กระทรวงพัฒนาดิจิทัล วันที่ 29 ต.ค. 68
เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2568 กระทรวงพัฒนาดิจิทัลของไต้หวัน (MODA) จัด “การประชุมเสวนาของกลุ่มผู้เชี่ยวชาญนานาชาติ ด้านอธิปไตยปัญญาประดิษฐ์ (Sovereign AI) และการพัฒนาอย่างยั่งยืน” (Sovereign AI and Sustainable Development International Expert Symposium) โดยได้ติดต่อเชิญ ดร.เจียงเซี่ยเหยียน นักวิจัยระดับอาวุโสของสถาบันวิจัยด้านการพัฒนาสังคมสารสนเทศของเกาหลีใต้ (Korea Information Society Development Institute, KISDI) ทำหน้าที่เป็นผู้บรรยายและผู้เข้าร่วมเสวนา เพื่อหารือแลกเปลี่ยนกับบรรดาผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ของไต้หวัน ในประเด็นการกำกับดูแลการใช้งาน AI , อธิปไตยดิจิทัล และการพัฒนาที่ยั่งยืน
นายจวงอิ๋งจื้อ อธิบดีกรมประสานงานระหว่างประเทศด้านดิจิทัล ภายใต้การกำกับของกระทรวงพัฒนาดิจิทัล กล่าวว่า เทคโนโลยี AI เป็นแกนหลักสำคัญในการพัฒนาศักยภาพการแข่งขันของประเทศชาติ ในระหว่างที่ประชาคมโลกทยอยกันพัฒนานวัตกรรม ก็ได้มีการจัดตั้งกลไกการกำกับดูแล AI และนโยบายทางกฎหมายอย่างกระตือรือร้นควบคู่ไปด้วย ทั้งนี้ เพื่อให้แน่ใจว่าการประยุกต์ใช้ทางเทคโนโลยี สอดคล้องกับหลักการทฤษฎีและความคาดหวังของภาคประชาสังคม ในปัจจุบัน องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) และองค์การระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง ยังคงผลักดันความร่วมมือและหลักทฤษฎีแบบข้ามพรมแดน ซึ่งไต้หวันก็เป็นประเทศที่ขานรับต่อแผนปฏิบัติการแบบพหุภาคีอย่างกระตือรือร้น ด้วยการเปิดการเสวนาทางนโยบายและเทคโนโลยี อธิบดีจวงฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า MODA จะยังคงพัฒนาความร่วมมือแบบข้ามแวดวง ระหว่างภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรมและภาควิชาการอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาในด้าน AI ที่เชื่อถือได้ การบริหารข้อมูลสารสนเทศและความยืดหยุ่นทางดิจิทัล ทั้งนี้ เพื่อผลักดันให้ไต้หวันก้าวสู่การเป็นประเทศดิจิทัลที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรมและความยั่งยืน
หัวข้อการประชุมในครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่ความท้าทายด้านการกำกับดูแล AI และอธิปไตยของข้อมูล ซึ่งครอบคลุมทั้งประสบการณ์การดำเนินภารกิจตามหลักการ AI ระดับสากล รวมถึงกลยุทธ์การพัฒนาอธิปไตยของข้อมูลในไต้หวัน - ญี่ปุ่น การจัดตั้งกลไกการกำกับดูแล AI ในพื้นที่ ตลอดจนแสวงหาโอกาสและความท้าทายที่เกิดจากการกำกับดูแล AI โดยในระหว่างการเสวนาของกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ ยังได้มีการอภิปรายแนวทางการบูรณาการ และแนวโน้มใหม่ด้านการกำกับดูแลอธิปไตย AI ในระดับสากล ตั้งแต่การเชื่อมโยงมาตรฐานทางเทคโนโลยี การเสริมสร้างอธิปไตยของข้อมูล ไปจนถึงความยืดหยุ่นทางดิจิทัล การสร้างเทคโนโลยีที่พึ่งพาตนเอง และการประสานงานด้านนโยบายแบบข้ามพรมแดน ทั้งนี้ เพื่อรุกขยายวิสัยทัศน์ใหม่ด้านการกำกับดูแลและนโยบายด้านอธิปไตย AI
