิบัติจริงในความยืดหยุ่นของโครงสร้างพื้นฐานสำคัญใต้ท้องทะเลแล้ว ยังแสดงให้เห็นถึงพลังความร่วมมือที่เกิดจากความสามัคคีเป็นหนึ่งของพันธมิตรด้านประชาธิปไตย ในระหว่างการประชุม นายหลินเจียหรง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไต้หวัน ได้ยื่นเสนอ “แผนริเริ่มว่าด้วยการบริหารจัดการความเสี่ยงของสายเคเบิลใต้ทะเล” (RISK Management Initiative on International Undersea Cables) โดยได้เรียกร้องให้พันธมิตรประชาธิปไตยร่วมกันปกป้องความมั่นคงของโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ ซึ่งได้รับการยอมรับและการสนับสนุนจากสมาชิกสภาจากนานาประเทศ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการสกัดกั้นภัยคุกคามลูกผสมที่เกิดจากกลุ่มประเทศลัทธิอำนาจนิยม
 
รมว.หลินฯ กล่าวว่า สายเคเบิลใต้ทะเลมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจโลก ความยืดหยุ่นทางประชาธิปไตย และการพัฒนาที่เจริญรุ่งเรือง และเป็นรากฐานสำคัญของความร่วมมือแบบข้ามพรมแดน การแลกเปลี่ยนด้านพลังงาน และการไหลเวียนของข้อมูลสถิติ หลายปีมานี้ สายเคเบิลใต้ทะเลถูกทำลายโดยเจตนา จึงได้กลายมาเป็นประเด็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่ทั่วโลกกำลังเร่งเสริมสร้างกลไกการป้องกัน ซึ่งสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน ถือเป็นสินทรัพย์ร่วมกันของประชาคมโลก โดยไต้หวันจะยังคงเดินหน้าพิชิตเป้าหมายใน 4 มิติหลัก ประกอบด้วย กลไกการบรรเทาความเสี่ยง (Risk mitigation) การแบ่งปันข้อมูลสารสนเทศ (Information sharing) การปฏิรูประบบ (Systemic reform) และการสร้างองค์ความรู้  (Knowledge Building) เพื่อส่งเสริมให้เกิดการเสวนา การกำหนดมาตรฐานความเสี่ยง และการแบ่งปันแนวทางอย่างเป็นรูปธรรมของผู้ที่มีส่วนร่วมในผลประโยชน์
 
Mr. Rihards Kols สมาชิกคณะกรรมธิการด้านการต่างประเทศในรัฐสภายุโรป ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นประธานในการประชุมครั้งนี้ กล่าวว่า สายเคเบิลใต้ทะเลนอกจากจะเป็นชีพจรสำคัญที่เชื่อมโยงพันธมิตรด้านประชาธิปไตยทั่วโลกแล้ว ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่เชื่อมโยงพันธมิตรด้านประชาธิปไตยทั่วโลก ซึ่งระยะที่ผ่านมา สายเคเบิลใต้ทะเลในพื้นที่ทะเลแดง ทะเลบอลติกและช่องแคบไต้หวัน ต่างประสบกับความเสียหายที่เกิดจากความตั้งใจโดยเจตนา ด้วยเหตุนี้ สหภาพยุโรป (EU) จึงได้ยื่นเสนอ “แผนปฏิบัติการความมั่นคงสายเคเบิลใต้ทะเล” (EU Action Plan on Cable Security) เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดตั้งกลไกการป้องกัน การตรวจสอบ การตอบสนอง การตอบโต้และการสกัดกั้น โดย Mr. Kols หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะส่งเสริมการแบ่งปันข้อมูลสารสนเทศและการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบ กันระหว่าง EU และมิตรประเทศ รวมถึงหน่วยงานเอกชน โดยไต้หวันมีสถานภาพสำคัญในด้านโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลในภูมิภาคอินโด - แปซิฟิก และถือเป็นใจกลางยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่เชื่อมโยงประชาคมโลก และมีประสบการณ์การรับมือที่มากล้น อันเนื่องมาจากการประสบกับความท้าทายมาเป็นระยะเวลายาวนาน เสียงของไต้หวันจึงมีความสำคัญยิ่ง ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการติดต่อเชิญให้เข้าร่วมการเสวนาในระดับสากล ซึ่งหลังการประชุมเสร็จสิ้นลง ยังได้มีการจัดการประชุมเสวนาเพื่ออภิปรายแนวทางการเสริมสร้างความมั่นคงของสายเคเบิลใต้ทะเล ด้วยวิธีการที่เป็นรูปธรรม